ในปัจจุบันมักเป็นยาชนิดที่เป็นแบบฮอร์โมนรวมซึ่งหมายถึง ยาที่แต่ละเม็ดประกอบด้วย ฮอร์โมน 2 ชนิด คือ เอสโตรเจน (Estrogen) และ โปรเจสโตรเจน (Progestrogen) โดยที่ชุดหนึ่ง ๆ อาจมี 21 เม็ดหรือ 28 เม็ดก็ได้ โดยในชุด 28 เม็ด 7 เม็ดสุดท้ายจะไม่มีฮอร์โมนอยู่เลย
สำหรับกลไกการออกฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดออกฤทธิ์โดย
- ระงับการตกไข่ ซึ่งเป็นฤทธิ์ที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการตั้งครรภ์
- การเปลี่ยนเยื่อบุโพรงมดลูก ให้อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะสมกับการตั้งครรภ์
- ฤทธิ์ทำให้เมือกที่ปากมดลูกเป็นด่าง เหนียวขึ้น ทำให้อสุจิผ่านเข้าได้ยาก
พบว่าประสิทธิภาพของยาเม็ดคุมกำเนิดนั้นมีถึง 98% คือ มีอัตราเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ 2 ราย ต่อหญิง 100 ราย ที่ใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดสม่ำเสมอนานเป็นเวลา 1 ปี
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
วิธีการรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด
ชนิด 28 เม็ด
เริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในบริเวณที่ให้รับประทานเริ่มต้น โดยเริ่มรับประทานในวันแรกที่มีประจำเดือน รับประทานติดต่อกันจนหมดชุด แล้วเริ่มรับประทานชุดใหม่อีกโดยไม่ต้องหยุด
ชนิด 21 เม็ด
ให้เริ่มรับประทานยาเม็ดแรกในวันที่ 5 ของการมีประจำเดือน รับประทานจนหมดชุด แล้วหยุดรอให้มีระดู ซึ่งจะมีประมาณวันที่ 2-4 หลังจากหยุดยา แล้วจึงเริ่มชุดใหม่ในวันที่ 5 ของรอบเดือนเช่นเดิม หรือในกรณีที่ระดูไม่มาอาจจะใช้วิธีเว้นระยะ 7 วันหลังยาชุดแรกหมด แล้เริ่มชุดใหม่ต่อไปเลย โดยไม่ต้องคำนึงถึงวันการมาของระดู
สำหรับการรับประทานยาคุมกำเนิด ในกรณีหลังคลอดบุตร ถ้าเป็นการตั้งครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ขึ้นไป ควรให้เริ่มรับประทานหลังคลอด 2 สัปดาห์ ส่วนในกรณีตั้งครรภ์มีอายุครรภ์น้อยกว่า 12 สัปดาห์ ควรเริ่มรับประทานยาหลังคลอดทันทีเลย
ในสตรีที่ให้น้ำนมบุตร ควรคุมกำเนิดโดยวิธีอื่นไปก่อน จนกว่าจะหยุดให้นมบุตรจึงใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดได้
เวลารับประทานยาที่เหมาะสม ควรเป็นเวลาหลังอาหารเย็น เพื่อลดอาการข้างเคียงและควรรับประทานยาเวลาเดียวกันทุกวัน เพื่อป้องกันการลืม และทำให้ระดับยาในเลือดสม่ำเสมอ เป็นการลดอัตราการเกิดเลือดออกกะปริบกะปรอย
ถ้าลืมรับประทานยา 1 เม็ด ให้รับประทานยาทันทีที่นึกได้ และรับประทานเม็ดต่อไปตามปกติ แต่ถ้าลืมรับประทาน 2 เม็ดควรหยุดยาแล้วใช้วิธีคุมกำเนิดแบบอื่นรออีก 7 น แล้วจึงเริ่มรับประทานยาแผงใหม่
ในกรณีที่รับประทานยาสม่ำเสมอไม่ลืม แล้วมีการขาดระดู ให้รับประทานยาต่อไปตามปกติ ไม่ต้องกังวล แต่ถ้าขาดระดู 2 เดือน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ กรณีที่ลืมรับประทานยาแล้ขาดระดูแม้เพียงเดือนเดียวก็ควรไปปรึกษาแพทย์ ตรวจดูว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่