นอกจากการดูแลให้ผู้ใหญ่ในครอบครัวออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ กินอาหารที่มีประโยชน์ และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงอย่างการสูบบุหรี่และดื่มสุราแล้ว การพาไปตรวจสุขภาพก็เป็นอีกสิ่งที่ลูกหลานไม่ควรละเลย และควรคอยย้ำเตือนให้ผู้สูงอายุเห็นถึงความสำคัญของการไปพบแพทย์เป็นประจำ
มาดูกันว่า การตรวจสุขภาพมีประโยชน์อย่างไร และผู้หญิงในวัย 65 ปีขึ้นไป ควรตรวจอะไรกันบ้าง
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
เป้าหมายของการตรวจสุขภาพ
คุณควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ แม้ว่าจะมีสุขภาพดีก็ตาม โดยการพบแพทย์ในแต่ละครั้งมีเป้าหมายดังต่อไปนี้
- คัดกรองโรคภัยต่างๆ
- ประเมินความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพในอนาคต
- ส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ
- เรียนรู้วิธีรับมือกับโรคภัยและความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
- รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรค
การตรวจสุขภาพสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป มีอะไรบ้าง?
แพทย์มักเริ่มจากการสอบถามถึงสุขภาพ ประวัติสุขภาพของคุณและคนในครอบครัว รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เพื่อดูว่า ถูกสุขลักษณะหรือมีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่ โดยประเด็นที่แพทย์จะสอบถาม ได้แก่
- ประเมินอาการของภาวะซึมเศร้า และสุขภาพจิต
- การรับประทานอาหารและการออกกำลังกาย
- การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่
หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนของการตรวจร่างกายในด้านต่างๆ เพิ่มเติมต่อไป ตามรายการพื้นฐานที่ควรตรวจ หรือตามที่แพทย์ประเมินแล้วว่าอาจมีความเสี่ยงและควรต้องตรวจ
การตรวจความดันโลหิตสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- คุณควรตรวจความดันโลหิตทุกๆ ปี และหากมีเลขความดันตัวบน (Systolic number) อยู่ระหว่าง 120-139 หรือเลขความดันตัวล่าง (Diastolic number) อยู่ระหว่าง 80-89 mmHg หรือมากกว่านั้น ก็ยิ่งต้องตรวจอย่างสม่ำเสมอทุกปี
- หากเลขความดันตัวบนสูงกว่า 140 หรือเลขความดันตัวล่างสูงกว่า 90 ให้ปรึกษาหรือรีบไปพบแพทย์ทันที
- หากคุณเป็นเบาหวาน โรคหัวใจ มีปัญหาโรคไต หรือเป็นโรคอื่นๆ คุณควรรับการตรวจความดันโลหิตบ่อยครั้งกว่าข้างต้น หรืออย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
การตรวจระดับคอเลสเตอรอลและการป้องกันโรคหัวใจสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีระดับคอเลสเตอรอลปกติไม่จำเป็นต้องเข้ารับการตรวจไปอีก 5 ปี
- หากเป็นเบาหวาน มีระดับคอเลสเตอรอลสูง เป็นโรคหัวใจ มีปัญหาไต หรือเป็นโรคอื่นๆ ควรรับการตรวจบ่อยครั้งกว่าทุก 5 ปี
การตรวจเบาหวานสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- หากมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรเริ่มตรวจเบาหวานทุก 3 ปี
- หากคุณมีน้ำหนักมาก และมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน แพทย์จะแนะนำให้คุณตรวจบ่อยครั้งกว่าทุก 3 ปี
การตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่สำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
ควรเข้ารับการตรวจมะเร็งลำไส้ใหญ่จนถึงอายุ 75 ปี ซึ่งการทดสอบทำได้หลายวิธี โดยอาจใช้เพียงวิธีเดียวหรือใช้ร่วมกัน ดังนี้
- การตรวจหาเม็ดเลือดแดงในอุจจาระทุกปี
- การตรวจส่องกล้องมะเร็งลำไส้ใหญ่ทุกๆ 10 ปี
คุณอาจต้องเข้ารับการตรวจส่องกล้องบ่อยขึ้น หากมีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เช่น
- เป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบชนิดเป็นแผล
- มีประวัติเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือคนในครอบครัวเคยเป็นโรคนี้
- มีประวัติตรวจพบเนื้องอกในลำไส้ใหญ่
การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
คณะป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาแนะนำว่า ผู้หญิงที่มีประวัติสูบบุหรี่ 30 แพ็คต่อปี และหญิงที่ยังสูบบุหรี่อยู่ หรือเลิกบุหรี่ไปแล้วภายในช่วง 15 ปี ควรตรวจคัดกรองมะเร็งปอดเป็นประจำทุกปีจนถึงอายุ 80 ปี ด้วยการใช้วิธีตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเข้มรังสีต่ำ (LDCT)
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
การตรวจเต้านมสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- สามารถตรวจหามะเร็งเต้านมเบื้องต้นด้วยตนเองทุกเดือนโดยการคลำหาก้อนเนื้อที่เต้านม แต่การตรวจมะเร็งเต้านมด้วยตนเองก็ไม่ได้ช่วยวินิจฉัยโรคหรือช่วยชีวิตคุณได้เท่าที่ควร ดังนั้นแนะนำให้ตรวจกับแพทย์เป็นดีที่สุด
- หากสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงในเต้านม ให้ปรึกษาแพทย์ทันที
การตรวจแมมโมแกรมสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจแมมโมแกรมทุก 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับปัจจัยเสี่ยงของแต่ละคน
- ผู้เชี่ยวชาญไม่แนะนำให้ผู้หญิงที่มีอายุ 75 ปีขึ้นไปตรวจแมมโมแกรม แต่ก็มีบ้างที่แพทย์อาจแนะนำให้ทำแมมโมแกรมในผู้หญิงสูงอายุที่มีสุขภาพดี ควรปรึกษากับแพทย์เพื่อความแน่ใจ
การตรวจภายในและการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก สำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไปที่ไม่เคยตรวจพบว่า เป็นมะเร็งปากมดลูก หรือผลการตรวจเป็นลบ (ไม่มีมะเร็งปากมดลูก) 3 ครั้งภายในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา สามารถหยุดรับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีแปปสเมียร์ได้
การตรวจโรคกระดูกพรุนสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการทดสอบความหนาแน่นของกระดูก (DEXA)
- ควรสอบถามแพทย์ถึงวิธีการออกกำลังกายที่ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนได้
การตรวจฟันสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
คุณควรเข้าพบทันตแพทย์ 1-2 ครั้งต่อปี เพื่อรับการตรวจและทำความสะอาดช่องปาก โดยทันตแพทย์อาจประเมินและแจ้งให้เข้าพบบ่อยกว่านั้นตามกรณี
การตรวจตาสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- ควรตรวจสายตาทุก 1-2 ปี
- หากเป็นโรคเบาหวาน ควรเข้ารับการตรวจสายตาอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
การทดสอบการได้ยินสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
หากเริ่มมีอาการที่บ่งบอกถึงปัญหาในการได้ยิน ควรเข้ารับการทดสอบการได้ยิน
การฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันสำหรับผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- เมื่อมีอายุ 65 ปีขึ้นไป ควรรับวัคซีนป้องกันปอดบวม หากยังไม่เคยได้รับวัคซีนนี้มาก่อน หรือได้รับครั้งล่าสุดเมื่อ 5 ปีที่แล้ว
- ควรรับวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี
- อาจได้รับวัคซีนงูสวัด 1 ครั้งเมื่อมีอายุเข้า 60 ปี
- ควรได้รับวัคซีนกระตุ้นคอตีบ บาดทะยักทุกๆ 10 ปี
แน่นอนว่าการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์และถูกต้องตามหลักโภชนาการ และปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยคงความแข็งแรงและเพิ่มเกราะป้องกันโรค แต่อย่าลืมว่าการตรวจสุขภาพก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นจึงควรใส่ใจและไปพบแพทย์ตามคำแนะนำด้วย
เช็ครายการตรวจสุขภาพแล้ว ต้องทำอะไรต่อ?
ดูโปรแกรมตรวจสุขภาพและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่นี่
รวมบทความที่เกี่ยวข้องกับตรวจสุขภาพ
- ตรวจสุขภาพเด็กวัยรุ่น
- ตรวจสุขภาพผู้หญิงอายุ 18-39 ปี
- ตรวจสุขภาพผู้หญิงอายุ 40-64 ปี
- ตรวจสุขภาพผู้ชายอายุ 18-39 ปี
- ตรวจสุขภาพผู้ชายอายุ 40-64 ปี
- ตรวจสุขภาพผู้ชายอายุมากกว่า 65 ปี
เปรียบเทียบราคาและแพ็กเกจตรวจสุขภาพสำหรับทุกช่วงวัย จากคลินิกและโรงพยาบาลใกล้คุณ และไม่พลาดทุกการอัปเดตเรื่องสุขภาพและโปรโมชั่นเมื่อกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android