ความหมายของอาการท้องเสียเรื้อรัง
ท้องเสียเรื้อรัง (Chronic diarrhea) คือ ภาวะที่ผู้ป่วยจะถ่ายเหลวเกินกว่า 2 ครั้งต่อวัน และติดต่อกันตั้งแต่ 2 สัปดาห์ขึ้นไป ซึ่งหลายๆ ครั้งอาการท้องเสียมักเกิดขึ้นโดยที่เราไม่ทราบสาเหตุ ทำให้บางคนอาจชะล่าใจ และไม่ทราบว่านั่นอาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายก็ได้
อาการท้องเสียเรื้อรังจะแตกต่างจากท้องเสียแบบเฉียบพลัน ซึ่งมักมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคในอาหาร
สาเหตุของอาการท้องเสียเรื้อรัง
ถึงแม้อาหารท้องเสียเรื้อรังจะยังหาสาเหตุไม่ได้แน่ชัด แต่ก็ยังมีโรค และอาการเจ็บป่วยบางอย่างที่มักทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังได้ เช่น
- ลำไส้อักเสบเรื้อรัง คือ การอักเสบภายในลำไส้ใหญ่โดยไม่ทราบสาเหตุ แต่ก็สามารถเกิดได้จากบางโรค เช่น โรคโครห์น (Crohn’s disease) ซึ่งทำให้ลำไส้มีแผลลึก บวมอักเสบคล้ายฝี
ลำไส้อักเสบเรื้อยังยังทำให้เกิดอาการปวดเกร็งท้องบ่อย ถ่ายบ่อยวันละหลายๆ ครั้ง ถ่ายเหลวมีเลือดปน รวมถึงอาจทำให้มีไข้ เบื่ออาหาร และน้ำหนักลดด้วย - ภาวะลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS) เป็นความผิดปกติที่ยังระบุสาเหตุไม่ได้ ซึ่งทำให้เกิดอาการปวดแน่นท้อง ขับถ่ายผิดปกติ ท้องเสีย หรือท้องผูกบ่อยๆ บางครั้งกลั้นอุจจาระไม่อยู่ อาจมีเมือกใส และเลือดปนออกมากับอุจจาระได้
- แพ้อาหาร บางคนอาจขาดเอนไซม์บางตัว ทำให้ไม่สามารถย่อยอาหารบางชนิดได้ เช่น ผู้ที่ขาดเอนไซม์แลคเทส (Lactase) จะไม่สามารถย่อยโปรตีนแลคโทสในนมวัวได้ เมื่อดื่มนมวัวจึงมีอาการท้องเสีย
หรือคนที่แพ้กลูเทน ก็มักมีอาการปวดท้องทุกครั้งที่รับประทานอาหารที่มีกลูเทนเป็นส่วนประกอบ - ติดเชื้อพยาธิ ปรสิตหนอนพยาธิ และโปรโตซัวที่อาศัยอยู่ในลำไส้ เช่น พยาธิตัวตืด เชื้ออะมีบา อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังได้
และบางครั้ง ผู้ป่วยอาจอุจจาระเป็นมูกเลือดด้วย รวมถึงอาจมีอาการซีด เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และคลื่นไส้อาเจียนได้เช่นกัน - เป็นผลจากยาบางชนิด การรับประทานยาสมุนไพร หรืออาหารเสริมที่มีฤทธิ์เป็นยาระบาย อาจส่งผลให้เกิดอาการถ่ายท้องบ่อยๆ ได้
ดังนั้นหากคุณรับประทานยาที่ทำให้เป็นสาเหตุอยู่เป็นประจำ รวมถึงการรับประทานยาปฏิชีวนะบ่อยๆ ก็อาจทำให้แบคทีเรียประจำถิ่นในลำไส้ถูกกำจัด จึงมีโอกาสติดเชื้อก่อโรคในทางเดินอาหารได้สูง - มีความเครียด ภาวะเครียด และวิตกกังวลจะทำให้การบีบตัวของลำไส้ผิดปกติ จึงส่งผลให้เกิดอาการปวดแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ท้องผูก หรือท้องเสียเรื้อรังได้
- ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัส HIV มีโอกาสติดเชื้อก่อโรคนานาชนิดได้มากกว่าคนทั่วไป แม้แต่เชื้อฉวยโอกาสอย่างเชื้อรา และโปรโตซัวที่ไม่ก่อโรคในคนปกติ ก็อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรังในผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่องได้
- มะเร็งลำไส้ใหญ่ การเกิดมะเร็งที่ลำไส้ใหญ่ และทวารหนัก มักพบในผู้สูงอายุวัย 65 ปีขึ้นไป ซึ่งทำให้เกิดอาการขับถ่ายผิดปกติ ปวดอุจจาระบ่อยครั้ง อุจจาระขนาดเล็กลง หรือเหลวไม่เป็นก้อน รวมถึงมีเลือดปนออกมาด้วย
นอกจากนี้ ผู้ป่วยมักรู้สึกปวดเกร็งท้องตลอดเวลา ท้องเดินสลับกับท้องผูก มีอาการไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด และโลหิตจางร่วมด้วย
การรักษาอาการท้องเสียเรื้อรัง
การรักษาท้องเสียเรื้อรัง จะต้องทำการรักษาตามอาการควบคู่ไปกับการแก้ไขสาเหตุของโรค
1. การรักษาตามอาการ
หากคุณถ่ายเหลวหลายครั้งใน 1 วันจนมีอาการอ่อนเพลีย จะต้องดื่มน้ำผสมเกลือแร่ หรือให้สารน้ำชดเชยทางหลอดเลือด เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ นอกจากนี้ อาการท้องร่วงอาจใช้ยารักษาตามคำแนะนำของแพทย์ เช่น ยาบิสมัท (Bismuth) และยาเพิ่มกากอุจจาระ
2. การรักษาที่สาเหตุของโรค
เนื่องจากอาการท้องเสียเรื้อรังเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นคุณควรต้องไปพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยหาสาเหตุก่อน ซึ่งในเบื้องต้น แพทย์จะสั่งให้เก็บอุจจาระ เพื่อตรวจดูลักษณะ และหาการติดเชื้อก่อโรค ร่วมกับประเมินร่วมอาการอื่นๆ ด้วย
ในผู้ป่วยบางรายอาจต้องส่องกล้องเพื่อตรวจความผิดปกติของลำไส้ และทวารหนัก ซึ่งหลังวินิจฉัยแล้ว แพทย์จึงจะรักษาตามสาเหตุของโรค เช่น หากพบว่า มีการติดเชื้อปรสิต ก็จะให้ยาถ่ายพยาธิ หรือหากเป็นลำไส้อักเสบเรื้อรัง ก็ต้องรับประทานยาแก้อักเสบ ภายใต้การควบคุมของแพทย์
การป้องกันอาการท้องเสียเรื้อรัง
- รับประทานอาหาร และดื่มน้ำที่สะอาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และปรสิตที่ก่อให้เกิดอาการท้องร่วง
- รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย และรับประทานผักผลไม้เป็นประจำ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการท้องผูกซึ่งอาจนำไปสู่โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้
- หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ หรือทำให้ลำไส้ระคายเคือง เช่น อาหารที่มีส่วนประกอบของกลูเตน
อาการท้องเสียเรื้อรังมักเกิดได้จากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และยาที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ปลอดภัย หากคุณเคยมีอาการท้องเสียเรื้อรังมาก่อน ก็จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และยาให้มากยิ่งขึ้น
หากเคยมีอาการแพ้ หรือระคายเคืองต่อสารอาหาร หรือยาชนิดใด คุณควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัย หรือเพื่อให้มั่นใจยิ่งขึ้น และรู้เท่าทันว่า ตนเองแพ้สารอะไรบ้าง คุณสามารถไปเข้ารับการทดสอบภูมิแพ้ได้ที่โรงพยาบาลชั้นนำ
ดูแพ็กเกจตรวจภูมิแพ้ และภาวะแพ้ เปรียบเทียบราคา โปรโมชั่นล่าสุดจากโรงพยาบาลและคลินิกชั้นนำได้ที่นี่ หรือไม่พลาดทุกการอัปเดตแพ็กเกจต่างๆ เมื่อกดเป็นเพื่อนทางไลน์ @hdcoth และกดดาวน์โหลดแอป iOS และ Android