จะมีเพศสัมพันธ์กับแฟน เป็นครั้งแรกทั้งคู่ แต่สอดใส่ได้แค่นิดเดียวแฟนเจ็บมาก(ใส่ถุงยางนะครับ) ผมเลยเอาออกและมีเลือดสีแดงสดไหลออกมา พอมาอีกวันก็ยังมีเลือดไหลอยู่แต่น้อยลง อาการเจ็บก็หายไป แบบนี้จะเป็นอันตรายไหมครับ แล้วเลือดจะหยุดไหลอีกประมาณกี่วันครับ

สวัสดีครับ
ในการมีเพศสัมพันธ์เป็นครั้งแรกนั้นอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของเยื่อพรหมจรรย์ได้ หรือในกรณีที่มีเพศสัมพันธ์โดยที่ฝ่ายหญิงยังไม่พร้อมเพียงพอสำหรับการสอดใส่ก็อาจทำให้มีการบาดเจ็บของช่องคลอดและมีเลือดออกมาตามได้เช่นกัน ซึ่งการมีเลือดออกในลักษณะนี้โดยทั่วไปแล้วไม่ควรเกิน 1-2 วันครับ

ถ้าหากผ่านไป 1-2 วันแล้วยังมีเลือดไหลออกมามากอยู่หมอก็แนะนำว่าควรไปพบแพทย์นรีเวชเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมเนื่องจากอาจแผลฉีกขาดขนาดใหญ่อยู่ในช่องคลอกได้ครับ

สวัสดีครับ อาการเจ็บหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อาจจะเกิดจาก เยื่อพรหมจรรย์ขาดครับ จะทำให้เจ็บและเลือดไหลได้ครับ โดยปกติแล้ว ถ้าแผลไม่ลึก ควรจะหายได้เองภายใน 1-2 วันครับ แต่ถ้าผ่าน สัก 2-3 วันไปแล้ว เลือดยังไม่หยุดไหลควรจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจรอยฉีกขาดนะครับ ถ้าฉีกขาดมากควรจะต้อง มีการเย็บแผลเป็นต้นครับ

สวัสดีค่ะหากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ช่องคลอดไม่เคยขยายจะมีโอกาสเจ็บได้ค่ะ เลือดที่ออกอาจเกิดจากเยื่อพรหมจรรย์ขาด จะมีเลือดออกเล็กน้อยประมาณ 1-2 วัน และหยุดเอง โดยไม่รู้สึกเจ็บมาก แต่หากพบว่ามีเลือดออกมาเป็นก้อน และมีอาการเจ็บปวดมาก ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะนั่นอาจเกิดจากการฉีกขาดของช่องคลอด ซึ่งไม่ใช่เพราะเยื่อพรหมจรรย์ขาดค่ะ

อาการ มีเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ (postcoital bleeding) เกิดได้จากหลายสาเหตุ

กรณีของแฟนคุณ น่าจะเกิดจากการการบาดเจ็บเล็กน้อยของช่องคลอด เพราะมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ส่วนใหญ่สามารถหายได้เอง ถ้าเลือดไม่หยุดเอง หรือ ออกมากขึ้นเรื่อยๆ ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจภายในค่ะ ว่ามีแผลลึก ที่ต้องเย็บหรือไม่

สาเหตุอื่นๆ เช่น เกิดจากปากมดลูกปลิ้น ออกมา (cervical reversion) จนสาเหตุ ที่ต้องรักษา คือ เซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูก
ที่เรากลัวกัน ก็คือ เซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกค่ะ

ไม่ทราบว่ามีเพศสีมพันธ์มากี่วันแล้วครับ ถ้าเกิน 14 วันแล้วประจำเดือนไม่มา เบื้องต้นแนะนำว่าควรซื่ชุดตรวจการตั้งครรภ์มาตรวจ ตรวจด้วยปัสสาวะตอนเช้าหลังตื่นนอนครับจะบอกได้มากที่สุดครับว่าตั้งครรภ์หรือไม่ครับ ถ้าขึ้นหนึ่งขีดแปลว่าไม่ตั้งครรภ์ครับ

ถ้าตรวจการตั้งครรภ์แล้วพบว่าไม่ตั้งครรภ์ สาเหตุอื่นที่ทำให้ประจำเดือนไม่มาเช่น

1.ความผิดปกติที่ธาลามัส เช่น มีการทำงานของฮอร์โมนบางอย่างทำงานผิดปกติ หรือ เนื้องอก ซึ่งธาลามัสเป็นตัวควรคุม การทำงานของฮอร์โมนต่างๆครับ ถ้าทำงานผิดปกติจะส่งผลต่อต่อมใต้สมองได้ครับ

2.ความผิดปกติที่ต่อมใต้สมอง เช่น ผลิตฮอร์โมนที่ชื่อ prolactin มากไป จะทำให้มีน้ำนม เวลามีน้ำนม จะไม่มีประจำเดือน ครับ ซึ่งโรคนี้ต้องไปตรวจกับอายุรแพทย์เพื่อทำการ x ray คอมพิวเตอร์ สมองครับ

3.ความผิดปกติที่รังไข่ เช่น ถุงน้ำในรังไข่ จะมีประจำเดือนมาไม่ปกติ มาบ้างไม่มาบ้าง เพราะว่าในบ้างเดือนไข่ก็จะไม่ตก กลายเป็นถุงน้ำในรังไข่ ซึ่งพบได้บ่อยในเพศหญิงโรคนี้จะตรวจต้องไปตรวจกับ สูตินารีแพทย์ ครับ

4.ความผิดปกติที่ฮอร์โมนจากร่างกายตัวอื่นๆ เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ หรือไทรอยด์ต่ำ ซึ่งฮอร์โมนไทรอยด์ ต่ำไป สูงไป ก็จะทำให้ ประจำเดือนไม่มาได้ครับ เป็นต้นครับ

5.ความเครียด และ น้ำหนักตัวที่มากอาจจะทำให้ประจำเดือนผิดปกติได้ครับ

เพราะฉะนั้นแนะนำให้ไปโรงพยาบาลตรวจหาโรคเพิ่มเติมดีกว่าครับ การที่ประจำเดือนไม่มามีหลายสาเหตุมากครับ