July 14, 2019 12:58
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ ถ้ามีการหลั่งในถึงแม้แค่ 1-3 วินาทีก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ ดังนั้นถ้ามีเพศสัมพันธ์ยังไม่เกิน 72 ชั่วโมง หรืออย่างช้าสุดไม่เกิน 120 ชั่วโมงให้รีบทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน จากประวัติถ้าทานไม่เกินตามนี้ยาคุมจะมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75-85% ค่ะ ยิ่งทานเร็วประสิทธิภาพในการคุมก็สูงค่ะ หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25% ค่ะ อย่างไรก็ตามประสิทธิภาพในการคุมไม่สูงนักเมื่อเทียบกับการคุมด้วยวิธีอื่นๆ ดังนั้นถ้าประจำเดือนขาดแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ค่ะ โดยแนะนำให้ตรวจในตอนเช้าหรือปัสสาวะแรกของวันจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุด หรือสามารถตรวจได้เร็วสุดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วอย่างน้อย 14 วัน และไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินเกิน2กล่องต่อเดือน ยาคุมฉุกเฉินมีไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เช่น ถูกข่มขืน ถุงยางอนามัยแตก หรือลืมทานยาคุมแบบรายเดือน เป็นต้นค่ะ ถ้าต้องการมีเพศสัมพันธ์ครั้งถัดไปแนะนำคุมด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด แบบฝัง เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้ามีการสอดใส่ ไม่ได้ป้องกันมีโอกาสท้องครับ เนื่องจากขณะสอดใส่อาจมีอสุจิปนออกมากับน้ำหล่อลื่นฝ่ายชายได้ครับ
กรณีกินยาคุมฉุกเฉินไปเเล้ว
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินมีผลรบกวนกระบวนการตกไข่ รบกวนการที่อสุจิจะเข้าไปผสมกับไข่ รวมทั้งส่งผลเปลี่ยนแปลงเยื่อบุโพรงมดลูกเพื่อทำให้ยากแก่การฝังตัวของไข่ที่ผสมกับอสุจิแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% แต่เป็นการไปลดโอกาสตั้งครรภ์ลงจากเดิม ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินหากรับประทานยาเม็ดแรกภายใน 72 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ตามด้วยยาเม็ดที่สอง จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 75% แต่หากเริ่มยาเม็ดแรกภายใน 24 ชั่วโมง หลังการมีเพศสัมพันธ์ จะให้ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้นเป็น 85% ดังนั้นจึงควรรับประทานยาเม็ดแรกหลังการมีเพศสัมพันธ์ให้เร็วที่สุดครับ
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์นะครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากมีเพศสัมพันธ์ไปโดยไม่ได้ป้องกันก็มีโอกาสที่จะผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายครับ แต่ถ้าหากได้รับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะลดโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ลงได้ประมาณ 75-85% ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้รอสังเกตดูก่อนว่าประจำเดือนจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปก็ควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
เมื่อมีการสอดใส่โดยไม่ใช้ถุงยาง ไม่ว่าจะหลั่งในหรือไม่ ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าการป้องกันด้วยวิธีมาตรฐานหลายเท่าค่ะ การใช้ยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงดังกล่าวลงมาได้บ้าง แต่ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่าที่ควรจะเป็น คือ ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% เนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีประสิทธิภาพสูงเหมือนกับวิธีคุมกำเนิดปกติ
แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ซึ่งหากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่กี่วันค่ะ (ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือไม่ เพราะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยา ไม่ได้สำคัญอะไร)
ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ปัสสาวะแรกของวัน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้ามีการหลั่งในแค่ 1-3 วินาที แล้วเอาออกทัน จะท้องไหมค่ะ แล้วก็ทานยาคุมฉุกเฉินตามไปแล้ว จะมีแนวโน้มว่าจะท้องด้วยไหมค่ะ เพราะจากที่นับประจำเดือนมันอยู่ในช่วงอันตรายพอดี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)