เด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี
การที่เด็กเล็กได้ออกแรงหรือออกกำลังเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อพัฒนาการที่ดีและการเจริญเติบโตอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องสนับสนุนให้เด็กวัยนี้ได้ออกแรงหรือออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นการขยับอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายหรือการทำกิจกรรมต่างๆ ที่ได้ใช้แรง
จะช่วยให้เด็กเล็กๆ ได้ออกแรงบ้างได้อย่างไร?
ก่อนที่ลูกน้อยจะเริ่มคลาน คุณพ่อคุณแม่สามารถฝึกการใช้กล้ามเนื้อของเขาได้โดยการให้เขาได้พยายามคว้าหยิบของเล่นด้วยตนเอง เพื่อให้แขน ขา คอ และลำตัวได้ยืดเหยียด ในช่วงเวลาเล่นระหว่างวันหรือตอนที่ลูกน้อยกำลังคว่ำ และเมื่อลูกน้อยเริ่มคลานได้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรกระตุ้นให้ลูกน้อยได้ออกแรงมากเท่าที่จะทำได้ในพื้นที่ที่เตรียมไว้ที่มีความปลอดภัยและอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิด
คอร์สลดน้ำหนักออกกำลังกาย วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 441 บาท ลดสูงสุด 59%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เมื่อลูกน้อยสามารถเดินได้ด้วยตัวเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องกระตุ้นให้ลูกน้อยได้ทำกิจกรรมที่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ชั่วโมงต่อวัน โดยคุณแม่สามารถแบ่งช่วงเวลาออกไปในระหว่างวันให้ลูกน้อยได้เล่นทั้งในและนอกบ้าน เช่น การทำกิจกรรมที่ให้ลูกน้อยได้ลุกนั่ง วิ่ง กระโดด เดินเล่นรอบๆ ทั้งนี้ภายใน 3 ชั่วโมงควรมีกิจกรรมต่อไปนี้ เช่น ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ ปีนป่ายเครื่องเล่น เล่นลูกบอล เป็นต้น ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้ลูกน้อยได้ฝึกใช้กล้ามเนื้อแต่ละส่วนของร่างกายและได้ออกแรง
เหตุใดการช่วยให้เด็กเล็กได้ออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ?
เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ไม่ควรนั่งหรือนอนนิ่งๆ เป็นเวลานาน ยกเว้นเวลาที่ลูกน้อยกำลังนอนหลับ เช่นเดียวกันกับการนั่งดูทีวี การเดินทางโดยรถยนต์ รถโดยสาร รถไฟ หรือนั่งในรถเข็นเป็นเวลานานย่อมไม่ส่งผลดีต่อพัฒนาการทางด้านร่างกายของลูกน้อย โดยผลจากการศึกษาวิจัยยืนยันแล้วว่าพฤติกรรมดังกล่าวส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อย
สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 5 ปี ที่มีน้ำหนักเกินกว่าเกณฑ์ คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้สุขภาพของลูกน้อยดีขึ้นได้โดยกระตุ้นให้ลูกน้อยปฏิบัติตามคำแนะนำเกี่ยวกับการทำกิจกรรมที่เหมาะสมตามวัย หากคุณพ่อคุณแม่กำลังกังวลเรื่องน้ำหนักตัวของลูกน้อยที่มากกว่าเกณฑ์ แนะนำให้ขอคำปรึกษาจากกุมารแพทย์หรือนักโภชนาการเด็ก
เด็กที่มีอายุระหว่าง 5 – 18 ปี
เป็นเรื่องสำคัญที่เด็กและวัยรุ่นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์ และมีพัฒนาการที่ดีตามวัย พร้อมสำหรับการเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เพราะการออกกำลังกายถือเป็นการยืดกระดูกและกล้ามเนื้อที่ดีที่สุด และเพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีอยู่เสมอเด็กและวัยรุ่นอายุระหว่าง 5 – 18 ปี ควรปฏิบัติดังนี้
- ออกกำลังกายเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 60 นาที ไม่ว่าจะเป็นการปั่นจักรยาน การเดิน เล่นสเก็ตบอร์ด หรือว่ายน้ำ
- ใช้เวลาประมาณ 3 วันต่อสัปดาห์ในการทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่กระตุ้นการใช้กล้ามเนื้อ เช่น เตะบอล ฝึกยิมนาสติก ไต่ผาจำลอง และทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่กระตุ้นให้กระดูกแข็งแรง เช่น การเต้นรำ เต้นแอโรบิค หรือเล่นเทนนิส
เพื่อให้คุณสามารถออกกำลังกายได้ทุกวันๆ ละ 60 นาที แนะนำให้กำหนดตารางการออกกำลังกายไว้อย่างชัดเจนและปฏิบัติเพื่อให้เกิดความคุ้นเคยจนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน แนะนำให้เดินหรือปั่นจักรยานไปโรงเรียน เล่นหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งกับเพื่อนๆ เมื่อถึงเวลาพัก และเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมที่ใช้แรงช่วงสุดสัปดาห์
ลองสอบถามศูนย์กีฬาหรือศูนย์กิจกรรมในชุมชนเพื่อดูว่ามีกีฬาหรือกิจกรรมใดที่คุณสามารถเข้าร่วมได้หรือไม่ คงต้องมีกิจกรรมสักอย่างที่คุณทำได้ เพียงแค่ลองทำสิ่งใหม่ๆ คุณก็จะเจอสิ่งที่ชอบสักอย่าง!
คอร์สลดน้ำหนักออกกำลังกาย วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 441 บาท ลดสูงสุด 59%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
โดยกีฬาหรือกิจกรรมที่กลุ่มวัยรุ่นชื่นชอบ เช่น การเต้น ฝึกคาราเต้ เล่นฟุตบอล ว่ายน้ำ ฝึกยิมนาสติก ฯลฯ นอกจากนี้ยังพบว่าเกือบทุกโรงเรียนจะสนับสนุนให้นักเรียนได้เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมหลังเลิกเรียนด้วย
วัยผู้ใหญ่ที่มีอายุระหว่าง 19 – 64 ปี
เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ผู้ใหญ่วัย 19 – 64 ควรออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันและควรตั้งเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้
- ออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกายประเภทเผาผลาญไขมันอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ และออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกาย 2 แบบผสมกัน คือ ทั้งแบบเผาผลาญไขมันและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกสัปดาห์ เช่น วิ่ง 30 นาที จากนั้นเดินเร็วอีก 30 นาที จำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลาง 150 นาที นอกจากนี้ควรทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป
เพื่อรักษาสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ ผู้สูงอายุที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปควรออกกำลังกายใน 2 ลักษณะ คือ แบบเผาผลาญไขมันและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ แนะนำให้พยายามออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน ดังนี้
- ออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางอย่างน้อย 150 นาทีต่อสัปดาห์ และควรออกกำลังกายแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกายประเภทเผาผลาญไขมันอย่างน้อย 75 นาทีต่อสัปดาห์ และทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น
- ออกกำลังกาย 2 แบบผสมกัน คือ ทั้งแบบเผาผลาญไขมันระดับกลางและแบบเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อทุกสัปดาห์ เช่น วิ่ง 30 นาที จากนั้นเดินเร็วอีก 30 นาที จำนวน 2 ครั้งต่อสัปดาห์ จะเทียบเท่ากับการออกกำลังกายแบบเผาผลาญไขมันระดับกลาง 150 นาที นอกจากนี้ควรทำกิจกรรมหรือเล่นกีฬาที่เสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อหลัก อย่างขา สะโพก หลัง หน้าท้อง หน้าอก ไหล่ และแขน ประมาณ 2 วันต่อสัปดาห์หรือมากกว่านั้น