การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเป็นหนึ่งในการติดเชื้อแบคทีเรียที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิง และเป็นการติดเชื้อที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักเกิดขึ้นเมื่อเชื้อประจำถิ่น (normal flora - เชื้อที่อาศัยอยู่ในบริเวณจุดซ่อนเร้นของคุณ) ย้อนขึ้นไปตามท่อปัสสาวะ (urethra) และเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ โดยทั่วไปแล้วมักใช้คำว่าการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะกับการติดเชื้อที่ตำแหน่งใด ๆ ก็ตามของทางเดินปัสสาวะ ซึ่งไม่ได้จำกัดแค่กระเพาะปัสสาวะ แต่ยังรวมถึงทางเดินปัสสาวะ ท่อไต หรือไต (กรวยไตอักเสบ) อีกด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
เนื่องจากสรีระของผู้หญิง โดยเฉพาะการมีท่อปัสสาวะสั้น ทำให้ผู้หญิงมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้บ่อยกว่าผู้ชาย พูดอีกอย่างคือ องคชาติซึ่งมีท่อปัสสาวะที่ยาวกว่าทำหน้าที่เป็นสิ่งป้องกันการย้อนกลับขึ้นไปของแบคทีเรีย ความชุกของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะในผู้หญิงอายุน้อยคือประมาณ 2-3% และเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในผู้หญิงอายุ 65 ปี ผู้ชายที่มีต่อมลูกหมากโตก็มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมากขึ้นเช่นกัน
การรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะอาจเป็นเรื่องยุ่งยากด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรกคือ อาจวินิจฉัยได้ยาก ประการที่สองเป็นเรื่องความกังวลในการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสมของผู้ให้บริการทางสาธารณสุข และประการที่สาม แบคทีเรียบางชนิดที่ทำให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะดื้อยา โดยเฉพาะในผู้ที่อยู่ในสถานดูแล
ปกติแล้วกระเพาะปัสสาวะจะปราศจากเชื้อแบคทีเรีย เช่นเดียวกับปัสสาวะปกติ แต่เมื่อแบคทีเรียเข้าไปในระบบทางเดินปัสสาวะและอวัยวะสืบพันธุ์ ก็อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากมาย ซึ่งบางอย่างสามารถทำให้ถึงแก่ชีวิตได้
ในบทความนี้ ฉันจะเน้นไปยังเรื่องความหลากหลายของอาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ซึ่งเป็นการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ หรือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะแบบไม่ซับซ้อน (acute uncomplicated urinary infection) ที่สำคัญคือการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะแบบไม่ซับซ้อนเกิดขึ้นในผู้หญิงที่ไม่มีความผิดปกติของสรีระและจะหยุดอยู่ที่ระดับกระเพาะปัสสาวะโดยแบคทีเรียไม่ย้อนสูงขึ้นไปในไต (เป็นภาวะที่เรียกว่ากรวยไตอักเสบ)
อาการของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
นี่เป็นอาการที่อาจเกิดขึ้นได้ของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
- ปัสสาวะมาก (polyuria)
- เจ็บเวลาปัสสาวะ
- ปวดท้องหน่วง ๆ
- ปัสสาวะขุ่น
- ปัสสาวะเป็นเลือด
และหลายครั้งที่การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจะไม่มีอาการ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การวินิจฉัยการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
นอกเหนือจากอาการแสดง การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะยังอาจได้รับการวินิจฉัยจากการตรวจวิเคราะห์ปัสสาวะ (urinary analysis) ตัวอย่างปัสสาวะที่เก็บด้วยวิธี clean catch คือปัสสาวะที่เก็บหลังจากที่คุณปัสสาวะช่วงต้นลงโถไปแล้วเล็กน้อย ซึ่งจากการที่คุณปัสสาวะออกไปก่อน คุณจะล้างปัสสาวะที่มีแบคทีเรียติดอยู่ที่อวัยวะเพศ ซึ่งอาจมีผลต่อการทดสอบได้
การรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่ไม่มีอาการมักถือเป็นการพบโดยบังเอิญ และการวิจัยแสดงให้เห็นว่ามีประโยชน์เพียงเล็กน้อยในการรักษา ไม่ว่าจะในกลุ่มผู้ใช้ชีวิตในสังคม หรือผู้ที่อยู่ในสถานดูแล อย่างไรก็ตาม หญิงตั้งครรภ์ควรได้รับการตรวจหาและรักษาภาวะดังกล่าว เนื่องจากภาวะนี้มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกมีน้ำหนักตัวน้อย และยังเพิ่มความเสี่ยงที่แม่จะมีภาวะกรวยไตอักเสบ (การติดเชื้อของไต) อีกด้วย อย่างไรก็ตาม การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่มีอาการนั้นจำเป็นต้องให้การรักษา ซึ่งการรักษาที่มีประสิทธิภาพก็ขึ้นอยู่กับเชื้อแบคทีเรียก่อโรค
และต่อไปนี้คือยาบางชนิดที่มักใช้ในการรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่แสดงอาการ
- TMP/SMX (Bactrim)
- Fluoroquinolones (Ciprofloxacin)
- Amoxicillin
- Aminoglycosides (gentamycin หรือ tobramycin)
- Nitrofurantoin
ข้อควรสังเกตเรื่อง aminoglycosides: ถึงแม้ว่ายานี้จะทำให้เกิดภาวะเป็นพิษต่อหู (ทำลายการได้ยิน) และต่อไต แต่หากใช้เป็นระยะเวลาสั้น ๆ (2-3 วัน) ความเสี่ยงของการเกิดดังกล่าวก็มีน้อย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีการทำงานของไตบกพร่องก็ไม่ควรได้รับยานี้
ยากินสำหรับรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะมักต้องกินเป็นเวลา 3-5 วัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและการปฏิบัติตัวของผู้ป่วยในการกินยา แพทย์อาจเลือกรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะแบบไม่ซับซ้อนด้วยการฉีด Rocephin หรือ gentamycin หรือ tobramycin เข้ากล้ามเนื้อ เชื้อดื้อยา เช่น Entorococcus ที่ก่อให้เกิดการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจะได้รับการรักษาด้วย nitrofurantoin, linezolid, tigecycline และอื่น ๆ
มากกว่า 75% ของผู้หญิงที่ได้รับยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะจะหายจากโรค อย่างไรก็ตาม การกลับเป็นซ้ำก็พบได้บ่อย
การป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
โรคต่าง ๆ เช่น เบาหวาน มีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ ดังนั้น การควบคุมโรคดังกล่าวอย่างเหมาะสมก็ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะได้ หลายคนยังกล่าวอ้างว่าน้ำแครนเบอร์รี่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะที่แสดงอาการได้ และงานวิจัยบางชิ้นก็อธิบายว่าผู้หญิงที่อายุมากขึ้นและดื่มน้ำแครนเบอร์รี่ในปริมาณมากมีการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะน้อยกว่า อีกความเสี่ยงหนึ่งของการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะคือการใช้สายสวน
หากคุณหรือคนที่คุณรักกำลังมีอาการที่อาจจะเป็นการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ คุณก็ควรนัดพบแพทย์ปฐมภูมิเพื่อขอรับการรักษา การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะชนิดมีอาการที่ไม่ได้รับการรักษาสามารถกลายไปเป็นการติดเชื้อที่ร้ายแรงกว่าและทำให้เสียชีวิตได้ เช่น การติดเชื้อที่ไต (pyelonephritis) ซึ่งอาจทำให้ต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หรืออาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้