วิตามินดีเป็นวิตามินที่สังเคราะห์มาจากคอเลสเตอรอล และแสงอาทิตย์ นอกจากนี้เราสามารถพบวิตามินดีได้ในอาหารบางชนิดเท่านั้น ตัวอย่างเช่น ปลาที่มีไขมันสูง ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากนมชนิด Fortified ไข่ ฯลฯ อย่างไรก็ตาม ปริมาณของวิตามินดีที่เราควรได้รับต่อวันคือ 400-800 IU แต่มีการประมาณไว้ว่า มีคนกว่า 1,000 ล้านคนจากทั่วโลกที่มีวิตามินชนิดนี้ในเลือดต่ำ และหากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอ มันก็จะส่งสัญญาณเตือนดังนี้
1. ป่วยบ่อย
หนึ่งในบทบาทสำคัญของวิตามินดีคือ การช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง ทำให้คุณสามารถต่อสู้กับไวรัส และแบคทีเรียที่เป็นต้นเหตุของโรคต่างๆ ถ้าคุณป่วยบ่อย โดยเฉพาะการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจส่วนบน ไม่แน่ว่ามันอาจเกิดเพราะร่างกายมีระดับวิตามินดีต่ำก็ได้ค่ะ ซึ่งมีงานวิจัยหลายชิ้นได้พบความเชื่อมโยงระหว่างการขาดวิตามินดี และการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจอย่างโรคหวัด โรคหลอดลมอักเสบ และโรคปอดบวม โดยพบว่า การทานวิตามินดีแบบอาหารเสริมมากถึง 4,000 IU ต่อวัน อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อที่ทางเดินหายใจได้
ตรวจแร่ธาตุวิตามินวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 97 บาท ลดสูงสุด 68%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
2. อ่อนเพลียและเหนื่อยล้า
การที่คุณรู้สึกเหนื่อย บางทีมันอาจเกิดจากร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอค่ะ ซึ่งโชคร้ายที่หลายคนมักมองข้ามสาเหตุนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีกรณีศึกษาพบว่า การมีระดับเลือดที่ต่ำสามารถทำให้คุณอ่อนเพลียได้ และมีหลายงานวิจัยที่มองหาความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดี และอาการเหนื่อยล้าในผู้หญิงวัยหนุ่มสาว โดยพบว่า ผู้หญิงที่มีระดับเลือดต่ำกว่า 20 ng/ml หรือ 21-29 ng/ml มีแนวโน้มที่จะมีอาการเหนื่อยล้ามากกว่าคนที่มีระดับเลือดสูงกว่า 30 ng/ml ในขณะที่มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบความเชื่อมโยงระหว่างการมีระดับวิตามินดีต่ำและการเกิดความรู้สึกเหนื่อยล้า
3. ปวดกระดูก
วิตามินดีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาสุขภาพของกระดูก โดยสามารถช่วยให้ร่างกายนำแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้น การรู้สึกปวดที่กระดูก หรือหลังช่วงล่างอาจเป็นสัญญาณของการมีวิตามินดีในเลือดไม่เพียงพอ ทั้งนี้มีงานวิจัยหนึ่งได้ค้นหาความสัมพันธ์ระหว่างวิตามินดี และอาการปวดหลังในผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุมากกว่า9,000 คน โดยพบว่า คนที่ร่างกายขาดวิตามินดีมีแนวโน้มที่จะปวดกระดูก ซี่โครง หรือข้อต่อมากเกือบ 2 เท่า เมื่อเทียบกับคนปกติ
4. ซึมเศร้า
อาการซึมเศร้าอาจเป็นสัญญาณของการขาดวิตามินดี ซึ่งนักวิจัยได้พบความเชื่อมโยงระหว่างการขาดวิตามินดีกับอาการซึมเศร้า โดยเฉพาะในคนสูงอายุ และมีงานวิจัยที่อยู่ในการควบคุมพบว่า การให้วิตามินดีแก่คนที่มีระดับวิตามินดีต่ำกว่าปกติสามารถช่วยให้อาการซึมเศร้าบรรเทาลง โดยหมายความรวมถึงโรคซึมเศร้าตามฤดูกาล (Seasonal depression) ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนที่มีอากาศหนาว
5. แผลหายช้า
การที่แผลตามร่างกายที่เกิดจากการผ่าตัด หรือการบาดเจ็บหายช้ากว่าปกตินั้นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าร่างกายมีวิตามินดีต่ำค่ะ ซึ่งมีงานวิจัยพบว่า วิตามินดีมีส่วนช่วยเพิ่มการผลิตสารประกอบที่จำเป็นต่อการสร้างผิวใหม่ที่เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเยียวยาบาดแผล
6. สูญเสียมวลกระดูก
วิตามินดีมีหน้าที่สำคัญในการดูดซึมแคลเซียม และเมทาบอลิซึมของกระดูก ทั้งนี้มีผู้สูงอายุหลายคนที่ถูกตรวจพบว่าสูญเสียมวลกระดูก ซึ่งเชื่อว่าตัวเองจำเป็นต้องได้รับแคลเซียมมากขึ้น แต่อาจไม่ทันนึกว่า มันอาจเกิดจากการที่ร่างกายได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอเช่นกัน อย่างไรก็ดี มีงานวิจัยชิ้นใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมทดลองเป็นผู้หญิงวัยกลางคนมากกว่า 1,100 คน ที่อยู่ในช่วงวัยทอง หรือหลังวัยทอง โดยนักวิจัยพบความเชื่อมโยงระหว่างการมีระดับวิตามินดีต่ำและการมีมวลกระดูกต่ำ
7. ผมร่วง
ภาวะผมร่วงมักเกิดจากความเครียด และปัญหาทางอารมณ์ ซึ่งเป็นสาเหตุพื้นฐาน แต่หากผมร่วงอย่างรุนแรง ไม่แน่ว่ามันอาจมีต้นเหตุมาจากโรคร้าย หรือการขาดสารอาหาร ทั้งนี้มีการค้นพบว่า อาการผมร่วงในผู้หญิงมีความเชื่อมโยงกับการมีวิตามินดีในร่างกายต่ำ
8. ปวดกล้ามเนื้อ
การหาสาเหตุของการปวดกล้ามเนื้อมักเป็นเรื่องยาก แต่มีหลักฐานที่ระบุว่า การขาดวิตามินดีอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการปวดกล้ามเนื้อในเด็กและผู้ใหญ่ ซึ่งมีงานวิจัยที่ทำโดยใช้เด็ก 120 คน ที่มีร่างกายขาดวิตามินดี และมีอาการปวดกล้ามเนื้อ โดยพบว่า การทานวิตามินดีเพียงหนึ่งโดส สามารถบรรเทาความเจ็บปวดได้ประมาณ 57%
หากคุณลองสำรวจตัวเองแล้วพบว่ามีอาการข้างต้นมากกว่าครึ่ง คุณไม่ควรนิ่งนอนใจ และรีบไปพบแพทย์ค่ะ เพราะหากปล่อยไว้ล่ะก็ อาการก็จะยิ่งแย่ลง และทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา