DHC เป็นหนึ่งในแบรนด์อาหารเสริมและวิตามินที่มีชื่อเสียงของญี่ปุ่น มีขายทั่วไปในซูเปอร์มาร์เกต ร้านขายยา และร้านเครื่องสำอางทั่วไป เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ แบรนด์ DHC จึงเป็นที่นิยม
วิตามิน DHC มีอะไรบ้าง มีข้อแนะนำในการกินอย่างไร HonestDocs รวบรวมข้อมูลมาให้แล้วที่นี่
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
5 ประเภทของวิตามิน DHC
วิตามิน DHC สามารถแบ่งได้เป็น 5 ประเภทหลักๆ ดังต่อไปนี้
1. Vitamin C
วิตามินซี DHC มีลักษณะเป็นแคปซูลสีส้ม
สรรพคุณคือ ช่วยบำรุงผิว ลดรอยหมองคล้ำ จุดด่างดำ รอยฝ้ากระ ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ไม่ป่วยง่าย และลดอาการภูมิแพ้ จึงแนะนำให้รับประทานเป็นวิตามินพื้นฐาน
ในหนึ่งวันจะให้รับประทาน 2 แคปซูล ประกอบด้วยวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม และ วิตามินบี 2 2 มิลลิกรัม รับประทานหลังอาหารเช้าและเย็น (ครั้งละ 1 แคปซูล)
ต้องระวังการเก็บรักษา โดยไม่ควรเก็บในที่ที่ร้อนหรือโดนแดด เพราะวิตามินซีสลายตัวได้จากความร้อน และหากรับประทานมากเกินปริมาณที่แนะนำ (มากกว่า 2,000 มิลลิกรัม/วัน) อาจทำให้มีอาการวิงเวียน คลื่นไส้ และปวดหัวได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
2. Vitamin B-Mix
เป็นวิตามินบีรวมที่ช่วยป้องกันการเกิดสิว ลดปัญหาสิวเสี้ยน สิวอุดตัน และผดผื่นบนในหน้า ช่วยบำรุงสมองและประสาท ลดความเครียด เพิ่มพลังงาน ลดอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียได้
มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมรีสีส้ม และแนะนำให้รับประทานวันละ 2 เม็ด หลังอาหารเช้าและเย็น (ครั้งละ 1 เม็ด) พร้อมน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องหรือน้ำอุ่น โดยในสองเม็ดนี้จะครอบคลุมปริมาณวิตามินบีที่ควรได้รับต่อวันอย่างครบถ้วน นั่นคือใน 2 เม็ด ปริมาณ 400 มิลลิกรัม ประกอบด้วย
- วิตามินบี 1 - 40 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 2 - 30 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 3 - 40 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 5 - 40 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 6 - 30 มิลลิกรัม
- วิตามินบี 7 - 50 ไมโครกรัม
- วิตามินบี 9 - 200 ไมโครกรัม
- วิตามินบี12 - 20 ไมโครกรัม
- อิโนซิทอล - 50 มิลลิกรัม
แนะนำว่า ควรรับประทานวิตามินบีเฉพาะตอนที่ต้องการบำรุงร่างกายเท่านั้น ไม่ควรรับประทานต่อเนื่องเป็นเวลานาน เนื่องจากวิตามินบีมีอยู่ในอาหารทั่วไปอยู่แล้ว
หากได้รับมากเกินไปอาจทำให้มีอาการอาเจียน ทำลายระบบประสาทและทำให้ผิวไวต่อแสง ในการรับประทานวิตามินบี ปัสสาวะอาจเป็นสีเหลืองเข้ม ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดจากร่างกายขับวิตามินส่วนเกินออกมา
3. Vitamin E
วิตามินอี เป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้อ่อนนุ่ม ชุ่มชื้น ลดปัญหาผิวหยาบกร้าน ลดการอักเสบของผิวและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ดพร้อมมื้ออาหาร และแนะนำให้รับประทานร่วมกับวิตามินซีเพื่อช่วยเรื่องการดูดซึมด้วย
วิตามินอีของ DHC 1 เม็ดประกอบด้วยวิตามินอี (d-α-tocopherol) 301.5 มิลลิกรัม มีลักษณะเป็นเม็ดแคปซูลทรงกลมรีสีเหลืองทอง
ข้อควรระวังคือ หากรับประทานวิตามินอีมากเกินอาจทำให้เกิดอาการท้องอืด อาเจียน ท้องร่วงและปวดท้องได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
4. Collagen
คอลลาเจนของ DHC ประกอบคอลลาเจนสกัดจากปลาทะเลน้ำลึก และเป็นคอลลาเจนชนิดคอลลาเจนไฮโดรไลเซต (Collagen hydrolysate) ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็กและดูดซึมเข้าร่างกายได้ง่าย
มีสรรพคุณช่วยให้ผิวยืดหยุ่น เรียบเนียน เต่งตึง กระชับ และเพิ่มความแข็งแรงของชั้นผิวหนังและเสริมกระดูก ผลิตภัณฑ์นี้แนะนำให้รับประทานวันละ 6 เม็ด โดยอาจแบ่งรับประทานหลังอาหารครั้งละ 3 เม็ด 2 มื้อ หรือรับประทานครั้งเดียว 6 เม็ดเลยก็ได้ ใน 6 เม็ดประกอบด้วย
คอลลาเจนจากปลาทะเลลึก 2,050 มิลลิกรัม และเสริมด้วยวิตามินบี 1 - 14 มิลลิกรัม วิตามินบี 2 - 2 มิลลิกรัม เม็ดคอลลาเจน DHC มีลักษณะเป็นเม็ดทรงกลมสีครีม
ควรรับประทานตามปริมาณที่แนะนำข้างฉลาก หากใครมีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารทะเล อาจต้องหลีกเลี่ยง
5. Lycopene
ไลโคปีน เป็นสารเม็ดสีที่พบในผักผลไม้สีแดง-ส้ม โดยเฉพาะในมะเขือเทศ ซึ่งสารสีแดงนี้จัดเป็นสารแคโรทีนอยด์ประเภทหนึ่งซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง
ดังนั้นอาหารเสริมตัวนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่ต้องการดูแลผิวพรรณให้มีผิวพรรณที่สดใส สุขภาพดี มีชีวิตชีวา และยังช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิดด้วย เช่นมะเร็งผิวหนัง โดยแนะนำให้รับประทานวันละ 1 เม็ดเวลาไหนก็ได้และดื่มน้ำตามมากๆ หญิงมีครรภ์ไม่แนะนำให้รับประทาน
ควรเลือกวิตามิน DHC อย่างไร?
DHC มีผลิตภัณฑ์วิตามินและอาหารเสริมสำหรับบำรุงผิวให้เลือกหลายตัว จนหลายคนอาจสงสัยว่าแล้วควรจะเลือกรับประทานตัวไหนดี
คำตอบคือ คุณควรศึกษาและพิจารณาตัวเองก่อนว่าตอนนี้ตัวเองได้รับสารอาหารอะไรอยู่จากอาหารที่รับประทานทุกวัน และขาดสารอาหารอะไรบ้าง เช่น บางคนไม่ชอบรับประทานผักผลไม้ ก็อาจควรเสริมด้วยวิตามินซีในรูปแบบผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
บางคนไม่ชอบรับประทานมะเขือเทศ ก็อาจจะต้องการไลโคพีนเพิ่ม เพราะเป็นสารที่ร่างกายผลิตเองไม่ได้ แต่ถ้าหากรับประทานอาหารได้หลากหลายอยู่แล้ว ก็ขอแนะนำให้กินวิตามินเสริมเฉพาะช่วงร่างกายขาดการบำรุงจะเหมาะสมกว่า และไม่ควรกินวิตามินเสริมติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจเกิดการสะสมในตับ และทำให้ไตทำงานหนักได้
ดูแพ็กเกจตรวจระดับวิตามินในร่างกาย เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android