เจ็บสะดือ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ และหลายครั้งก็ทำให้เรากังวลใจ เนื่องจากเรามักไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุอันตรายหรือไม่
สาเหตุของอาการเจ็บสะดือ
แท้จริงแล้วสาเหตุของอาการเจ็บสะดือนั้นมีมากมาย ทั้งที่ไม่อันตราย และเป็นอันตราย เราลองมาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง
1. เจาะสะดือ
การเจาะสะดืออาจเป็นแฟชันสุดแซ่บ! แต่ก็มีผลเสียกว่าที่คิด เพราะบริเวณที่เจาะนั้นอาจสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดแผลติดเชื้อ เนื่องจากดูแลทำความสะอาดไม่ดี หรือใส่จิวที่ไม่สะอาด อีกทั้งการถอดห่วงเจาะออกเองก็เสี่ยงต่อการเกิดแผลอักเสบติดเชื้อได้เหมือนกัน ซึ่งอาการที่มักเกิดขึ้นนอกเหนือจากเจ็บสะดือ คือผิวรอบสะดือบวมแดง มีเลือดและหนองไหลออกมา และอาจรู้สึกแสบคันด้วย
2. เกิดบาดแผล
การแคะ เขี่ย และทำความสะอาดสะดือไม่ถูกวิธี ก็อาจทำให้เกิดแผลที่สะดือได้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่พบได้บ่อยๆ และด้วยลักษณะของสะดือที่เว้าลงไปเป็นหลุม ทำให้บางครั้งเรามองไม่เห็นว่ามีบาดแผลเกิดขึ้น ดังนั้น ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการแคะเขี่ยสะดือจะดีกว่า
3. ผิวหน้าท้องขยาย
ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็อาจมีอาการเจ็บสะดือได้เหมือนกัน เนื่องจากผิวและกล้ามเนื้อหน้าท้องขยายตัวออก สะดือจึงถูกดึงรั้งจนรู้สึกเจ็บระคายเคืองได้ นอกจากนี้ ยังมักเกิดอาการคันหน้าท้องได้เช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นอาการปกติที่ไม่ต้องกังวล
4. อาการหลังผ่าตัด
หลังการผ่าตัดเนื้อเยื่อจะเกิดการซ่อมแซมตัวเองจนกลายเป็นพังผืด ยิ่งแผลผ่าตัดอยู่ใกล้สะดือมากเท่าไหร่ เวลาขยับตัวพังผืดก็จะดึงรั้งเส้นประสาททำให้เนื้อเยื่อบริเวณข้างเคียงเกิดอาการเจ็บจี๊ดๆ ไปด้วย ซึ่งหากเจ็บรุนแรงมากก็อาจทำให้เรารำคาญใจถึงขั้นทรมานได้
5. การใช้แรง/ยกของหนัก
การออกกำลังกายหรือยกของหนักจนเกิดแรงกดที่หน้าท้อง อาจทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้องหดเกร็งรุนแรงจนเสียหายหรือฉีกขาดได้ และยิ่งถ้าออกแรงแบบเดิมเป็นประจำ อาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นอักเสบจนกลายเป็นพังผืด เมื่อเราขยับตัวจะมีการดึงรั้งพังผืดจนรู้สึกเจ็บสะดือขึ้นมาเฉยๆ ได้
6. ลำไส้อักเสบ
การปวดตำแหน่งกึ่งกลางท้องและรอบสะดือนั้นอาจบ่งบอกถึงความผิดปกติของลำไส้ โดยเฉพาะโรคลำไส้อักเสบที่พบได้บ่อย และมักก่ออาการเจ็บท้อง ปวดบิด รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น ท้องร่วง ถ่ายเหลวมีมูกเลือด คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีไข้หนาวสั่นด้วย
7. มดลูกกดทับ
ในหญิงตั้งครรภ์ที่หน้าท้องมีขนาดใหญ่ขึ้น มดลูกจะขยายตัวจนไปกดทับกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องและเส้นประสาทรอบๆ จนทำให้รู้สึกเจ็บสะดือได้ ซึ่งเป็นอาการที่พบได้บ่อยและไม่อันตราย
8. ไส้เลื่อน
คือการที่ลำไส้เล็กเคลื่อนที่ไปกองอยู่ผิดตำแหน่ง ซึ่งสามารถเกิดกับบริเวณรอบๆ สะดือได้เหมือนกัน หากสาเหตุเกิดจากไส้เลื่อน มักพบก้อนบวมแถวๆ สะดือ รวมถึงอาจปวดมวนท้อง อาหารไม่ย่อย และคลื่นไส้อาเจียนด้วย
การรักษาอาการเจ็บสะดือ
การรักษานั้นแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ ซึ่งโดยหลักการแล้วจะมีแนวทางรักษาดังนี้
- หากสาเหตุมาจากไส้เลื่อน ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด หากเป็นโรคลำไส้อักเสบ สิ่งที่ต้องระวังคือภาวะร่างกายขาดน้ำ จึงต้องรักษาโดยการดื่มน้ำเกลือและให้สารน้ำชดเชยเป็นหลัก
- หากเกิดอาการเจ็บหลังการออกแรงหรือยกของหนัก ให้งดออกแรงกดที่หน้าท้อง เพื่อป้องกันกล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง
- หากเกิดบาดแผลอักเสบที่สะดือ ให้ใช้ก้านพันสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้อหรือแอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดเบาๆ และหากแผลมีการติดเชื้อแบคทีเรียก็อาจต้องทานยาปฏิชีวนะด้วย
การป้องกันอาการเจ็บสะดือ
สำหรับอาการเจ็บสะดือที่เกิดจากสาเหตุที่หลีกเลี่ยงได้ เราสามารถป้องกันได้ดังนี้
- หากรักจะเจาะสะดือ ควรดูแลความสะอาดให้ดี เลือกใส่จิวหรือห่วงเจาะที่สะอาด ผ่านการฆ่าเชื้อ และหากต้องการเอาห่วงออก ควรให้แพทย์เอาออกให้
- หลีกเลี่ยงการใช้เล็บหรือวัตถุปลายแหลมแคะเขี่ยสะดือ การทำความสะอาดควรใช้ก้านพันสำลีชุบน้ำเช็ดเบาๆ เท่านั้น
- หลีกเลี่ยงการยกของหนัก หรือออกแรงกดที่หน้าท้องอย่างหนักต่อเนื่องเป็นเวลานาน