กองบรรณาธิการ HD
เขียนโดย
กองบรรณาธิการ HD

รวมพืช 7 ชนิดที่มีแคลเซียมสูงจนคาดไม่ถึง

เผยแพร่ครั้งแรก 21 พ.ค. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที
รวมพืช 7 ชนิดที่มีแคลเซียมสูงจนคาดไม่ถึง

เมื่อได้ยินคำว่า “แคลเซียม” เชื่อได้เลยว่าหลายคนคงนึกถึงนมหรือโยเกิร์ตเป็นอันดับต้นๆ อย่างไรก็ตาม ความจริงแล้วมีผักหลายชนิดที่มีแคลเซียมพอๆ กับผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม หรือมากกว่าด้วยซ้ำ ทั้งนี้แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการมีกระดูก ฟัน และกล้ามเนื้อที่แข็งแรง นอกจากนี้เส้นประสาทก็ยังจำเป็นต้องใช้แคลเซียมเพื่อส่งข้อความในสมอง และส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ มันก็สามารถนำไปสู่การเกิดปัญหามากมาย เช่น โรคกระดูกพรุน โรคอ้วน และโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ฯลฯ สำหรับคนที่แพ้แลคโตสในนม หรือทานมังสวิรัติ คุณสามารถได้รับแคลเซียมจากการทานพืชดังนี้

1.ผักโขม

หนึ่งในผักที่มีแคลเซียมมากที่สุดก็คือ ผักโขม หากเราทานผักโขมดิบ 100 กรัม ร่างกายของเราจะได้รับแคลเซียม 210 มิลลิกรัม แต่เมื่อนำผักโขมไปต้ม มันจะทำให้แคลเซียมลดลง 158 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม คุณควรจำไว้ว่าผักโขมมีสารออกซาเลตสูง ซึ่งมันจะไปขัดขวางการดูดซึมแร่ธาตุบางชนิด ดังนั้นเราควรควบคุมการทานให้เหมาะสม

แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ
ผลิตภัณฑ์สำหรับเข่าและกระดูก สูตรเฉพาะ รวมสารสกัดที่ผ่านงานวิจัย คอลลาเจน UC-II ขมิ้นชัน งาดำ และวิตามิน

ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!

2.ถั่ว

ถั่วเป็นอาหารที่ติดอยู่ในโผได้อย่างไม่ต้องสงสัย การทานถั่วสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคกระดูกพรุน โดยป้องกันไม่ให้กระดูกอ่อนแอ และช่วยให้กระดูกเติบโตแบบมีสุขภาพดี ด้วยเหตุนี้ถั่วจึงเป็นอาหารที่เหมาะกับคนทุกช่วงวัย สำหรับถั่วที่มีแคลเซียมสูง เช่น ถั่วอัลมอนด์ ถั่ววอลนัท ถั่วฮาเซลนัท ถั่วพิสตาชิโอ

3.ส้ม

นอกจากส้มมีวิตามินซีที่ช่วยให้เราหายป่วยในช่วงฤดูหนาวแล้ว คุณรู้หรือไม่ว่าส้มก็เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งส้ม 1 ลูก มีแคลเซียมประมาณ 60 มิลลิกรัม หากคุณดื่มน้ำส้มสดในทุกๆ เช้า ร่างกายจะได้รับแคลเซียมมากถึง 300 มิลลิกรัม ดังนั้นมันจึงเป็นวิธีเริ่มต้นเช้าวันใหม่ที่ดี ซึ่งคุณจะได้รับสารอาหารตามที่ร่างกายต้องการ

4.หัวหอม

หัวหอมมีประโยชน์นับไม่ถ้วน โดยเฉพาะการมีคุณสมบัติช่วยต้านแบคทีเรีย นอกจากนี้การทานหัวหอมยังทำให้คุณได้รับแร่ธาตุมากมาย ซึ่งหมายความรวมถึงแคลเซียม อย่างไรก็ดี หัวหอม 100 กรัม มีแคลเซียมประมาณ 20 มิลลิกรัม นอกจากนี้การทานหัวหอมยังช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ช่วยกระตุ้นความอยากอาหาร และมีคุณสมบัติช่วยขับปัสสาวะ

5.ถั่วลูกไก่

เราสามารถนำถั่วลูกไก่มาทำอาหารได้หลายชนิด อีกทั้งยังเป็นถั่วที่ขึ้นชื่อว่ามีแคลเซียมสูงมาก เพราะถั่วลูกไก่ 100 กรัม มอบแคลเซียมให้ร่างกายของเรามากถึง 134 มิลลิกรัม อย่างไรก็ตาม ปริมาณของแคลเซียมจะลดลงประมาณครึ่งหนึ่งเมื่อเรานำถั่วลูกไก่ไปต้ม แต่ทั้งนี้คุณควรจำไว้ว่าถั่วชนิดนี้มีสารออกซิเลต หากทานถั่วลูกไก่มากเกินไป มันก็จะทำให้ร่างกายมีปัญหากับการดูดซึมแคลเซียม

6.ผักสลัดน้ำ

หากคุณกำลังมองหาผักที่มีแคลเซียมสูงไว้ใส่ในสลัดชามโปรดเพื่อทานในช่วงลดน้ำหนัก ผักสลัดน้ำสามารถตอบโจทย์ได้ดีมากทีเดียว เพราะมันไม่เพียงแต่มีแคลเซียมประมาณ 20% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันเท่านั้น แต่มันยังอัดแน่นไปด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น ซัลเฟอร์ ไอโอดีน เหล็ก ฟอสเฟต โพแทสเซียม และแมคนีเซียม

7.สมุนไพร

สมุนไพรชนิดต่างๆ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มรสชาติ และความหอมอร่อยให้อาหารเท่านั้น แต่มันยังอุดมไปด้วยแคลเซียม ทั้งนี้กะเพรา เสจ ออริกาโน่ ไทม์ หรือโรสแมรี สามารถมอบแคลเซียมให้ร่างกายได้ประมาณ 1,000-2,300 มิลลิกรัม สำหรับทุก 100 กรัม อย่างไรก็ตาม เราคงไม่สามารถทานสมุนไพรเหล่านี้ได้หมดภายในครั้งเดียว ทางที่ดีให้คุณทานคู่กับอาหารที่มีแคลเซียมสูงชนิดอื่นๆ

จากที่กล่าวไปจะเห็นได้ว่า นอกจากเราจะพบแคลเซียมได้ในนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมแล้ว เราก็ยังสามารถพบสารอาหารชนิดนี้ได้ในพืชเช่นกัน ดังนั้นหากคุณมีปัญหากับการดื่มนมหรือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม การทานอาหารที่เรากล่าวไปข้างต้นก็สามารถช่วยให้คุณได้รับแคลเซียมได้มากไม่แพ้กันเลยค่ะ

ที่มา: https://steptohealth.com/plant...


5 แหล่งข้อมูล
กองบรรณาธิการ HD มุ่งมั่นตั้งใจให้ผู้อ่านได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง โดยทำงานร่วมกับแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ รวมถึงเลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงที่น่าเชื่อถือจากสถาบันต่างๆ คุณสามารถอ่านหลักการทำงานของกองบรรณาธิการ HD ได้ที่นี่
Plant Calcium Content: Ready to Remodel. National Center for Biotechnology Information. (https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC3448090/)
18 non-dairy calcium-rich foods. Medical News Today. (https://www.medicalnewstoday.com/articles/322585)

บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้อ่าน และไม่สามารถแทนการแนะนำของแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาได้ ผู้อ่านควรพบแพทย์เพื่อให้แพทย์ตรวจที่สถานพยาบาลทุกครั้ง และไม่ควรตีความเองหรือวางแผนการรักษาด้วยตัวเองจากการอ่านบทความนี้ ทาง HD พยายามอัปเดตข้อมูลให้ครบถ้วนถูกต้องอยู่เสมอ คุณสามารถส่งคำแนะนำได้ที่ https://honestdocs.typeform.com/to/kkohc7

ผู้เขียนและผู้รีวิวบทความไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการที่นำเสนอแต่อย่างใด เว้นแต่จะระบุในเนื้อหา การแนะนำสินค้าและบริการแสดงขึ้นอัตโนมัติจากระบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน

ขอบคุณที่อ่านค่ะ คุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์มากแค่ไหนคะ
(1 ดาว - น้อย / 5 ดาว - มาก)

บทความต่อไป
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง
10 อาหารสุขภาพที่มีวิตามิน E สูง

รวบรวมอาหารเพื่อสุขภาพที่อุดมด้วยวิตามิน E เพื่อจะได้เติมประโยชน์ได้ร่างกายกันได้ง่ายขึ้น

อ่านเพิ่ม