ถุงลมโป่งพองเกิดเมื่อถุงลมภายในปอดถูกทำลาย
ถุงลมโป่งพองเป็น 1 ใน 2 ประเภทของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังซึ่งจัดเป็นกลุ่มโรคทางระบบหายใจที่ทำให้มีการอุดกั้นทางเดินหายใจและหายใจลำบาก ผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังส่วนมากมีอาการทั้งของโรคถุงลมโป่งพอง และโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง อ้างอิงจากสถาบันโรคหัวใจ ปอดและเลือดแห่งชาติ (NHBLI) ศูนย์ป้องกัน และควบคุมโรค (CDC) พบว่าในปี 2012 มีผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองมากถึง 4.1 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปีถึง 93% และพบว่าในช่วงที่ผ่านมา มีผู้ชายเป็นโรคถุงลมโป่งพองมากกว่าผู้หญิง โดยมีผู้ชายเป็นโรค 2.3 ล้านคนเมื่อเทียบกับผู้หญิงที่มี 1.8 ล้าคน ในปี 2011 มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากโรคนี้จำนวน 9352 คน
ถุงลมโป่งพองคืออะไร?
ถุงลมโป่งพองเกิดเมื่อถุงลมในปอดถูกทำลาย และโป่งพองออกทำให้หายใจไม่ได้ ในปอดแต่ละข้างจะมีถุงลมประมาณ 480 ล้านถุง เมื่อคุณหายใจเข้า ถุงลมจะขยายและยืดออก ทำให้ออกซิเจนเข้ามา และแลกเปลี่ยนเข้าสู่เลือดผ่านทางเส้นเลือดฝอยที่อยู่บริเวณผนังถุงลม ในขณะเดียวกัน คาร์บอนไดออกไซด์จะก็เคลื่อนที่ออกจากเลือดเข้าสู่อากาศเช่นกัน เมื่อคุณหายใจออก ถุงลมเหล่านี้ก็จะหดตัวลง ทำให้คาร์บอนไดออกไซด์ถูกขับออกผ่านทางการหายใจ อย่างไรก็ตามในผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพอง จะมีการทำลายผนังถุงลม และทำให้ถุงลมสูญเสียความยืดหยุ่น ทำให้หลอดลมตีบแคบลง การที่ถุงลมไม่สามารถยืดหยุ่นได้และหลอดลมตีบแคบนั้นทำให้ผู้ป่วยหายใจออกสุดได้ยากขึ้น นอกจากนั้นโรคนี้ยังสามารถทำให้ถุงลมแตกได้ ทำให้มีถุงลมจำนวนน้อยลง แต่ใหญ่ขึ้น และทำให้พื้นที่ผิวในการแลกเปลี่ยนก๊าซลดลง
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สาเหตุของการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง
โรคนี้ถือเป็นโรคทางระบบหายใจที่สามารถป้องกันได้มากที่สุดเนื่องจากมักเกิดจากการสูบบุหรี่ การสูบบุหรี่มีความเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังมากถึง 80-90% อ้างอิงจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ในการเกิดโรคถุงลมโป่งพอง เช่นการมีประวัติติดเชื้อในทางเดินหายใจบ่อยตอนเด็ก การเป็นโรคหอบหืด และการได้รับสารพิษในอากาศ จากควันบุหรี่ จากฝุ่น และควันในที่ทำงานเรื้อรัง โรคนี้อาจเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรมชื่อ alpha-1 antitrypsin (A1AT) deficiency ได้แต่พบน้อยมาก ผู้ป่วยในกลุ่ม A1AT deficiency นี้จะไม่สามารถผลิตโปรตีน A1AT ซึ่งทำหน้าที่ป้องกันปอดจากการทำลายของเอนไซม์ neutrophil elastase มีการยากที่จะระบุถึงจำนวนผู้ป่วยที่มีภาวะนี้ แต่มีการศึกษาในวารสาร Canadian Respiratory Journal ปี 2012 ที่เสนอว่าผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังประมาณ 5% อาจมีความผิดปกติทางพันธุกรรมดังกล่าว
อาการของโรคถุงลมโป่งพอง
อาการของโรคถุงลมโป่งพองประกอบด้วย
- หายใจลำบาก โดยเฉพาะระห่างการเคลื่อนไหวร่างกาย
- ไอเรื้อรัง
- มีการติดเชื้อในระบบหายใจบ่อยเช่นหลอดลมอักเสบหรือปอดติดเชื้อ
- หายใจมีเสียงวี๊ด
- เบื่ออาหารและน้ำหนักลด
- อ่อนเพลีย
- ตัวเขียวโดยเฉพาะที่ริมฝีปาก และปลายนิ้ว
- ปอดลักษณะเหมือนถังเบียร์ จากการที่มีถุงลมโป่งพองอยู่ข้างในเรื้อรัง
การวินิจฉัยและการรักษาโรคถุงลมโป่งพอง
โรคถุงลมโป่งพองมักวินิจฉัยจากการทำการทดสอบ เช่น
- Spirometry เป็นการประเมินการทำงานของปอด ซึ่งจะวัดปริมาณอากาศที่หายใจออกและความเร็วในการหายใจออก
- เอกซเรย์ปอด และเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ทำให้สามารถเห็นการทำลายของปอด
- Arterial blood gas เพื่อประเมินปริมาณออกซิเจนและคาร์บอยไดออกไซด์ในเส้นเลือดแดง
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เพื่อตัดโรคเกี่ยวกับหัวใจที่อาจมีอาการหายใจลำบากได้
- การทดสอบ A1AT deficiency
ในปัจจุบันไม่มีการรักษาที่สามารถรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังให้หาย หรือทำให้โรคดีขึ้นได้ แต่การหยุดสูบบุหรี่ และรับการรักษาจะช่วยชะลอการดำเนินโรค และเพิ่มคุณภาพชีวิต
การรักษาในส่วนของถุงลมโป่งพองเช่น
- ยาใช้ยา เช่นกลุ่มยาขยายหลอดลม ยาสเตียรอยด์ และยาปฏิชีวนะ (มักใช้เพื่อการรักษาการติดเชื้อในทางเดินหายใจ)
- ให้ออกซิเจนถ้าจำเป็น
- การให้ A1AT ถ้าจำเป็น
- การผ่าตัดปอดเพื่อตัดส่วนที่ถกทำลายแล้วออก หรือการเปลี่ยนถ่ายปอดในผู้ที่เป็นโรคขั้นรุนแรง
- การบริหารปอด ซึ่งจะทำให้คุณอยู่ร่วมกับโรคได้ดียิ่งขึ้น
ฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันการติดเชื้อบางชนิด
คุณพ่อเข้ารับการผ่าตัดเลือดออกในสมอง โดยรวมดีค่ะ แพทย์ พยาบาล ให้บริการรักษาดีมากๆ แต่ติดตรงก่อนผ่าตัดตรวจร่างกายพบถุงลมโป่งพอง หลังผ่าตัดจึงมีการใส่ท่อช่วยหายใจ ปัจจุบันใส่ท่อรวม 9วันแล้ว(ผ่าตัดวันที่ 24 ตค 60) ซึ่งเรื่องปอดน่าจะเป็นแพทย์ประจำบ้านในการตรวจดูแล รักษาอาการ เกรงว่าจะมีการหมุนเวียนแ...