ในโลกที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียที่ก่อโรค ยังคงมีแบคทีเรียบางชนิดที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย จุลินทรีย์ที่พบในโยเกิร์ต และอาหารหมักดองอื่นๆ อาจจะช่วยปรับสมดุลของแบคทีเรียทั้งภายในและนอกร่างกายได้
มีคนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่หันมาใช้ผลิตภัณฑ์ probiotic เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือเพื่อให้ตัวเองมีสุขภาพดี
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ประวัติศาสตร์ของการใช้ probiotics, ประโยชน์ของ probiotics
ในปี 1907 นักจุลชีววิทยาชาวรัสเซียเป็นคนแรกที่พบความสัมพันธ์ระหว่างจุลินทรีย์ภายในผลิตภัณฑ์หมักดองจากนมและการมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนของชาวบัลแกเรีย เขาได้เสนอว่าจุลินทรีย์เหล่านี้สามารถป้องกันกลิ่นเหม็นภายในลำไส้ใหญ่ได้ และเชื่อว่าหากรับประทานเป็นประจำ จะช่วยให้มีอายุที่ยืนยาวและสุขภาพที่ดี นอกจากนั้นในพระคัมภีร์ฉบับเก่าของศาสนาคริสต์ยังได้พูดถึงการที่อับราฮัมนั้นมีอายุยืนยาวถึง 175 ปี ว่าเกิดจากการรับประทานนมเปรี้ยว ในช่วงยุคโรมันก็มีการใช้ผลิตภัณฑ์นมเปรี้ยวเหล่านี้ในการรักษาอาการเจ็บป่วยในทางเดินอาหารเช่นกัน
Probiotics มีกลไกการทำงานอย่างไร?
ร่างกายของมนุษย์นั้นเป็นที่อยู่ของแบคทีเรียชนิดที่ดีและไม่ดี และมีอยู่ทั่วไปตั้งแต่ปาก ทางเดินอาหาร และผิวหนัง probiotics อาจช่วยให้
- การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น
- ป้องกันการติดเชื้อแบคทีเรีย
- ทำงานการย่อยอาหารและการดูดซึมอาหารและสารอาหารดีขึ้น
ในภาวะที่สมดุล แบคทีเรียที่ดีมักจะมีจำนวนมากกว่าแบคทีเรียที่ก่อโรคทำให้พวกมันเป็นปราการป้องกันจากแบคทีเรียเหล่านี้Probiotics สามารถป้องกันการเกิดภาวะไร้สมดุลของแบคทีเรียหลังจากการรับประทานยาปฏิชีวนะได้ ยาปฏิชีวนะนั้นจะทำการฆ่าเชื้อแบคทีเรียทั้งชนิดที่ดีและไม่ดี ทำให้เกิดแก๊ซในท้อง ปวดท้องหรือท้องเสีย
Probiotics อาจจะช่วยในการย่อยสลายโปรตีนและไขมันภายในทางเดินอาหาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในทารกและเด็กอ่อนหรือผู้ป่วยที่ต้องการเสริมสร้างความแข็งแรงหลังจากการเจ็บป่วย
ประโยชน์ของ probiotics
ไม่ใช่ว่า probiotics ทุกชนิดนั้นจะเหมือนกัน แบคทีเรียคนละสายพันธุ์ก็จะให้ผลที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น แบคทีเรียชนิดหนึ่งอาจจะสามารถต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้ฟันผุในปาก และไม่จำเป็นต้องเดินทางไปยังระบบทางเดินอาหารภายใน
นักวิจัยพบว่าจุลินทรีย์เหล่านี้น่าจะเป็นประโยชน์ในการรักษาหรือป้องกันภาวะต่างๆ ต่อไปนี้
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
- ท้องเสีย
- โรคลำไส้แปรปรวน
- โรค ulcerative colitis
- Crohn’s disease
- การติดเชื้อ H.pylori
- การติดเชื้อในช่องคลอด
- การติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
- การกลับเป็นซ้ำของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ
- การติดเชื้อในทางเดินอาหารที่เกิดจากเชื้อ Clostridium difficile
- การอักเสบที่ตอลำไส้หลังจากผ่าตัด
- ภาวะผื่นแพ้ในเด็ก
Probiotics นั้นอยู่ที่ไหน?
Probiotics นั้นมักพบในผลิตภัณฑ์จากนมที่ผ่านการหมัก นอกจากนั้นยังอาจพบได้ใน
- มิโซะ
- Tempeh
- เครื่องดื่มจากถั่วเหลือง
- Buttermilk
- นมเปรี้ยว
ซึ่งในอาหารเหล่านี้นั้นสามารถพบแบคทีเรียทั้งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติหรืออาจมีการเติมเพิ่มเข้าไปในระหว่างกระบวนการผลิต
นอกจากนั้นยังมีการขายในรูปแบบอาหารเสริมแบบแคปซูล เม็ด หรือแบบผง
ต่อไปนี้เป็นสายพันธุ์ probiotics ที่พบบ่อย
- Lactobacillus acidophilus
- Lactobacillus bulgaricus
- Lactobacillus casei
- Lactobacillus gasseri
- Lactobacillus plantarum
- Bifidobacterium bifidum
- Bifidobacterium lactis
- Bifidobacterium longum
- Enterococcus faecium
- Saccharomyces boulardii.
- Bifidus regularis (หรือ Bifidobacterium animalis) ที่พบในผลิตภัณฑ์ Activia ของบริษัท Danon
อย่าลืมว่าโยเกิร์ตนั้นจะจัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์ probiotics ก็ต่อเมื่อมีจุลินทรีย์สายพันธุ์ดังกล่าวอยู่ภายใน โยเกิร์ตส่วนมากมักจะมีจุลินทรีย์ Lactobacillus bulgaricus และ Streptococcus thermophilus
ในปัจจุบันมีการเติมจุลินทรีย์เหล่านี้เข้าไปในอาหารหลายอย่างเช่น
- ซีเรียล
- ธัญพืชอัดแท่ง
- นมถั่วเหลือง
- Cottage cheese
- Sour cream
- นมสำหรับทารก
แต่ประโยชน์ที่ได้รับจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักอ้างอิงมาจากผลเบื้องต้นของการทดลองทางวิทยาศาสตร์
ในปัจจุบันยังต้องการข้อมูลจากงานวิจัยเพิ่มเติมเพื่อดูประโยชน์ของแบคทีเรีย probiotics ว่าเหมือนเดิมหรือไม่หากมีการนำมาใช้ในการรักษาหรือเติมเข้าไปในผลิตภัณฑ์อาหาร Probiotics แบบแห้งนั้นอาจจะมีชีวิตรอดได้จนถึงลำไส้หากมีการแปรรูปที่เหมาะสม ในขณะที่ความร้อนมักจะฆ่าเชื้อจุลินทรีย์เหล่านี้
คุณควรเริ่มรับประทาน probiotics หรือไม่?
นักวิทยาศาสตร์เห็นตรงกันว่าการรับประทานอาหารที่มี probiotics นั้นน่าจะได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ แต่ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนความเชื่อดังกล่าว เพราะฉะนั้นในตอนนี้คงกล่าวได้ว่ามันไม่มีอันตรายและอาจจะช่วยได้
อย่าลืมว่าอาหารเสริมนั้นไม่ได้มีการควบคุมที่เข้มงวดเหมือนยา และเชื้อจุลินทรีย์ที่ใช้ในอาหารเสริมนั้นอาจจะไม่เหมาะกับภาวะที่คุณต้องการรักษา คุณอาจจะต้องปรึกษาแพทย์หรือนักโภชนาการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดังกล่าวก่อนเริ่มใช้
