โป๊ยกั๊กเป็นพืชสมุนไพรจีนที่มีกลิ่นหอมและมีฤทธิ์ร้อนที่คนไทยรู้จักกันดี เนื่องจากโป๊ยกั๊กเป็นเครื่องเทศในการปรุงอาหารหลายชนิด นิยมเรียกกันอีกชื่อว่าจันทน์แปดเหลี่ยม เนื่องจากมีรูปร่างลักษณะเป็นทรงแปดแฉกคล้ายรูปดาว นอกจากนิยมนำมาทำอาหารแล้ว โป๊ยกั๊กยังมีสรรพคุณทางยาด้วย
ชื่อวิทยาศาสตร์ Illicium verum Hook.f.
ชื่อวงศ์ ILLICIACEAE
ชื่ออังกฤษ Chinese anise, Chinese star anise, Star anise, Star anise tree
ชื่อท้องถิ่น จันทร์แปดกลีบ จันทน์แปดกลีบ แปดแฉก
ถิ่นกำเนิด
โป๊ยกั๊ก มีถิ่นกำเนิดและการกระจายพันธุ์อยู่ในประเทศจีนและเวียดนาม โดยจัดเป็นพืชพื้นเมืองในแถบเอเชียเขตร้อน และในปัจจุบันมีการเพาะปลูกโป๊ยกั๊กมากในประเทศจีนตอนใต้ อินเดีย เวียดนาม และประเทศญี่ปุ่น
หมายเหตุ โป๊ยกั๊กจีน เป็นพืชคนละชนิดกับโป๊ยกั๊กญี่ปุ่น ซึ่งมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Illicium anisatum
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของโป๊ยกั๊ก
โป๊ยกั๊กจัดเป็นไม้ยืนต้นทรงพุ่มขนาดเล็ก มีใบเขียวตลอดปีและมีความสูงได้ถึง 18 เมตร ลำต้นตั้งตรง เปลือกมีสีขาวเทา ลักษณะหยาบเล็กน้อย ต้นแก่จะมีรอยแตกไม่เป็นระเบียบ ใบออกเป็นใบเดี่ยวโดยออกเป็นกลุ่ม 3-6 ใบ ยาว 5.5-10.5 เซนติเมตร กว้าง 1.6-4.5 เซนติเมตร ลักษณะของใบเป็นรูปใบหอกกลับถึงรูปรีแคบ โคนใบสอบ ปลายใบแคบเป็นแถบยาว ส่วนปลายสุดเว้าหรือแหลม หน้าใบสีเขียวเข้มผิวลื่นเป็นมันหลังใบสีเขียวอ่อนมีขนนุ่มอยู่เบาบาง ดอกออกที่ง่ามใบ ก้านดอกยาว 1.5-4 เซนติเมตร มีกลีบหุ้มดอก 8-12 กลีบ เรียงซ้อนกัน 2-3 วง ดอกเป็นดอกเดียว มีสีเหลือง บางครั้งอาจแต้มด้วยสีชมพูถึงสีแดง ลักษณะของดอกเป็นรูปทรงกลมแกมรูปถ้วย กลีบดอกมี 10 กลีบ กลีบมีลักษณะเป็นรูปรีกว้าง ขอบกลีบมีขนและเป็นกระพุ้ง ผลมีลักษณะเป็นกลีบโดยรอบ มองเห็นได้เป็นรูปดาว มีประมาณ 5-13 กลีบ แต่ที่พบมากโดยส่วนใหญ่มักจะเป็น 8 กลีบ ผลดิบมีสีเขียว ผลแห้งมีกลีบหนาแข็ง มีสีน้ำตาลเข้ม ในกลีบแต่ละกลีบจะมีเมล็ด 1 เมล็ด มีลักษณะเป็นรูปไข่และแบน ผิวมีสีน้ำตาลเรียบและเป็นเงา ผลมีกลิ่นหอม
สรรพคุณของโป๊ยกั๊ก
ตามตำราแพทย์ต่างๆ มีการกล่าวถึงสรรพคุณของโป๊ยกั๊ก ดังนี้
- ตามตำรายาไทย ผลใช้ขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ แก้อาหารไม่ย่อย แก้ปวดท้อง โดยนำโป๊ยกั๊กเข้าตำรับยาขับลมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น อบเชย ขิง เมล็ดผักชี รับประทานในรูปแบบยาต้มดื่มหรือปั้นเป็นยาลูกกลอนก็ได้ นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณแก้ไอ วิธีทำคือนำโป๊ยกั๊กตำละเอียดเป็นผง แล้วเข้าตำรับยาขับเสมหะกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น น้ำผึ้ง ชะเอมไทย ชะเอมเทศ เป็นต้น นำมากวาดคอ จะทำให้ชุ่มคอและทำให้เสมหะลดลง
- แพทย์พื้นบ้านนำโป๊ยกั๊กเข้าตำรับยาขับน้ำนม เพื่อเพิ่มการไหลเวียนโลหิตของมารดา ทำให้น้ำนมออกมากขึ้น โดยนำโป๊ยกั๊กเข้าตำรับยาบำรุงน้ำนมกับสมุนไพรชนิดอื่นๆ เช่น น้ำนมราชสีห์ ระย่อมน้อย เป็นต้น
- ปัจจุบัน มีการนำโป๊ยกั๊กมาประยุกต์ใช้ในการรักษาทางสุคนธบำบัด หรือการบำบัดรักษาด้วยกลิ่นหอม เนื่องจากโป๊ยกั๊กมีน้ำมันหอมระเหย ที่ช่วยคลายเครียด คลายกังวลได้
- ตามตำราแพทย์แผนจีน โป๊ยกั๊กช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรคต่างๆ ให้แก่ร่างกาย ด้วยการใช้ผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชา นำมาชงกับน้ำอุ่นสุกดื่ม ทั้งยังกล่าวว่าโป๊ยกั๊กมีคุณสมบัติเป็นหยาง ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายในช่วงอากาศเย็น มีรสร้อน แต่ไม่เผ็ดร้อนมากจนเกินไป นำมารับประทานโดยใช้ผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชาชงกับน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ ใช้ดื่มหลังอาหารในช่วงเช้าหรือเย็น หรือในช่วงที่มีอากาศเย็น จะช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และบรรเทาอาการจากไข้หวัดได้อีกด้วย นอกจากนี้ตำราแพทย์แผนจีนยังกล่าวว่าโป๊ยกั๊กสามารถช่วยระงับอาการปวดข้อ ปวดกระดูก ปวดหลัง ปวดเอวได้ โดยนำผงโป๊ยกั๊ก 1 ช้อนชานำมาชงกับน้ำร้อนดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็น
การนำโป๊ยกั๊กมาปรุงอาหาร
ผลและเมล็ดโป๊ยกั๊กทั้งแบบแห้งและป่นใช้เป็นเครื่องเทศ นิยมใส่ในอาหารประเภทตุ๋นที่นิยมใส่เครื่องเทศยาจีนหลายชนิด โดยเมนูที่คนไทยคุ้นเคย ได้แก่ แกงพะโล้ ข้าวขาหมู เป็นต้น นอกจากนี้ ยังใช้โป๊ยกั๊กในการแต่งกลิ่นของเครื่องดื่ม ลูกอม ขนมหวาน ขนมผิง ขนมเค้ก ได้อีกด้วย
ข้อห้ามและข้อควรระวังในการใช้โป๊ยกั๊ก
เพื่อการบริโภคโป๊ยกั๊กอย่างปลอดภัย ควรคำนึงถึงข้อห้ามและข้อควรระวังเหล่านี้
- มีการศึกษาทางพิษวิทยาพบว่า การใช้โป๊ยกั๊กเป็นน้ำมันหอมระเหยนั้น ถ้าใช้ความเข้มข้นมากกว่า 4% อาจทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคืองที่ผิวหนังได้ และยังมีการศึกษาวิจัยระบุว่า สารอเนโทล (Anethole) และซาโฟรล (Safrole) ในน้ำมันหอมระเหยของโป๊ยกั๊กเป็นสารก่อมะเร็ง และเป็นพิษต่อตับ จึงควรใช้ด้วยความระมัดระวัง
- โป๊ยกั๊กที่นำมาใช้ในการบริโภคหรือใช้เป็นยาสมุนไพร คือ โป๊ยกั๊กจีน ซึ่งเป็นคนละชนิดกันกับโป๊ยกั๊กญี่ปุ่นที่เป็นพืชมีพิษ หากรับประทานเข้าไปอาจทำให้เสียชีวิตได้ เนื่องจากมีสารพิษที่มีฤทธิ์ในการทำลายระบบประสาทอย่างรุนแรงและทำให้เกิดอาการอักเสบภายใน ดังนั้นจึงควรระมัดระวังและเลือกใช้โป๊ยกั๊กจีนเท่านั้น
- สตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตรควรระมัดระวังในการรับประทาน เนื่องจากยังไม่มีงานวิจัยรองรับว่า โป๊ยกั๊กปลอดภัยต่อสตรีที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร หากรับประทานโป๊ยกั๊กเข้าไป อาจส่งผลกระทบต่อบุตรได้