การติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายนั้นเกิดเมื่อมีการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัสที่ส่งผลต่อต่อมน้ำลายหรือท่อน้ำลาย การติดเชื้อนั้นอาจจะเกิดจากการที่มีน้ำลายไหลน้อยลงซึ่งอาจจะเกิดจากการที่มีการอุดตันหรือการอักเสบในท่อน้ำลาย
น้ำลายนั้นช่วยในการย่อยอาหาร ทำให้อาหารนั้นแตกตัวและยังช่วยดูแลความสะอาดในปากด้วยการล้างแบคทีเรียและเศษอาหาร นอกจากนั้นยังช่วยควบคุมปริมาณแบคทีเรียชนิดที่ดีและไม่ดีในปาก เวลาที่น้ำลายนั้นไหลเข้ามาในปากได้น้อยลงจะทำให้มีแบคทีเรียและเศษอาหารที่ถูกทำความสะอาดลดลงซึ่งอาจทำให้เกิดการติดเชื้อได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ในร่างกายคนเรานั้นมีต่อมน้ำลายหลักๆ อยู่ 3 คู่ โดยอยู่ที่คนละซีกของใบหน้า ต่อม parotid นั้นเป็นต่อมที่มีขาดใหญ่ที่สุดและตั้งอยู่บริเวณแก้ม เหนือขากรรไกรและด้านหน้าต่อหู เวลาที่ต่อมใดต่อมหนึ่งหรือมากกว่านั้นมีการติดเชื้อจะเรียกว่า parotitis
สาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย
การติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายนั้นมักจะเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อที่พบว่าเป็นสาเหตุบ่อยที่สุดคือเชื้อ Staphylococcus aureus สาเหตุอื่นๆ ที่ทำให้เกิดการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายประกอบด้วย
- Streptococcus viridans
- Haemophilus influenzae
- Streptococcus pyogenes
- Escherichia coli
การติดเชื้อเหล่านี้เกิดจากการที่ร่างกายสร้างน้ำลายลดลงซึ่งมักจะเกิดจากการอุดตันหรือการอักเสบที่ท่อน้ำลาย นอกจากนั้นยังมีเชื้อไวรัสหรือโรคอื่นๆ ที่สามารถลดการผลิตน้ำลายได้ เช่น
- โรคหัด ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสที่พบบ่อยในเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน
- การติดเชื้อ HIV
- การติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิด A และเชื้อ parainfluenza ชนิดที่ I และ II
- เชื้อ herpes
- มีนิ่วในต่อมน้ำลาย
- ท่อน้ำลายอุดตันจากเมือก
- เนื้องอก
- Sjogren’s syndrome เป็นภาวะที่แพ้ภูมิคุ้มกันตัวเองรูปแบบหนึ่งที่ทำให้ปากแห้ง
- Sarcoidosis ภาวะที่ทำให้มีปื้นที่เกิดจากการอักเสบนั้นเกิดขึ้นทั่วร่างกาย
- การขาดน้ำ
- ภาวะทุพโภชนาการ
- การฉายแสงในการรักษาโรคมะเร็งที่ศีรษะและลำคอ
- การที่มีสุขภาพในช่องปากไม่สะอาดเพียงพอ
ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ปัจจัยต่อไปนี้จะทำให้มีแนวโน้มที่จะติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายเพิ่มขึ้น
- อายุมากกว่า 65 ปี
- ดูแลสุขภาพในช่องปากได้ไม่ดีพอ
- ไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคหัด
โรคเรื้อรังต่อไปนี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้
- การติดเชื้อ HIV
- โรคเอดส์
- Sjogren’s syndrome
- เบาหวาน
- ภาวะทุพโภชนาการ
- การติดแอลกอฮอล์
- Bulimia
- Xerostomia หรือกลุ่มอาการที่ทำให้ปากแห้ง
อาการที่พบ
อาการต่อไปนี้เป็นอาการที่อาจแสดงว่ามีการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย คุณควรไปพบแพทย์เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง เนื่องจากอาการเหล่านี้นั้นอาจจะคล้ายคลึงกับอาการที่เกิดจากโรคอื่นได้ อาการที่เกิดขึ้นประกอบด้วย
- มีกลิ่นปากผิดปกติเรื้อรัง
- ไม่สามารถอ้าปากสุดได้
- รู้สึกปวดเวลาที่อ้าปากหรือกินอาหาร
- มีหนองในปาก
- ปากแห้ง
- เจ็บปาก
- เจ็บที่ใบหน้า
- มีอาการแดงหรือบวมที่บริเวณขากรรไกรด้านหน้าต่อหู ใต้ขากรรไกรหรือที่พื้นของช่องปาก
- ใบหน้าหรือลำคอบวม
- มีอาการของการติดเชื้อเช่นมีไข้หรือหนาวสั่น
- ควรไปพบแพทย์ทันทีหากคนมีการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายและมีไข้สูง หายใจหรือกลืนลำบากหรือมีอาการรุนแรงขึ้น เพราะอาจจำเป็นต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน
ภาวะแทรกซ้อน
ภาวะแทรกซ้อนของการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายนั้นพบได้ไม่บ่อย หากไม่ได้รับการรักษา อาจจะทำให้มีหนองสะสมและทำให้เกิดหนองในต่อมน้ำลายได้
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายนั้นสามารถเกิดได้จากเนื้องอกที่ไม่ใช่เนื้อร้ายที่ทำให้ต่อมนั้นโตขึ้น เนื้องอกที่เป็นเนื้อร้ายนั้นจะโตอย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ใบหน้าข้างนั้นไม่สามารถขยับได้ และอาจจะส่งผลเฉพาะส่วนดังกล่าวหรือทั้งบริเวณก็ได้
ในรายที่มีการติดเชื้อที่ต่อม parotid อีกครั้ง อาจจะทำให้เกิดอาการบวมที่คออย่างรุนแรงซึ่งสามารถทำลายต่อมที่เกิดการติดเชื้อได้
คุณอาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อนได้หากการติดเชื้อแบคทีเรียในครั้งแรกนั้นมีการแพร่กระจายจากต่อมน้ำลายไปยังส่วนอื่นๆ ของร่างกาย เช่นการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังที่เรียกว่า cellulitis หรือ Ludwig’s angina ซึ่งเป็น cellulitis รูปแบบหนึ่งที่เกิดขึ้นที่พื้นของช่องปาก
การวินิจฉัย
แพทย์สามารถวินิจฉัยการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายได้ด้วยการตรวจร่างกาย หากพบหนองหรือมีอาการเจ็บที่ต่อมน้ำลายจะแสดงว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรีย หากแพทย์สงสัยว่ามีการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลาย อาจจะมีการส่งตรวจอื่นๆ เพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัยและหาสาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ
ตัวอย่างการตรวจทางรังสีวินิจฉัยต่อไปนี้สามารถช่วยวิเคราะห์การติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายที่เกิดจากหนอง นิ่ว หรือเนื้องอกได้
- การตรวจด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง
- การตรวจเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
- การตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
- แพทย์อาจจะมีการตัดชิ้นเนื้อบางส่วนของต่อมน้ำลายและท่อน้ำลายไปตรวจเพื่อทำการทดสอบเนื้อเยื่อหรือสารน้ำเพื่อหาเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
การรักษา
การรักษานั้นจะขึ้นกับความรุนแรงของการติดเชื้อ สาเหตุที่ทำให้เกิดการติดเชื้อ และอาการอื่นๆ ที่มีเช่นบวมหรือปวด อาจมีการใช้ยาปฏิชีวนะในการรักษาการติดเชื้อแบคทีเรีย หนองหรือไข้ และอาจจะมีการใช้เข็มเพื่อเจาะระบายหนองได้
การรักษาที่บ้านประกอบด้วย
- ดื่มน้ำผสมเลมอนวันละ 8-10 แก้วเพื่อกระตุ้นน้ำลายและต่อมน้ำลาย
- นวดต่อมน้ำลายที่มีอาการ
- ประคบอุ่นที่ต่อมน้ำลายที่มีอาการ
- ล้างปากด้วยน้ำเกลืออุ่น
- กินลูกอมรสเลมอนที่เปรี้ยวเพื่อกระตุ้นการหลั่งน้ำลายและลดอาการบวม
การติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายส่วนใหญ่นั้นมักจะไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด อย่างไรก็ตามการผ่าตัดนั้นอาจจะจำเป็นในรายที่มีการติดเชื้อเรื้อรังหรือกลับเป็นซ้ำ การผ่าตัดนั้นสามารถตัดส่วนหรือต่อม parotid ทั้งหมดหรือต่อม submandibular ได้
การป้องกัน
ไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันการติดเชื้อที่ต่อมน้ำลายส่วนใหญ่ได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือลดความเสี่ยงในการติดเชื้อด้วยการดื่มน้ำมากๆ และดูแลสุขภาพในช่องปาก ซึ่งรวมถึงการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันวันละ 2 ครั้ง