เห็นด้วยไหมคะว่า “ เซ็กส์ ” เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับชีวิตคู่มากทีเดียว และหากเซ็กส์มีปัญหา มันก็อาจกระทบถึงความสัมพันธ์ระหว่างคุณและคนรักได้เลยค่ะ ทั้งนี้หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เรื่องบนเตียงของหลายคู่สะดุดก็คือ การเกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งมีงานวิจัยที่น่าสนใจพบว่า ยาบางชนิดอาจทำให้ผู้ชายตกอยู่ในภาวะดังกล่าว และหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เราพบภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเมื่ออายุมากขึ้นก็คือ ผู้ชายสูงอายุมีแนวโน้มที่จะทานยาบางชนิดนั่นเอง
ยาบางชนิดทำให้เกิดภาวพหย่อนสมรรถภาพทางเพศจริงหรือ?
ทั้งนี้มีข้อมูลจาก Harvard Special Health Report ระบุว่า 25 % ของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศเป็นผลข้างเคียงของการทานยา ซึ่งประเภทของยาที่มีความเกี่ยวข้องกับการเกิดภาวะนี้ประกอบไปด้วยยาต้านซึมเศร้า ยา anti-ulcer ยากล่อมประสาท และยาขับปัสสาวะ
รักษาหย่อนสมรรถภาพ วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 1,930 บาท ลดสูงสุด 70%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
นอกจากนี้ยังมีการค้นพบด้วยว่ายา Propecia ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคศีรษะล้านสามารถทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายที่ใช้ประมาณ 1.3 % สำหรับยาชนิดอื่นๆ ที่อาจกระตุ้นให้เกิดภาวะดังกล่าว เช่น ยาต้านฮีสตามีน ยายับยั้งฮอร์โมนแอนโดรเจน ยากลุ่ม Anticholinergics (ใช้รักษาภาวะกระเพาะปัสสาวะบีบตัวไวเกิน ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง และโรคพาร์กินสัน ) และยารักษาโรคมะเร็งบางชนิด
ยาชนิดใดที่พบมากที่สุดว่าอาจมีผลทำให้หย่อนสมรรถภาพทางเพศ?
อย่างไรก็ตาม ประเภทของยาที่พบมากที่สุดว่าอาจนำไปสู่ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศคือ ยารักษาความดันโลหิต ซึ่งภาวะดังกล่าวกับการเกิดความดันโลหิตสูงมักจะเกิดด้วยกัน ทั้งนี้มีงานวิจัยที่ได้ตรวจสอบบันทึกทางการแพทย์ของผู้ชายกว่า 1.9 ล้านคน พบว่าผู้ชายที่หย่อนสมรรถภาพทางเพศประมาณ 38% มีแนวโน้มที่จะมีความดันโลหิตสูงกว่าผู้ชายทั่วไป ซึ่งความเชื่อมโยงนี้กลับไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศมักเกิดขึ้นในผู้ชายที่สูบบุหรี่ หรือมีน้ำหนักเกินมาตรฐาน ซึ่งล้วนแต่เป็นปัจจัยเสี่ยงพื้นฐานของการเกิดภาวะความดันโลหิตสูง
แม้ว่ายาช่วยรักษาความดันโลหิตสูงทุกชนิดอาจทำให้เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่ยาชนิดที่ดูเป็นปัญหามากกว่ายาตัวอื่นก็คือ ยาขับปัสสาวะ และยาปิดกั้นการทำงานของเบต้า (Beta Blockers) ส่วนยาที่ทำให้เกิดผลลดหลั่นลงมาก็จะเป็นพวกยาแอลฟา-บล็อกเกอร์ (Alpha Blockers) ยาเอซีอี อินฮิบิเตอร์ (ACE inhibitors) และยาแองกิโอเทนซินรีเซพเตอร์บล็อกเกอร์ (Angiotensin-receptor Blockers)
ในบางครั้งความเชื่อมโยงระหว่างความดันโลหิตสูง และภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศก็เป็นเรื่องทางจิตวิทยา ซึ่งมันเป็นไปได้ว่า การตระหนักถึงผลข้างเคียงของยาที่ใช้รักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศสามารถทำให้ผู้ชายตกอยู่ในภาวะเช่นนั้นได้ เพราะมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งได้เฝ้าสังเกตผู้ชายที่เพิ่งถูกตรวจพบว่าเป็นโรคหัวใจ แต่ไม่ได้หย่อนสมรรถภาพทางเพศที่เพิ่งรักษาตัวด้วยยาทีนอร์มีน (Tenormin) ผลปรากฏว่า กลุ่มคนที่ทราบถึงผลข้างเคียงทางเพศของการทานยากว่า 1/3 ตกอยู่ในภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ แต่กลุ่มคนที่ไม่ได้ทราบชื่อยาหรือผลข้างเคียงของยากลับมีเพียงแค่ 3% เท่านั้นที่เผชิญกับปัญหาดังกล่าว'
ควรทำอย่างไรหากหย่อนสมรรถภาพทางเพศจากการใช้ยา?
หากคุณกำลังทานยาชนิดใดก็ตาม คุณควรปรึกษาแพทย์เพื่อดูว่ายาชนิดนั้นๆ อาจมีความสัมพันธ์กับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ และคุณต้องมั่นใจเช่นกันว่าได้แจ้งแพทย์เกี่ยวกับยาทุกชนิดที่คุณทานเป็นประจำ ทั้งยาชนิดที่จ่ายโดยแพทย์คนอื่น และยาที่ซื้อจากร้านขายยา หากยาเหล่านั้นเข้าข่ายที่ทำให้เกิดภาวะดังกล่าว แพทย์ก็อาจเปลี่ยนยา หรือจำกัดปริมาณการทานค่ะ