สุขภาพช่องปากที่ดีไม่ใช่แค่การมีฟันเรียงตัวที่สวยงาม แต่ยังต้องรวมถึงความสะอาด ไม่มีฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูน และกลิ่นปาก
ในผู้ที่จัดฟัน การทำความสะอาดฟันขณะที่มีเครื่องมือจัดฟันติดอยู่นั้นทำได้ยากกว่าปกติ
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
นอกจากจะทำให้คนไข้รู้สึกปากไม่สะอาดและไม่สวยงามแล้ว หากไม่ได้รับการดูแลรักษาที่เหมาะสม ยังก่อให้เกิดปัญหาตามมาอีกมากมาย
เช่น ทำให้ต้องจัดฟันนานกว่าปกติ หรือเป็นโรคเหงือก ซึ่งอาจทำให้ทันตแพทย์จัดฟันพิจารณาถอดเครื่องมือจัดฟันออกก่อนที่จะจัดเสร็จ ทั้งนี้เพื่อรักษาโรคเหงือกก่อนที่จะลุกลามมากขึ้น
อาการหรือภาวะต่างๆ ของสุขภาพในช่องปากที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะจัดฟัน
เนื่องจากมีอุปกรณ์จัดฟันขัดขวางอยู่ ดังนั้นผู้จัดฟันจึงมักมีปัญหาเรื่องความสะอาด นำมาสู่อาการและภาวะต่างๆ ได้ แต่ทุกภาวะสามารถป้องกันและรักษา ด้วยวิธีต่อไปนี้
1. การสูญเสียแร่ธาตุของผิวเคลือบฟัน (Demineralization)
เมื่อมีคราบอาหารหรือน้ำตาลติดค้างอยู่บนผิวฟัน แบคทีเรียก่อฟันผุจะย่อยน้ำตาล เกิดเป็นกรดกัดผิวเคลือบฟัน เกิดการสูญเสียแคลเซียมและฟอสเฟตออกจากผิวฟัน
ในระยะแรกของการสูญเสียแร่ธาตุ ผิวฟันจะเห็นเป็นสีขาวขุ่น เมื่อเป็นมากขึ้นจึงเกิดเป็นรู
นั่นคือกลไกการเกิดฟันผุนั่นเอง
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
รอยสีขาวขุ่นนี้มักเกิดรอบๆ แบรกเก็ตโลหะที่ยึดกับฟัน (Bracket) เนื่องจากเป็นส่วนที่เศษอาหารมักติดค้าง และคนไข้มักแปรงฟันทำความสะอาดส่วนนี้ไม่เพียงพอ
ดังนั้น คนไข้จัดฟันควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ ใช้ไหมขัดฟันวันละ 1 ครั้ง และงดน้ำอัดลมซึ่งทำให้เกิดสภาวะกรดในช่องปาก
2. เหงือกอักเสบ (เหงือกบวม)
เหงือกอักเสบ คือ การที่ขอบเหงือกรอบๆ ฟันมีการอักเสบ บวม แดง กดเจ็บ และเลือดออกง่าย
เกิดจากการสะสมของคราบแบคทีเรียและหินปูน หรือคนไข้ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ
เหงือกอักเสบนั้นเป็นโรคที่หายได้ แต่ไม่ควรละเลย เนื่องจากเหงือกอักเสบเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นโรคปริทันต์อักเสบในอนาคต
คนไข้ควรแปรงฟันให้สะอาด ไม่ให้มีคราบแบคทีเรียหรือขี้ฟันหลงเหลือ ใช้ไหมขัดฟันทุกวัน และขูดหินปูนทุก 6 เดือน
จัดฟันใสกับ Like Dental Clinic ตอนนี้ ราคาดีที่สุดในเว็บ!
ประเมินฟรี มีของแถม / หมอผ่านการจัดฟันมาแล้วกว่า 150 เคส / ผ่อนได้ 0%
3. ฟันโยก
ขณะจัดฟันอาจมีฟันโยกได้เล็กน้อยจากการเคลื่อนฟัน
อย่าลืมแจ้งให้ทันตแพทย์ทราบทุกครั้งเพื่อตรวจหาความผิดปกติ เพราะการโยกของฟันที่มากกว่าปกติอาจมีสาเหตุจากโรคเหงือกซึ่งมีการละลายของกระดูกรอบๆ ฟัน
4. เสียวฟัน
อาการเสียวฟันเกิดจากฟันสึกหรือเหงือกร่น ทำให้รากฟันบริเวณคอฟันสัมผัสกับสิ่งกระตุ้น เช่น ความร้อน ความเย็น
คนไข้จัดฟันสามารถมีการเสียวฟันได้มากกว่าปกติ เนื่องจากการทำความสะอาดเป็นไปได้ยาก นำไปสู่เหงือกอักเสบและเหงือกร่นได้
อีกสาเหตุของการเสียวฟันคือ ฟันผุลึก
บางครั้งคนไข้อาจมองไม่เห็นรอยผุเนื่องจากอาจผุที่บริเวณซอกฟัน
ดังนั้น หากมีอาการเสียวฟัน ควรแจ้งให้ทันตแพทย์จัดฟันทราบเพื่อตรวจหาสาเหตุ หากมีฟันผุจะได้รักษาด้วยการอุดฟัน
ทั้งนี้ควรทำความสะอาดด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันให้ดีทุกวันเพื่อป้องกันปัญหาเหล่านี้
5. คราบแบคทีเรีย
คราบแบคทีเรียคือ แผ่นคราบเหนียว สีขาว-เหลือง ที่เกาะอยู่บนผิวฟัน ประกอบด้วย คราบอาหาร แบคทีเรีย และกรดที่แบคทีเรียสร้างขึ้นจากการย่อยน้ำตาล
สามารถก่อให้เกิดปัญหาในช่องปาก ทั้งฟันผุ เหงือกอักเสบ หินปูน และ กลิ่นปาก โดยเฉพาะบริเวณขอบรอบๆ แบรกเก็ตหรือโลหะยึดฟัน
วิธีป้องกันคือต้องแปรงและใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดให้ดี
6. หินปูน
หินปูน คือคราบแบคทีเรียที่เกาะติดฟันอยู่เป็นเวลานาน ไม่ได้รับการแปรงหรือใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาด
จนกระทั่งแข็งขึ้นกลายเป็นหินปูน และอาจมีการตกตะกอนของแร่ธาตุต่างๆ เข้าไป ทำให้มีสีเข้ม
เมื่อคราบแบคทีเรียแข็งจนกลายเป็นหินปูนแล้ว คนไข้จะไม่สามารถแปรงหรือกำจัดหินปูนออกเองได้
ผู้ที่จัดฟันต้องแปรงฟันและใช้ไหมจัดฟันให้ดีทุกวัน และควรให้ทันตแพทย์ขูดหินปูนให้อย่างสม่ำเสมอ ทุก 6 เดือน เป็นต้น
7. กลิ่นปาก
กลิ่นปากอาจเกิดได้จากสาเหตุ เช่น สุขภาพช่องปากที่ไม่สะอาด โรคประจำตัว สูบบุหรี่ หรือการรับประทานอาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น หัวหอม กระเทียม
ปัญหากลิ่นปากของคนไข้จัดฟันมักเกิดจากสุขภาพช่องปากที่ไม่สะอาดเพียงพอ จนเกิดเศษอาหารและคราบแบคทีเรียที่สะสมในช่องปาก ทำให้เกิดกลิ่นในที่สุดนั่นเอง
เครื่องมือจัดฟันมีช่องและซอกหลืบมากมาย คนไข้จึงควรตระหนักในการทำความสะอาดให้ดียิ่งขึ้น เช่น ควรแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ และใช้ไหมขัดฟันที่ออกแบบมาเพื่อคนไข้จัดฟันอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
อย่าลืมแปรงลิ้นเพื่อลดการสะสมของแบคทีเรีย อาจใช้น้ำยาบ้วนปากช่วยเสริมได้ แต่ไม่ควรละเลยการแปรงฟันและไหมขัดฟันโดยเด็ดขาด
จัดฟันแบบใส ดูแลง่ายกว่าจัดฟันแบบลวดใช่หรือไม่?
อุปกรณ์จัดฟันแบบใสทำความสะอาดง่ายกว่าการจัดฟันแบบติดเหล็กก็จริง แต่อย่างไรก็ต้องการการทำความสะอาดที่เพียงพอเช่นกัน
มิเช่นนั้นก็จะเกิดปัญหาสุขภาพช่องปากต่างๆ ตามมาได้ในที่สุด
ปัญหาอื่นๆ ที่คนไข้มักพบในระหว่างจัดฟัน
นอกจากเรื่องอาการและภาวะ ยังมีปัญหาอื่นๆ ที่ผู้จัดฟันมักพบได้ ได้แก่
1. จัดฟันแล้วพูดไม่ชัด หรือน้ำลายหก
ในระยะแรกที่เริ่มติดเครื่องมือจัดฟันไป คนไข้ส่วนมากพบปัญหาการพูดไม่ชัด บางคนถึงขั้นน้ำลายหกโดยไม่รู้สึกตัว
เนื่องจากยังไม่ชินกับอุปกรณ์ที่ทันตแพทย์ติดที่ผิวฟัน รวมทั้งลวด อุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่มีผลทำให้ขัดขวางการออกเสียง หรือปิดปากได้ไม่สนิท
แต่อาการเหล่านี้จะค่อยๆ หายไปหลังจากที่คนไข้เริ่มปรับตัวได้ ซึ่งระยะเวลาในการปรับตัวนั้นช้าหรือเร็วแตกต่างกันไปในแต่ละคน แต่โดยปกติจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์
เพราะฉะนั้นไม่ต้องเป็นกังวล หลังจากติดเครื่องมือไปใหม่ๆ พยายามจิบน้ำเปล่าบ่อยๆ ไม่ให้ปากแห้ง จะช่วยลดการเสียดสีของเครื่องมือกับริมฝีปากและกระพุ้งแก้มได้
ป้องกันการเป็นแผลในช่องปากและช่วยให้ปรับตัวกับเครื่องมือได้ง่ายขึ้น
2. เผลอกลืนอุปกรณ์จัดฟันลงคอ
ในบางครั้งผู้ที่จัดฟันอาจพบปัญหาอุปกรณ์จัดฟันหลุด เช่น แบรกเก็ต ยางจัดฟัน และคนไข้บางรายอาจเผลอกลืนลงไป
แต่ไม่ต้องกังวล เนื่องจากอุปกรณ์จัดฟันทำจากวัสดุที่ไม่เป็นพิษต่อร่างกาย ร่างกายจะกำจัดออกมาทางการขับถ่ายตามปกติ
คำแนะนำคือ พยายามปฏิบัติตามที่ทันตแพทย์บอก หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีลักษณะแข็ง เหนียว หรือชิ้นใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้อุปกรณ์จัดฟันหลุดได้
นอกจากมีโอกาสกลืนลงคอได้ ยังทำให้การรักษาไม่คืบหน้า ส่งผลให้การรักษาใช้เวลาที่นานขึ้น
3. เหล็กจัดฟันชอบหลุด
หากเหล็กจัดฟันหลุด ในกรณีที่สามารถพบทันตแพทย์จัดฟันได้เร็วกว่ากำหนดนัด ก็แนะนำให้ไปพบได้ก่อนเพื่อให้คุณหมอตรวจและแก้ไขแต่เนิ่นๆ
เพราะการที่เหล็กจัดฟันหลุดบ่อยจะมีผลให้การรักษาไม่คืบหน้าและต่อเนื่อง
ส่วนการป้องกัน แนะนำให้หั่นอาหารเป็นชิ้นเล็กพอคำก่อนรับประทาน แปรงฟันไม่แรงจนเกินไป ระวังปลายหัวแปรงกระแทกกับเหล็ก หรือการใช้ไม้จิ้มฟันไม่ระวัง
4. ลวดทิ่มแก้มหรือเหงือกจนเป็นแผล
หากปลายลวดยื่นออกมาไม่มากนัก แนะนำใช้ขี้ผึ้งที่ได้รับจากทันตแพทย์จัดฟัน ปั้นเป็นก้อนเล็กๆ แล้วแปะทับไปที่ลวดหรือเครื่องมือที่แหลมคม
แต่ถ้าปลายลวดยื่นออกมามาก หรือปลายลวดหลุดออกมาจากเหล็กจัดฟัน ทิ่มแก้มเป็นแผล ให้รีบไปพบแพทย์ที่เรารักษาอยู่ เพื่อแก้ไขได้ทันท่วงที