จิตแพทย์ คือ แพทย์ผู้ที่ผ่านการอบรม สอบได้วุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรทางด้านจิตเวช จิตแพทย์เป็นผู้รักษาโรคทางจิต ซึ่งมีอาการผิดปกติเกี่ยวกับความรู้สึก ความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม
เส้นทางของการเป็นจิตแพทย์ คือ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- เรียนแพทย์ทั่วไป 6 ปี
- ไปทำงานเพิ่มพูนทักษะในต่างจังหวัดหรือการทำงานใช้ทุน 1-3 ปี
- เรียนต่อเฉพาะทางด้านจิตเวช (Psychiatry) แยกเป็น 2 หลักสูตร คือ
- หลักสูตรจิตแพทย์ทั่วไป หรือ จิตแพทย์ผู้ใหญ่ 3 ปี
- จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น 4 ปี
สรุปคือ การเป็นจิตแพทย์ต้องเรียนอย่างน้อย 9 ปี จะเห็นว่าจิตแพทย์ต้องจบแพทย์มาก่อน จึงมีความรู้ความสามารถในระดับแพทย์ทั่วไปด้วย จึงรักษาโรคทั่วๆ ไป เช่น ไข้หวัด เบาหวาน ความดัน ฯลฯ ได้ด้วย
จิตแพทย์ทำหน้าที่อะไรบ้าง
- ให้คำปรึกษา แนะนำ กรณีที่ไม่ได้เจ็บป่วย ไม่ได้เป็นโรคอะไร ก็สามารถรับคำปรึกษาปัญหาต่างๆ จากจิตแพทย์ได้ เช่น ปรึกษาปัญหาครอบครัว ปัญหาพัฒนาการเด็ก ปัญหาการเรียน ปัญหาชีวิตคู่ ปรึกษาก่อนแต่งงาน ปัญหาความขัดแย้งในใจ
- รักษาโรคทางจิตเวช (Psychiatric disorders) ตัวอย่าง เช่น โรคซึมเศร้า โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคอารมณ์สองขั้ว เป็นต้น
- รักษาโรคทางระบบประสาท (Neurology) และประสาทจิตเวช (Neuropsychiatry) คือ โรคที่เกิดจากความผิดปกติของโครงสร้างบางส่วนของสมอง แล้วมีผลทำให้เกิดปัญหาเรื่องอารมณ์ พฤติกรรมและอาการทางจิต เช่น โรคอัลไซเมอร์ (Alzheimer’s disease) ภาวะบาดเจ็บที่สมอง (Traumatic brain injury) เป็นต้น
- เป็นส่วนหนึ่งในทีมรักษาร่วมกับแพทย์สาขาอื่นๆ เพื่อร่วมกันดูแลรักษาในแบบองค์รวม เช่น หน่วยผู้ป่วยวาระสุดท้าย (end of life care), หน่วยรักษาความเจ็บปวด (pain unit), การปลูกถ่ายอวัยวะ (organ transplantation), หน่วยโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke unit) เป็นต้น
จิตแพทย์รักษาผู้ป่วยอย่างไร
จิตแพทย์ใช้วิธีที่คล้ายกับแพทย์สาขาอื่นๆ ในการตรวจวินิจฉัยโรค ได้แก่
- การถามประวัติอาการ และ ข้อมูลจากการตรวจร่างกาย
- การตรวจเพิ่มเติมทางห้องปฏิบัติการ (laboratory examination) ในกรณีที่มีความจำเป็น เช่น การตรวจเลือด การส่งX-ray เป็นต้น
- การตรวจสภาพจิต (mental status examination) ซึ่งแสดงออกมาทาง อารมณ์ ความคิด และพฤติกรรม/อาการทางกาย โดยจิตแพทย์มีวิธีตรวจ ดังนี้
- อารมณ์ : สังเกตจากสีหน้า แววตา น้ำเสียง
- ความคิด : สังเกตจากวิธีการพูดและเนื้อหาของสิ่งที่พูด
- พฤติกรรม/อาการทางกาย : สังเกตจากความสะอาดของร่างกาย การแต่งตัว การแสดงออกไม่สอดคล้องกับสถานการณ์
- การบำบัดรักษา มีทั้งการใช้ยาและการทำจิตบำบัด ตามความเหมาะสมของโรค
บทความที่เกี่ยวข้อง
เมื่อไหร่ควรไปปรึกษาจิตแพทย์