ซิฟิลิส (Syphilis) เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เข้าสู่ร่างกายผ่านทางเยื่อเมือก เช่น ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ ทวารหนัก ช่องปาก เยื่อบุตา รอยถลอก หรือบาดแผลเล็กน้อยที่ผิวหนัง และสามารถถ่ายทอดจากมารดาที่ติดเชื้อสู่ทารกน้อยในครรภ์ได้ โดยซิฟิลิสนั้น เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อว่า Treponema Pallidum หลังได้รับเชื้อแล้วจะแพร่กระจายเข้าสู่กระแสเลือด และลามไปสู่อวัยวะต่างๆ ในร่างกาย หากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาจทำให้เกิดความบกพร่องทางร่ายกาย พิการ วิกลจริต หรือเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม โรคนี้ไม่สามารถติดต่อกันได้ผ่านการสัมผัสมือหรือเสื้อผ้า การนั่งโถส้วม การสัมผัสสิ่งของที่ผู้รับเชื้อสัมผัส การใช้ช้อนส้อม หรือการใช้สระว่ายน้ำร่วมกัน
ตรวจ STD วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 76%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
อาการของซิฟิลิส
สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อและเป็นโรคซิฟิลิส จะมีการแสดงอาการออกมาเป็น 4 ระยะ ดังนี้
- ระยะแรก หรือระยะฟักตัว ประมาณ 21 วัน ในระยะแรกที่ติดเชื้อซิฟิลิส ผู้ได้รับเชื้อบางรายอาจไม่มีอาการแสดงให้เห็นเลยในช่วงแรก แต่หลังได้รับเชื้อประมาณ 2 สัปดาห์ไปจนถึง 3 เดือน ก็จะปรากฎอาการในระยะแรกให้เห็น ได้แก่ เกิดแผลเดี่ยวริมแข็ง หรือเป็นตุ่มแดงและแตกเป็นแผลบริเวณที่รับเชื้อ ขอบแผลแข็งนูน แต่ไม่เจ็บ โดยมักพบบริเวณอวัยวะเพศชาย อัณฑะ ทวารหนัก ช่องคลอด ริมฝีปาก และแผลเป็นมักจะหายไปเองในระยะเวลา 1-5 สัปดาห์ อาจพบต่อมน้ำเหลืองโตชนิดกดไม่เจ็บได้
- ระยะที่สอง เชื้อกระจายเข้าสู่กระแสเลือดและอวัยวะต่างๆ ในระยะ 2-10 สัปดาห์หลังอาการซิฟิลิสระยะแรก หรือ 3-4 เดือนหลังได้รับเชื้อ ระยะที่สองนี้ เชื้อจะแพร่กระจายผ่านกระแสเลือดไปยังอวัยวะต่างๆ และอาจส่งผลกระทบต่อผิวหนัง กระดู ระบบประสาทส่วนกลาง หัวใจ และหลอดเลือดได้ โดยอาการที่มักจะแสดงออกมา ได้แก่ มีผื่นขึ้นตามผิวหนัง ฝ่ามือ ฝ่าเท้า ปวดข้อ ต่อมน้ำเหลืองโต อ่อนเพลีย มีไข้ ปวดศีรษะ เจ็บคอ คลื่นไส้อาเจียน เป็นตุ่มบริเวณอวัยวะเพศ ข้อพับ ขาหนีบ ผมร่วงเป็นหย่อมๆ บางรายอาจจะมีอาการขนคิ้วร่วงร่วมด้วย หากไปตรวจเลือดในระยะนี้ จะพบว่าผลเลือดเป็นบวก
- ระยะแฝง ในระยะแฝง ผู้ป่วยซึ่งมีผลเลือดเป็นบวกจากการติดเชื้ออาจไม่มีอาการของโรคแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน ระยะนี้จะกินเวลา 2-30 ปี และหากผู้ที่ได้รับเชื้อเป็นสตรีที่กำลังตั้งครรภ์เชื้อจะสามารถติดต่อไปยังทารกน้อยในครรภ์ได้ บางรายอาจทำให้เกิดอาการแท้ง ทารกเสียชีวิตในครรภ์ หรือพิการได้
- ระยะที่สาม หรือระยะสุดท้าย ระยะนี้เป็นระยะที่เชื้อเข้าไปทำลายอวัยวะต่างๆ ทั้ง หัวใจ สมอง หลอดเลือด ดวงตา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อวัยวะเหล่านั้นอาจถูกทำลายจนไม่สามารถกลับมาเป็นปกติได้อีก บางรายอาจถึงขั้นวิกลจริต หูหนวก ตาบอด หรือเสียชีวิตได้
การรักษาซิฟิลิส
โรคซิฟิลิสสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาปฏิชีวนะ เช่น ยากลุ่มเพนิซิลลิน โดยการฉีดยาเพนนิซิลินสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ซึ่งระยะเวลาการรักษาขึ้นกับระยะของโรค ในรายที่แพ้ยาเพนิซิลลิน แพทย์จะให้รับประทานยาปฏิชีวนะบางกลุ่มแทน
วิธีป้องกันโรคซิฟิลิส มีอะไรบ้าง
- ไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย
- เข้ารับการตรวจคัดกรองโรคทางเพศสัมพันธ์เสมอ โดยให้คู่ของคุณเข้ารับการตรวจด้วย เพราะหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นพาหะนำโรค ก็จะไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้
- ป้องกันทุกครั้งเมื่อมีมีเพศสัมพันธ์
- หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่เป็นโรคซิฟิลิส หรือผู้ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรค
- ทำความสะอาดบริเวณอวัยวะเพศและร่างกายอยู่เสมอ
- หากสงสัยว่าตนอาจติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันที ไม่ควรซื้อยากินเอง