ภาวะพิษจากสารตะกั่ว (Lead poisoning) ส่วนมากเกิดขึ้นจากการที่ตะกั่วปริมาณเล็กน้อยได้เข้าสู่ร่างกายและสะสมมากขึ้นตามกาลเวลาจนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ
สาเหตุของภาวะพิษจากสารตะกั่ว
ในทุกวันนี้มนุษย์ส่วนมากจะมีความเสี่ยงต่อภาวะพิษจากสารตะกั่วอยู่น้อยมากเนื่องจากตะกั่วไม่ได้ถูกใช้ในสีทาหรือบรรจุภัณฑ์อาหารแล้ว แต่ผู้คนมักจะได้รับสารตะกั่วจากการดื่มน้ำจากก๊อกตะกั่ว จากถังน้ำตะกั่ว หรือน้ำจากท่อที่มีการใช้ตะกั่วเป็นตัวประกอบ ซึ่งแปลได้ว่ากรณีที่พบส่วนน้อยเป็นผลมาจากแหล่งน้ำดื่มนั่นเอง
อาการของภาวะพิษจากสารตะกั่ว
การต้องสารตะกั่วทำให้เกิดอันตรายมากมายโดยเฉพาะกับเด็กทารกในครรภ์และเด็กเล็ก เด็กจะดูดซึมสารตะกั่วได้มากกว่าผู้ใหญ่เนื่องจากกระดูกและอวัยวะอื่น ๆ ของพวกเขายังคงอยู่ในช่วงเจริญเติบโตอยู่ ซึ่งจะทำให้สารตะกั่วสะสมในร่างกายได้ง่ายขึ้น
สัญญาณและอาการของภาวะพิษจากสารตะกั่วในเด็กเล็กมีดังนี้:
- ฉุนเฉียวและเหนื่อยล้า
- ไม่อยากอาหารและน้ำหนักลด
- ปวดท้อง
- อาเจียน
- ท้องผูก
- การได้ยินบกพร่อง
- ปัญหาและความล่าช้าด้านการเรียนรู้
แม้ว่าเด็กจะมีความเสี่ยงต่อผลของภาวะพิษจากสารตะกั่วจากการดื่มน้ำที่ปนเปื้อนมากกว่าผู้ใหญ่ และแม้ว่าคุณจะประสบกับอาการเหล่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะป่วยเป็นภาวะพิษจากสารตะกั่ว
อาการของภาวะพิษจากสารตะกั่วในผู้ใหญ่มีดังนี้:
- ความดันโลหิตสูง
- ปวดท้อง
- ท้องผูก
- ปวดข้อต่อและกล้ามเนื้อ
- แขนขาชา หยุกหยิก หรือเจ็บปวด
- ปวดศีรษะ
- แท้งบุตร
- เหนื่อยล้า
- สูญเสียความทรงจำ
หากในบ้านเรือนของคุณมีการใช้ท่อน้ำดื่มที่เป็นตะกั่ว หรือคุณหรือลูกคุณมีอาการเหล่านี้ให้รีบติดต่อแพทย์ในทันที
การป้องกันภาวะพิษจากสารตะกั่ว
มองหาว่าบ้านเรือนของคุณมีการใช้ท่อตะกั่วหรือไม่ ควรตรวจท่อบริเวณที่สมาชิกในครอบครัวใช้ดื่มกินให้ละเอียด โดยการสังเกตถึง:
ท่อน้ำตะกั่วที่ไม่ทาสีจะมีสีเทาและกลม บริเวณปลายข้อต่อของท่อจะกลมบวม
ท่อตะกั่วจะอ่อนนุ่มและหากขูดเบา ๆ คุณจะเห็นสีประกายสีเงินของเหล็กอยู่ข้างใต้
เมื่อเคาะท่อน้ำตะกั่วจะมีเสียงทึบแทนที่จะเป็นเสียงก้องกังวานเหมือนท่อทองแดงหรือท่อเหล็ก
ตัวอย่างน้ำจากแหล่งน้ำส่วนมากจะมีปริมาณตะกั่วน้อยกว่าข้อกำหนด แต่หากผลการกรวดน้ำพบว่ามีปริมาณตะกั่วสูงกว่าที่กำหนด คุณควรแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสอบถามขั้นตอนเพื่อลดและควบคุมระดับตะกั่ว