ปัญหาเกี่ยวกับลิ้น

เผยแพร่ครั้งแรก 6 ต.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 3 นาที
ปัญหาเกี่ยวกับลิ้น

ลิ้นของคุณสามารถเกิดความผิดปกติได้หลายแบบเช่น

  • ปวด
  • มีแผล
  • บวม
  • รับรสเปลี่ยนไปจากปกติ
  • เปลี่ยนสี
  • เปลี่ยนสัมผัส

ปัญหาส่วนมากนั้นมักจะไม่น่ากังวลแต่บางครั้งก็อาจจะเป็นอาการที่เกิดจากโรคประจำตัวที่ต้องได้รับการรักษา

คุณสามารถป้องกันปัญหาเกี่ยวกับลิ้นหลายอย่างได้ด้วยการดูแลสุขภาพทางช่องปาก หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับลิ้นแล้ว อาจจะมีวิธีการง่ายๆ บางอย่างที่สามารถช่วยบรรเทาอาการได้

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*

แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท

อาการของปัญหาที่เกี่ยวกับลิ้น

อาการที่คุณอาจจะพบว่าเกี่ยวกับลิ้นเช่น

  • สูญเสียการรับรสหรือรับรสเปรี้ยว เข็ม ขม หรือหวานผิดไปจากปกติ
  • ขยับลิ้นได้ลำบาก
  • ลิ้นบวม
  • ลิ้นเปลี่ยนสีหรือมีปื้นสีขาว สีชมพู สีดำหรือน้ำตาลขึ้นที่ลิ้น
  • อาการปวดซึ่งอาจจะเกิดทั้งลิ้นหรือเฉพาะบางส่วนก็ได้
  • รู้สึกแสบร้อนทั้งลิ้นหรือเฉพาะบางส่วน
  • มีปื้นสีแดงหรือขาวและมักจะมีอาการเจ็บ
  • ลิ้นดูฟูหรือมีขนมากขึ้น

สาเหตุ

อาการที่จำเพาะจะช่วยให้แพทย์สามารถวินิจฉัยสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ง่ายขึ้น

สาเหตุของอาการแสบร้อนที่ลิ้น อาการนี้มักจะเกิดในหญิงวัยหมดประจำเดือน และยังอาจจะเกิดหลังจากสัมผัสกับสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองเช่นควันบุหรี่

1.สาเหตุที่ทำให้ลิ้นเปลี่ยนสี

ลิ้นสีชมพูสดนั้นมักจะหมายถึงการขาดธาตุเหล็ก กรดโฟลิกหรือวิตามินบี 12 อาการแพ้กลูเตนนั้นก็อาจจะทำให้เกิดอาการนี้ได้เช่นกัน

ลิ้นสีขาวนั้นมักจะเป็นผลจากการสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์หรือไม่ดูแลช่องปาก การมีเส้นหรือตุ่มสีขาวนั้นอาจจะเป็นการอักเสบที่เรียกว่า oral lichen planus เชื่อว่าเกิดจากการมีระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติซึ่งอาจจะเกิดจากโรคอื่นๆ เช่นโรคตับอักเสบซีหรือภูมิแพ้

2.สาเหตุที่ทำให้สัมผัสของลิ้นเปลี่ยนไป

หากลิ้นดูฟูหรือมีขนมากกว่าปกติ อาจจะเกิดจากการได้รับยาปฏิชีวนะ หรือการฉายแสงที่บริเวณศีรษะและลำคอ อาการนี้ยังอาจจะพบได้หากคุณมีการสัมผัสกับสารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองมากเกินไปเช่นกาแฟ น้ำยาบ้วนปากหรือหากสูบบุหรี่

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

3.สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บที่ลิ้น

อาการเจ็บที่ลิ้นมักเกิดหลังจากการได้รับบาดเจ็บหรือการติดเชื้อ หากคุณกัดลิ้นตัวเอง คุณอาจจะเกิดแผลซึ่งต้องใช้เวลาหลายวันก่อนจะหายและมักจะทำให้เกิดอาการเจ็บ การติดเชื้อที่ลิ้นนั้นพบได้ไม่ค่อยบ่อย แต่สามารถทำให้เกิดอาการปวดและระคายเคืองได้ ตุ่มรับรสที่อักเสบนั้นอาจจะเกิดหลังจากถูกกัดหรือสัมผัสกับอาหารร้อนๆ และทำให้เกิดการระคายเคือง

แผลร้อนในนั้นก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเจ็บที่ลิ้นหรือใต้ลิ้น แผลร้อนในเหล่านี้ไม่มีสาเหตุชัดเจน และไม่ได้เกิดจากเชื้อ herpes virus เหมือนโรคเริม ร้อนในอาจเกิดจากการบาดเจ็ฐที่ปาก การใช้ยาสีฟันหรือน้ำยาบ้วนปากที่มีสารที่ทำให้เกิดการถลอก การแพ้อาหารหรือการขาดสารอาหาร ในผู้ป่วยส่วนใหญ่มักไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็สามารถหายได้เองโดยไม่ต้องรักษา

อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอาการเจ็บที่ลิ้นได้แต่น้อยก็คือโรคมะเร็ง ภาวะซีด โรคเริมที่ริมฝีปาก และการระคายเคืองจากการทำฟันหรือใส่เหล็กดัดฟัน

นอกจากนั้นยังอาจจะเกิดจากความผิดปกติทางเส้นประสาทได้ ซึ่งไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดแต่อาจจะเกิดจาก

5.สาเหตุที่ทำให้ลิ้นบวม

ลิ้นบวมอาจจะเป็นอาการของโรคต่างๆ เช่น

หากลิ้นนั้นบวมอย่างฉับพลัน มักเกิดจากการแพ้ ซึ่งอาจจะทำให้มีอาการหายใจลำบาก และจัดเป็นภาวะฉุกเฉิน หากคุณมีอาการดังกล่าวควรไปพบแพทย์ทันที

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!

จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง

การวินิจฉัยโรค

คุณควรไปพบแพทย์เพื่อให้แพทย์วินิจฉัยและวางแผนการรักษาโรคหากความผิดปกติที่ลิ้นนั้นรุนแรง ไม่สามารถอธิบายได้ หรือมีอาการเรื้อรังหลายวันและไม่ดีขึ้น

หรือหากคุณมีอาการต่อไปนี้

  • มีแผลขนาดใหญ่กว่าที่เคยมี
  • มีแผลเป็นซ้ำหรือเป็นบ่อย
  • มีอาการปวดซ้ำหรือปวดบ่อย
  • มีปัญหาเรื้อรังที่นานกว่า 2 สัปดาห์
  • อาการปวดลิ้นที่ไม่ดีขึ้นหลังจากใช้ยาแก้ปวดทั่วไป
  • ปัญหาเกี่ยวกับลิ้นที่เกิดร่วมกับการมีไข้สูง
  • กินอาหารหรือดื่มน้ำได้ลำบาก

ในระหว่างที่ตรวจ แพทย์จะทำการตรวจลิ้นอย่างละเอียดและสอบถามประวัติเกี่ยวกับลิ้นและอาการที่คุณเป็น เช่น

  • คุณมีอาการมานานเท่าไหร่
  • คุณมีการรับรสที่เปลี่ยนไปหรือไม่
  • คุณมีอาการปวดแบบไหน
  • คุณขยับลิ้นได้หรือไม่
  • คุณมีปัญหาอื่นๆ ภายในปากหรือไม่

หากแพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยจากการตรวจได้ อาจจะต้องมีการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม ส่วนมากมักจะต้องมีการเก็บตัวอย่างเลือดไปตรวจหรือตัดสาเหตุที่อาจทำให้เกิดอาการดังกล่าวได้ เมื่อได้การวินิจฉัยแล้ว แพทย์ก็จะแนะนำวิธีการรักษาที่จำเพาะต่อคุณ

การรักษาที่บ้าน

คุณสามารถบรรเทาหรือป้องกันปัญหาเกี่ยวกับลิ้นได้ด้วยการดูแลสุขภาพในช่องปาก แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ และไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ

หากคุณมีแผลร้อนในหรือมีแผลที่เกิดจากการบาดเจ็บที่ปาก คุณควรใช้วิธีต่อไปนี้

  • หลีกเลี่ยงอาหารร้อนและเผ็ด
  • ดื่มเฉพาะน้ำเย็น และรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย และเคี้ยวง่ายจนกว่าแผลจะหาย
  • คุณอาจจะใช้ยาแก้ปวดทั่วไปเพื่อลดอาการปวด
  • ล้างปากด้วยน้ำเกลืออุ่นหรือสารละลายที่ผสมระหว่างน้ำอุ่นกับเบกกิ้งโซดา
  • ประคบเย็นที่แผล
  • หากคุณยังคงมีอาการไม่ดีขึ้นหลังผ่านไปแล้ว 2-3 สัปดาห์ควรไปพบแพทย์

1 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป