January 30, 2018 22:16
ตอบโดย
ศิรินทิพย์ ผอมน้อย (นักจิตวิทยาคลินิก)
ยาที่หนูทานเป็นยาต้านเศร้า เป็นยาช่วยปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ ซึ่งคาดว่าคุณหมออาจจะวินิจฉัยหนูเป็นโรค F322 ก็คือโรคอารมณ์เศร้าหรือซึมเศร้านะคะ จากรูปที่2 การแปลความหมายทางจิตวิทยาพบว่ามีภาวะซึมเศร้า สิ่งแวด้อมรอบข้างหนูดูมืดมนไร้ความหวัง และรูปที่1หนูอาจมีภาวะสับสน เนื่องจากต้องการควบคุมตัวเองแต่ไม่สามารถควบคุมได้เกิดความรู้สึกเก็บกด กดดันทางอารมณ์อย่างมาก เลยระบายออกเป็นลายเส้นที่สับสนยุ่งเหยิงด้วยแรงกดที่หนักร่วมกับสีสีนต่างๆ
หนูควรทำอย่างไร?? แนะนำให้หนูกลับไปพบจิตแพทย์อีกครั้ง บอกคุณหมอตรงๆว่าหยุดยาเอง หยุดนานเกิน6เดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่หยุดยาเกิน6เดือนแล้วอาการกำเริบซ้ำ การรักษาอาจต้องเริ่มนับหนึ่งกันใหม่ ดังนั้น ครั้งต่อไปควรทานยาสม่ำเสมอ ไม่ควรปรับยาเองหรือหยุดยาเองเด็ดขาด มีปัญหาเรื่องยาแจ้งจิตแพทย์ ให้คุณหมอเป็นผู้ปรับให้เท่านั้นค่ะ อาการของหนูถือว่าไม่เลวร้ายมากนัก หนูสามารถรับรู้ถึงอาการป่วยหรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ เชื่อว่าการรักษาจะช่วยใก้หนูกลับมาเป็นปกติได้อีกครั้ง แต่อาจต้องใช้เวลาสักระยะ...พี่เป็นกำลังใจให้นะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่วันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 386 บาท ลดสูงสุด 61%
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
สวัสดีค่ะคุณหมอ หนูเคยเข้ารับการรักษาที่แผนกจิตเวชที่รพ.รามาธิบดีเมื่อเกือบสองปีก่อนค่ะ จริงๆหนูก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นซึมเศร้าหรือเปล่า เพราะหนูก็ไม่เคยถามคุณหมอให้ชัดๆและคุณหมอก็ไม่เคยพูดตรงๆเหมือนรักษาน้ำใจ แต่หนูอนุมานจากคำพูดคุณหมอว่าหนูป่วยเป็นขั้นต้นที่ไม่หนักมากค่ะ การรักษาตอนนั้นผ่านไปได้ค่อนข้างดีค่ะ แต่หนูมีความลับอย่างหนึ่ง คือหนูหยุดยาก่อนที่ยาจะหมดตามกำหนด เนื่องจากช่วงนั้นที่มหาลัยมีสอบ หนูเลยอยากหยุดเพื่อที่จะควบคุมการตื่นการนอนของตัวเองได้ หนูไม่แน่ใจว่าเพราะการหยุดยาในครั้งนั้นหรือเปล่าที่จากที่ดีขึ้นก็ทำให้หนูอาการแย่ลงเรื่อยๆค่ะ แต่ในเวลาเดียวกันหนูก็สับสนมาก หนูเครียดและรู้สึกดิ่งมากๆเหมือนข้างในมันรวนไปหมด แต่ก็กลัวว่าเป็นเพราะความรู้สึกสำออยเกินไป เพราะจริงๆแล้วมันไม่ได้หนักถึงขั้นนอนไม่หลับหรือทำอะไรไม่ได้เลยเหมือนก่อนเข้ารักษาครั้งที่แล้ว หนูยังพออ่านหนังสือ หรือดูซีรี่ส์ได้ หนูเลยพยายามสู้แต่สองปีที่ผ่านมาไม่ดีขึ้นเลยค่ะ ช่วงหกเดือนมานี้หนูรู้สึกแย่เป็นพิเศษ หนูไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อเลยค่ะ ทุกๆวันมันทรมานมากแต่หนูก็พยายามอดทนในทุกๆวัน ชีวิตหนูไม่เคยเหมือนเป็นของหนูเลยค่ะ หนูรู้สึกล้มเหลว เหมือนว่าตัวเองได้ตายไปแล้วเป็นพันๆครั้งกับชีวิตของตัวเอง ดูเหมือนความอดทนมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย คุณหมอคะ หนูควรจะทำยังไงกับเรื่องนี้ ถ้าหนูกลับไปรักษาอีกครั้งคุณหมอจะช่วยหนูได้ไหมคะ หนูเคยมีหวังกับการรักษาครั้งก่อนมาก เคยคิดว่าต่อให้รู้สึกแย่แค่ไหนหนูก็จะไม่ทำร้ายตัวเองเพราะสัญญากับพ่อแม่เอาไว้ แต่รู้สึกครั้งนี้หนูเกือบทำมันลงไปแล้วค่ะ มันยากมากในทุกวันจนหนูอยากจะหยุด เพราะถ้าหนูไป หนูจะได้เลิกทรมานสักที แต่เพราะหนูไม่ชอบตัวเองมากๆ แต่หนูรักคนอื่นมากๆ สุดท้ายหนูทำไม่ลงค่ะ ถ้าหนูหายไป หนูสบาย แต่คนที่อยู่ต่อเขาต้องทรมานค่ะ หนูไม่ต้องการให้ใครต้องสัมผัสกับสิ่งที่หนูต้องสู้อยู่ทุกวันคืนนั้นหนูเลยตัดสินใจอยู่ต่อ แต่ไฟในตัวหนูมันอ่อนเหลือเกินค่ะ ไม่รู้ว่าจะสู้ได้นานแค่ไหน คุณหมอคะ หนูอยากถามว่า 1. หนูควรทำยังไง 2. หนูพอจะมีซองยาที่เก็บไว้บางส่วน(บางอันทิ้งไปตอนหมด) จากรายชื่อยานีัคุณหมอพอจะบอกได้ไหมคะว่าหนูป่วยเป็นอะไร เพื่อที่หนูจะได้หาแนวทางช่วยตัวเองออกจากจุดนั้นเสียที บางทีการไม่รู้อะไรเลยก็ทำร้ายหนูมากๆค่ะ หนูอยากรู้ว่าที่เป็นนี้คือหนูป่วยจริงๆ หรือว่าคิดไปเอง ปล. หนูแนบรูปที่เคยวาดตอนที่รู้สึกว่าไม่ไหวแล้วจริงๆต้องการระบายมาให้ด้วยค่ะ แต่หลังจากนั้นหนูหยุดไปเพราะมีเพื่อนมาเจอรูปนี้ (ทั้งสองรูปถูกวาดไว้เมื่อเดือน สิงหาคม 2560)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)