กลุ่มยาสแตติน (Statins) คือ กลุ่มยาที่ช่วยลดระดับไขมันชนิดไม่ดีในกระแสเลือด (LDL) ซึ่งหากมีระดับไขมันชนิดนี้สูงจะส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างมาก อาจนำไปสู่การตีบตันของหลอดเลือดแดง หรือก่อให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจนอกจากนี้ยากลุ่มนี้ยังลดปริมาณไตรกลีเซอไรด์ (Triglyceride) และเพิ่มปริมาณไขมันตัวที่ดี (HDL) ได้
กลไกการออกฤทธิ์ของยากลุ่มสแตติน
ยากลุ่มสแตติน หรือเรียกอีกชื่อว่า HMG-CoA reductase inhibitors มีฤทธิ์ในการยับยั้งเอนไซม์ HMG-CoA Reductase ซึ่งเป็นเอนไซม์สำคัญที่กระตุ้นการสร้างสเตอรอล (Sterols) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสร้างคอเลสเตอรอลในตับต่อไป ดังนั้นด้วยกลไกนี้ยาจะช่วยลดระดับของคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดได้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
กลุ่มยาสแตตินที่ใช้ในประเทศไทย
การเลือกใช้ยากลุ่มสแตตินนั้นขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแพทย์สำหรับผู้ป่วยแต่ละราย มีหลากหลายชนิดและความแรง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของผู้ป่วย ระดับไขมันในเลือดของผู้ป่วย และโรคร่วมหรือโรคประจำตัวของผู้ปวยแต่ละราย ยาสแตตินสามารถแบ่งออกเป็นกลุ่มได้ตามประสิทธิในภาพในการลดไขมันชนิด LDL ดังตารางนี้
(ลดระดับ LDL ก่อนเริ่มรักษาลงได้มากกว่า 50%) |
(ลดระดับ LDL ก่อนเริ่มรักษาลงได้มากกว่า 30-50%) |
(ลดระดับ LDL ก่อนเริ่มรักษาลงได้มากกว่า 30%) |
---|---|---|
Atorvastatin 40-80 mg Rosuvastatin 20 mg |
Simvastatin 20-40 mg Atorvastatin 10-20 mg Rosuvastatin 5-10 mg Pravastatin 40 mg Fluvastatin 80 mg Pitavastatin 2-4 mg |
Simvastatin 10 mg Pravastatin 10-20 mg Fluvastatin 20-40 mg Pitavastatin 1 mg |
รายละเอียดของข้อดี-ข้อเสีย ของยาแต่ละตัว มีดังนี้
- Simvastatin เป็นยาแรกที่มักจะถูกเลือกใช้ เนื่องจากมีประสิทธิภาพดี ราคาไม่แพง และอยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล สำหรับลดไขมันในเลือดจะรับประทาน 10-40 มิลลิกรัม วันละครั้ง เวลาเย็น อย่างไรก็ตาม ยานี้อาจเกิดปฏิกิริยากับยาหลายชนิด มีผลข้างเคียงต่อตับ ไต และกล้ามเนื้อได้
- Atorvastatin รับประทาน 10-80 มิลลิกรัม วันละครั้ง ประสิทธิภาพสูง อยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล มีผลต่อไตน้อย จะใช้เมื่อผู้ป่วยใช้ยา Simvastatin ในขนาด 40 มิลลิกรัมติดต่อกัน 6 เดือนแล้วยังไม่สามารถควบคุมระดับ LDL ได้ถึงค่าเป้าหมาย หรือเกิดผลข้างเคียงจากยา Simvastatin ข้อเสียคือ ยานี้เกิดปฏิกิริยากับยาบางชนิดได้ เช่น ยาต้านไวรัส ยามะเร็งบางชนิด
- Fluvastatin รับประทาน 20-80 มิลลิกรัม วันละครั้ง มีประสิทธิภาพการลดไขมันต่ำกว่ายา Simvastatin แต่เกิดปฏิกิริยากับยาอื่นได้น้อยกว่า และมีผลต่อไตต่ำ ไม่อยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล
- Pitavastatin รับประทาน 1-2 มิลลิกรัม วันละครั้ง อาจเพิ่มขนาดรับประทานสูงสุดเป็น 4 มิลลิกรัมต่อวัน เกิดปฏิกิริยากับยาอื่นได้น้อย มีผลข้างเคียงต่อกล้ามเนื้อน้อย ไม่อยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล
- Pravastatin รับประทานที่ 10 มิลลิกรัม วันละครั้ง จากนั้นปรับเป็นขนาดเพื่อคงระดับการรักษา 10-40 มิลลิกรัมต่อวัน เกิดปฏิกิริยากับยาอื่นได้น้อยมาก แต่มีผลข้างเคียงต่อไตสูง ไม่อยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล
- Rosuvastatin รับประทานที่ 5-10 มิลลิกรัม วันละครั้ง หลังจากนั้น 2-4 สัปดาห์ อาจปรับขนาดรับประทานเป็นวันละ 20 มิลลิกรัม เป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการลด LDL ราคาสูง ไม่อยู่ในบัญชียาหลักในโรงพยาบาล ใช้เมื่อผู้ป่วยมีระดับ LDL สูงและใช้ยาอื่นไม่ได้ผล
ผลข้างเคียงของการใช้ยากลุ่มสแตติน
โดยทั่วไป ยากลุ่มสแตตินจะมีผลข้างเคียงต่ำ แต่ก็อาจมีได้ในบางราย ผลดังกล่าว ได้แก่ ปวดท้อง ปวดศรีษะ คลื่นไส้ เป็นต้น กลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลข้างเคียงจากกลุ่มยาสแตตินสูง ได้แก่ ผู้ป่วยที่เป็นโรคไตวาย ผู้ป่วยโรคหัวใจ
ยาสแตตินยังส่งผลให้เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อได้ โดยถ้าผู้ป่วยรู้สึกปวดกล้ามเนื้อ ไม่มีแรง ควรแจ้งให้แพทย์ทราบทันที แพทย์จะทำการตรวจเลือดเพื่อหาระดับครีเอติน ไคเนส (Creatine Kinase (CK)) ซึ่งจะเป็นสารที่หลั่งออกมาในเลือดเมื่อมีกล้ามเนื้ออักเสบหรือถูกทำลาย
ค่าครีเอติน ไคเนส หากมีการตรวจวัดได้เกินกว่า 5 เท่าของค่าปกติ แพทย์อาจสั่งให้หยุดยาสแตติน เมื่อค่าครีเอติน ไคเนส กลับสู่ปกติ แพทย์จึงจะแนะนำให้กลับมาใช้ยา แต่ในขนาดที่ต่ำลงกว่าเดิมเพื่อป้องกันการทำลายกล้ามเนื้ออีก