เมื่อเวลาผ่านไป มีความเปลี่ยนแปลงของแนวทางที่ผู้เขียนเกี่ยวกับอาหารและโภชนาการที่ใช้คำว่า “คาร์โบไฮเดรต” (หรือ “คาร์บ”) และดูเหมือนว่าจะยิ่งทำให้สับสนมากขึ้นเรื่อย ๆ ฉันหวังว่าประวัติศาสตร์เล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อไปนี้จะทำให้ทุกอย่างชัดเจนขึ้นได้
คาร์โบไฮเดรตเป็นหนึ่งในสามสารอาหารหลัก (ซึ่งมีโปรตีนและไขมันอยู่ด้วย) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของอาหาร คาร์โบไฮเดรตคือส่วนประกอบของโมเลกุลน้ำตาลที่หลากหลาย ซึ่งคำว่าคาร์โบไฮเดรตมาจากคำว่า คาร์บอน ไฮโดรเจน และออกซิเจน ซึ่งเป็นอะตอมที่มาประกอบเข้าด้วยกัน เช่นเดียวกับที่เป็นส่วนประกอบของโมเลกุลกลูโคส
ขนมปัง "ไร้แป้ง ไร้น้ำตาล อิ่มนาน ไปรตีนสูง" อยากคุมน้ำหนัก แบบไม่อด ต้องลอง พร้อมโปร 5 ฟรี 1
ซื้อผ่าน HD ประหยัดกว่า / ราคาพิเศษสำหรับ นศ. / ผ่อน 0% / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
จนกระทั่งเมื่อ 10 ถึง 15 ปีก่อน ประมาณนั้นแหละ ตั้งแต่ช่วงนั้น เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แรกสุด คือการเรียกอาหารบางอย่างที่มีคาร์โบไฮเดรตสูงว่า “คาร์โบไฮเดรต” ซึ่งเริ่มขึ้นอย่างไม่ซับซ้อน – มันฝรั่ง ข้าว และขนมปัง เป็น “คาร์บ” เพราะพวกมันทำมาจากแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรต ต่อจากนั้นก็มีคำว่า “คาร์บที่ดี” (good carbs) และ “คาร์บที่ไม่ดี” (bad carbs) ถึงแม้ว่าคำนิยามจะหลากหลาย ขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้นิยาม และยิ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ อาหารใด ๆ ก็ตามที่มีคาร์โบไฮเดรตในบางครั้งก็ถูกเรียกว่า “คาร์โบไฮเดรต” ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้มีคาร์โบไฮเดรตที่สามารถนำไปใช้ได้มากนัก (ผักโขมก็จะกลายเป็น “คาร์บ” ไปด้วยหากใช้คำนิยามดังกล่าว) แต่อาหารที่มีน้ำตาลสูง เช่น เครื่องดื่มและลูกอม จะไม่เรียกเป็นคาร์บและที่คล้าย ๆ กันก็คือคำว่า “คาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยว” (ซึ่งใช้เพื่อหมายถึง “น้ำตาล” และยังคงเป็นเช่นนั้นในตำราทางโภชนาการ) ก็กลายความหมายไปในทางเดียวกันกับ “คาร์โบไฮเดรตผ่านการขัดสี” หรืออาหารที่มีส่วนประกอบดังกล่าว สิ่งนี้อาจเป็นน้ำตาลหรือแป้งก็ได้ – ฉันเคยเห็นขนมปังขาวถูกเรียกเป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวมาแล้ว “คาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน” (ซึ่งหมายความได้ทั้ง “แป้ง” หรือ “เส้นใย” และยังคงเป็นเช่นนั้น หากอ้างอิงตามตำรา) ก็มักจะถูกใช้เรียกอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรต แม้ว่าจะไม่มีแป้งเลยก็ตาม (เช่น แตงโม)
คุณสับสนรึยัง ?
ความสับสนดังกล่าวทำให้เกิดคำกล่าวอ้างจากสื่อ เช่น “คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งของวิตามินและเกลือแร่ที่ดี” นี่ทำให้ฉันถึงกับครางไม่เป็นภาษา และนี่เป็นสิ่งที่ทำให้นักเขียนเกี่ยวกับเรื่องทางวิทยาศาสตร์คนหนึ่งจัดให้แนวคิด nutritionism เป็นเรื่องเลวร้าย
ฉันขอเสนอว่ามันจะช่วยได้หากคิดในแง่ของอาหารจริง ๆ อาหารมีวิตามินและคาร์โบไฮเดรต แต่คาร์โบไฮเดรตไม่ได้มีวิตามิน ไม่มีพื้นที่ว่างในโมเลกุลของคาร์โบไฮเดรตสำหรับวิตามิน น้ำตาล อาหารที่มีแป้งมาก ผลไม้แห้ง และอื่น ๆ
สิ่งที่คุณควรรู้
- อาหารบางอย่างมีคาร์โบไฮเดรตสูง อาหารที่เติมอาหารบางอย่างมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ
- อาหารที่มีโปรตีน ผักที่ไม่มีแป้ง ผลไม้น้ำตาลต่ำ น้ำมัน และอื่น ๆ
- โดยส่วนใหญ่ พืชที่มีคาร์โบไฮเดรตมากที่สุดจะมีวิตามินและเกลือแร่ต่ำที่สุด แม้ว่า phytonutrients มีแนวโน้มที่จะมีปริมาณสูงในผักและผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ เป็นที่น่าสังเกตว่ามีข้อยกเว้นในเรื่องนี้ แต่ก็เป็นที่น่าวางใจที่ได้รู้ว่าอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำมักจะมีสารอาหารสูง
เมื่อคุณเห็นข้อมูลทางโภชนาการเกี่ยวกับคาร์โบไฮเดรต ให้จำแนกว่าพวกเขากำลังพูดถึงอาหารหรือคาร์โบไฮเดรตจริง ๆ กินอาหารเต็มส่วนที่มีแป้งและน้ำตาลต่ำ ที่เหลือก็เป็นแค่รายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่จำเป็นแล้ว