Learning Disorder (LD) คือ โรคบกพร่องทางการเรียนรู้ เป็นโรคที่เกิดในเด็กวัยเรียนที่มีระดับเชาวน์ปัญญาอยู่ในเกณฑ์ปกติ หรือสูงกว่า
คุณครู หรือผู้ปกครองหลายท่านมักเข้าใจผิดคิดว่า เด็ก LD คือ เด็กเรียนช้า หรือมีเชาวน์ปัญญาต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ แต่จริงๆ แล้ว LD เป็นโรคที่มีผลกระทบต่อการเรียนทำให้ผลการเรียนลดต่ำลง ส่งผลต่อพฤติกรรมการปรับตัวในชั้นเรียน เป็นภาวะบกพร่องในกระบวนการเรียนรู้ ซึ่งมักแสดงออกมาในรูปของปัญหาด้านการอ่าน การเขียน การคำนวณ การใช้เหตุผล รวมถึงปัญหาเกี่ยวกับทักษะการควบคุมกล้ามเนื้อมือและทักษะอื่นๆ ร่วมด้วย
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
LD เกิดจากอะไร
สาเหตุการเกิดโรค LD ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัด แต่จากงานวิจัยที่ผ่านมาสามารถสรุปสาเหตุ ได้ 3 ปัจจัยดังนี้
- ความผิดปกติของสมองซีกซ้าย
สมองส่วนนี้เป็นส่วนที่ควบคุมการแสดงออกทางด้านภาษา เด็กปกติสมองซีกซ้ายจะมีขนาดโตกว่าสมองซีกขวา แต่ในเด็ก LD จะมีสมองสองซีกเท่ากัน จากการศึกษาพบว่า เด็กคลอดก่อนกำหนด เด็กแรกเกิดที่มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าเกณฑ์ เด็กที่มีไข้สูง หรือภาวะสมองขาดออกซิเจนต่างมีภาวะเสี่ยงต่อโรค LD
- พันธุกรรม
จากการศึกษาพบว่าเด็ก LD มีความความผิดปกติของโครโมโซมคู่ที่ 15 และสมาชิกในครอบครัวมีประวัติเกี่ยวกับอาการ LD แต่อาจไม่ส่งผลต่อการเรียน การทำงาน และพฤติกรรมการปรับตัวที่เด่นชัดนัก
- สิ่งแวดล้อม
เช่น การได้รับพิษตะกั่วปนเปื้อนในอาหาร อากาศ น้ำ ซึ่งพิษตะกั่วจะทำลายเซลล์สมองบางส่วน หรือจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอทำให้พัฒนาการทางสมองไม่สมบูรณ์
LD แยกตามอาการสำคัญ
- ด้านคำนวณหรือคณิตศาสตร์ (Arithmetic)
ไม่เข้าใจค่าของตัวเลขและจำนวน เช่น ไม่รู้ค่าของเลขหลักหน่วย หลักสิบ หลักร้อยฯลฯ นับเลขไปข้างหน้า หรือถอยหลังไม่ได้ จำสูตรคูณไม่ได้ ไม่สามารถทำตามขั้นตอนคูณ-หารได้ โดยเฉพาะเลขหลายหลัก มีปัญหาการใช้สัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ด้านการอ่าน (Reading)
มีความยากลำบากในการอ่าน เช่น อ่านช้า อ่านคำต่อคำ อ่านข้ามคำ อ่านออกเสียงไม่ชัด ผันวรรณยุกต์ไม่ได้ ต้องสะกดคำจึงจะอ่านได้ อ่านแล้วจับประเด็น หรือเรียงลำดับเหตุการณ์ของเรื่องที่อ่านไม่ได้
- ด้านการเขียนสะกดคำ (Spelling)
เด็กมักเขียนตัวอักษร หรือตัวเลขสลับกลับกัน เช่น ม เป็น น ค เป็น ด p เป็น q d เป็น b, 6 เป็น 9 และไม่สามารถเขียนพยัญชนะ ก ถึง ฮ ได้ แต่สามารถบอกให้เขียนเป็นตัวๆ ได้
จะช่วยเด็ก LD ได้อย่างไร
ผู้ปกครอง คุณครู ครูการศึกษาพิเศษ นักจิตวิทยา และจิตแพทย์ ควรมีบทบาทในการช่วยเหลือเด็ก LD ร่วมกัน ดังนี้
- ฝึกให้เด็กอ่าน เขียนพยัญชนะควบคู่ไปกับการดูภาพประกอบ ซึ่งเป็นวิธีฝึกจำแบบเชื่อมโยง เด็กจะสามารถจดจำคำซึ่งสอดคล้องกับภาพและเสียงได้ง่ายขึ้น
- สร้างแรงจูงใจให้เด็กสนุกกับการอ่าน เริ่มจากหนังสือนิทาน การ์ตูน ข่าว สารคดี แล้วค่อยๆ พัฒนาสู่เนื้อหาที่ซับซ้อนมากขึ้น เพื่อฝึกให้เด็กได้จับใจความสำคัญของเรื่องได้ง่ายขึ้น
- ฝึกการคิดเชิงเหตุผลบ่อยๆ โดยใช้ศิลปะ หรือเกมช่วยให้เกิดการเรียนรู้
- สร้างกำลังใจในการเรียนโดยการให้รางวัล เช่น คำชมเชยเมื่อเด็กทำได้สำเร็จ หรือเด็กได้พยายามทำในสิ่งนั้นอย่างเต็มความสามารถ
- เปลี่ยนพฤติกรรมจากการตำหนิ ลงโทษ เป็นความเข้าใจ และสนับสนุนในการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ของเด็ก
- การจัดระบบชั้นเรียนที่เหมาะสมซึ่งจำเป็นมากที่จะต้องได้รับการช่วยเหลือเฉพาะทาง เช่น การเข้าชั้นเรียนร่วมในโรงเรียนปกติ การเข้าชั้นเรียนพิเศษในโรงเรียนการศึกษาพิเศษ
- เข้าคอร์สปรับพฤติกรรมกับนักจิตวิทยาหรือนักการศึกษาพิเศษ
โรค LD สามารถเกิดร่วมกับโรคอื่นๆ ได้บ่อย เช่น โรคสมาธิสั้น ดังนั้นแพทย์จึงมีบทบาทในการประเมิน วินิจฉัยภาวะต่างๆ ที่เด็กมี ร่วมถึงให้การรักษาภาวะเหล่านั้น เช่น โรคสมาธิสั้น หากได้รับยาช่วยให้มีสมาธิ อาการของโรคก็จะดีขึ้นมาก