มะเร็งปอดเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ปกติภายในปอดเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์ผิดปกติ ซึ่งมีความสามารถในการเจริญเติบโตอย่างไม่จำกัด เซลล์เหล่านี้แบ่งได้หลายชนิดทำให้เกิดมะเร็งที่แตกต่างกันไป บางชนิดโตและลุกลามได้เร็ว ในประเทศไทยมะเร็งปอดคงเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในทั้งเพศชายและหญิง
ใครบ้างมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอด
- ผู้ที่สูบบุหรี่ และดมควันบุหรี่ (second hand smoker)
- ผู้ที่สัมผัสกับก๊าซเรดอน (radon) ซึ่งแปลงสภาพมาจากธาตุยูเรเนียมซึ่งเป็นก๊าซกัมมันตรังสี ก๊าซเหล่านี้สามารถมากับหิน ดิน ทราย เป็นวัสดุที่ใช้ก่อสร้างอาคาร
- ผู้ที่สัมผัส สูดดมโลหะหนักซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งได้แก่ สารหนู แคดเมี่ยม โครเมี่ยม นิกเกิ้ล เบอรีเลี่ยม ซิลิก้า ละอองน้ำมัน แร่ใยหิน
- ผู้ที่มีประวัติเป็นมะเร็งที่อวัยวะอื่น
- ผู้ที่มีโรคปอดเป็นโรคประจำตัว เช่น โรคถุงลมโป่งพอง
- ผู้ที่มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งปอด
อาการของมะเร็งปอดมีอะไรบ้าง
- ไอ หายใจเหนื่อย บางครั้งมีเสียงวี๊ดๆ เกิดจากก้อนเนื้องอกกดเบียดหลอดลมหรือเนื้อปอด
- ไอเป็นเลือด เกิดจากก้อนเนื้องอกลุกลามสู่หลอดเลือด
- เจ็บหน้าอกเวลาหายใจเข้าลึกๆ เกิดจากก้อนเนื้องอกทำให้เกิดเยื่อหุ้มปอดอักเสบหรือลุกลามไปยังเยื่อหุ้มปอด
- เสียงแหบ เกิดจากมีการกดเบียดหรือทำลายเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล่องเสียง โดยเส้นประสาทนี้อยู่บริเวณช่องอก
- ปวดศีรษะหน้าบวม แขนบวม พบได้กรณีมีภาวะอุดตันของหลอดเลือดดำจากก้อนเนื้องอกไปกดเบียด ทำให้เลือดดำของศีรษะ ใบหน้าและแขน ไหลกลับสู่หัวใจไม่สะดวกและเกิดการคั่งของเลือด จึงมีอาการบวม
- กรณีก้อนเนื้องอกอยู่บริเวณยอดปอด จะทำให้เกิดอาการปวดแขนหรือร้าวลงแขนและไหล่จากการกดบริเวณเส้นประสาทส่วนคอหากมีการกดเบียดถึงไขสันหลัง อาจทำให้เกิดอาการอ่อนแรงของมือได้ อาการหนังตาตกเนื่องจากระบบประสาทอัตโนมัติที่อยู่บริเวณใกล้กับยอดปอดถูกกดเบียด
การตรวจวินิจฉัย
กรณีมีอาการที่สงสัยว่าจะเป็นมะเร็งปอดแม้ภาพเอกซเรย์ปอดจะปกติ(พบได้ประมาณร้อยละ 25) แพทย์จะมีการตรวจเพิ่มเติมด้วยการถ่ายภาพทางรังสีที่ละเอียดกว่า เช่น เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) หรือ PET scan เมื่อเห็นก้อนในปอดที่สงสัยว่าแล้วจะทำการตัดชิ้นเนื้อไปตรวจว่าเป็นก้อนเนื้องอกชนิดใดต่อไป
ตรวจมะเร็งทั่วไปวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 340 บาท ลดสูงสุด 64%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ใครควรจะต้องตรวจคัดกรองโรคมะเร็งปอด
ในประเทศไทยยังให้การคัดกรองมะเร็งปอดเป็นแบบแล้วแต่โอกาสคือคัดกรองทำโดยอิสระขึ้นกับแต่ละสถานพยาบาล ซึ่งต่างกับการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งทวารหนักที่มีอยู่ในแผนสาธารณสุขระดับชาติที่รัฐสนับสนุน ซึ่งคัดกรองประชากรกลุ่มใหญ่
- ผู้อยู่ในกลุ่มมีความเสี่ยงสูงแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งปอดคือผู้ที่มีลักษณะดังนี้
- อายุระหว่าง 55-74 ปี ที่สูบบุหรี่มากกว่า 30 pack yearsและเลิกบุหรี่น้อยกว่า 15 ปี
- อายุมากกว่า 50 ปี ที่สูบบุหรี่มากกว่า 20 pack years และมีความเสี่ยงอื่นๆของมะเร็งปอด
- Pack years คำนวณจากจำนวนบุหรี่ที่สูบต่อวันเป็นปริมาณซอง คูณกับระยะเวลาที่สูบ เช่น สูบบุหรี่วันละ 20 มวน เป็นเวลา 10 ปี คือ สูบ 1 ซอง (มี 20 มวน) x 10 ปี = 10 pack years
การคัดกรองจะทำโดยการตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ สามารถเห็นก้อนในปอดได้ชัดเจนกว่าการตรวจภาพเอกซเรย์ปอดทั่วไป จากนั้นจะมีการนัดติดตามเป็นระยะขึ้นกับว่าตรวจพบอะไรบ้าง อย่างไรก็ตามการตรวจคัดกรองไม่สามารถการันตีว่าจะตรวจพบมะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกและรักษาได้หายขาด บางครั้งผลที่ตรวจได้เป็นผลลวงคือคัดกรองว่าเป็นมะเร็งในความเป็นจริงไม่ใช่มะเร็งเนื่องจากคัดกรองจากภาพเอกซเรย์ซึ่งไม่มีผลชิ้นเนื้อและผู้ป่วยต้องรับรังสีจากการถ่ายเอกซเรย์ ดังนั้นจึงไม่แนะนำให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำทำการตรวจคัดกรอง
การรักษามะเร็งปอดทำได้อย่างไร
หลังจากทำการตรวจว่าเป็นก้อนเนื้อชนิดเนื้อร้ายและทราบว่าเป็นมะเร็งขั้นไหนแล้ว แพทย์จะให้การรักษาประกอบด้วย
- ผ่าตัด จะทำในกรณีที่สามารถเอาก้อนเนื้องอกออกได้หมด
- การฉายแสง
- การให้ยาเคมีบำบัด
- การให้สารเพื่อเข้าไปทำลายเซลล์มะเร็งโดยเฉพาะเจาะจง
- การใช้วิธีการทางภูมิคุ้มกันเพื่อทำลายเซลล์มะเร็ง