July 29, 2019 11:40
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าไม่ใส่ถุงยาง โอกาสติดโรคมีครับ เช่น HIV ซิฟิลิส ไวรัสตับอักเสบ ครับ
หลังจากมีพฤติกรรมเเสี่ยงประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถไปตรวจได้ครับ เช่นที่ คลินิคนิรนาม
หรือ รพ รัฐ เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ตรวจได้เกือบหมดครับ
ถ้าหากยังไม่เกิน 72 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อขอรับยาต้านไวรัสHIVมารับประทานเพื่อป้องกันการติดเชื้อก่อนได้ครับ........
โดย หลังจากได้รับเชื้อ ในช่วงแรก สารพันธุกรรมของไวรัส (RNA และ DNA) ก็แบ่งตัวจะขยายจำนวนเพิ่มขึ้นจนมากพอที่เราสามารถใช้เทคนิคที่เรียกว่า NAAT (nucleic acid amplification testing) ตรวจได้หลังมีพฤติกรรมเสี่ยง 5-7 วัน
อาจใช้เวลา 1-2 วันรอผลครับ แล้วเเต่ที่
........
หลังจากนั้นจะมีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันการวินิจฉัย เช่น ตรวจหาAntigen(p24) Antibodyซึ่งคือภูมิคุ้มกันที่ร่างกายมีต่อเชื้อ(Anti HIV) ซึ่งมักตรวจได้หลังรับเชื้อประมาณ 1 เดือนขึ้นไป(ถ้าเป็นน้ำยา4th genจะตรวจเจอได้เร็วกว่า) โดยทั่วไปเเนะนำว่าจะเจอหลังติดเชื้อ3เดือน (พ้นระยะฟักตัว) อันนี้รู้ผลเร็วภายในวันนั้นเลยครับ
........
กรุงเทพมหานครสามารถรับบริการตรวจเอชไอวีฟรีได้ที่
• ตรวจฟรีไม่ต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน
- โรงพยาบาลบางรัก
- คลีนิคนิรนาม สภากาชาดไทย
- คลินิกชุมชนสีลม @ทรอปเมด
- คลินิกพิเศษของศูนย์ดรอปอิน
- คลินิกพิเศษฟ้าสีรุ้ง ซอยรามคำแหง 87
• ตรวจฟรีแต่ต้องแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วไป
ในพื้นที่จังหวัดอื่น ๆ สามารถรับบริการตรวจเอชไอวีได้ที่
- โรงพยาบาลรัฐทั่วไป (ตรวจฟรีโดยแจ้งเลขบัตรประชาชน)
- โรงพยาบาลหรือคลินิกเอกชน (เสียค่าใช้จ่าย)
............
ต่างจังหวัด
• ตรวจฟรีโดยแจ้งหมายเลขบัตรประชาชน ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งครับ
เรื่องโอกาสท้อง
ถ้าเดิมประจำเดือนมาสม่ำเสมอ เเล้วมีเพศสัมพันธ์ในช่วงก่อน7วันจนถึงหลัง7วันนับจากประจำเดือนมาวันเเรก เป็นระยะปลอดภัย ไม่มีไข่ตก โอกาสท้องเเทบไม่มีครับ
เเต่ถ้าเดิมประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ทำให้กะช่วงเวลาตกไข่ยาก หรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอเเต่มีเพศสัมพันธ์ช่วง14วันนับจากวันเเรกที่ประจำเดือนรอบนั้นมา จะเป็นช่วงไข่รก โอกาสท้องมากขึ้นครับ
เเต่ยังไง เรื่องการนับระยะปลอดภัยก็ไม่ได้เเม่นมากครับ มีโอกาสหลุดท้อง
ถ้ายังไม่เกิน120 ชม. นับจากที่มีเพศสัมพันธ์
ให้รับประทานเป็น “ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน” ครับ ตามร้านยาจะเป็น ยี่ห้อ Postinor,Madonna {ตัวยาชนิดเดียวกัน}
แต่ละกล่องจะมี ยา 2 เม็ด
หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte
.............
รับประทานให้เร็วที่สุดหลังจากมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน โดย
.............
ให้รับประทานยาคุมฉุกเฉิน ชนิด 2เม็ด เช่น Postinor หรือ Madonna ได้สองวิธี
1.รับประทานทันที 2 เม็ด
2.รับประทาน 1 เม็ดทันที เเละรับประทาน เม็ดต่อไป ในอีก 12 ชม.
สองวิธีประสิทธิภาพไม่เเตกต่างกัน (หรือชนิด 1 เม็ด เช่น Maple forte ก็กินเม็ดเดียวไปเลยครับ)
วิธีเเรกสะดวก แต่อาจเกิดอาการคลื่นไส้อาเจียนได้มากกว่า
วิธีที่สอง อาการคลื่นไส้อาเจียนน้อย เเต่ต้องดูเวลาดีๆ ครับ
.............
หากอาเจียนภายใน 2 ชม.หลังกินยา ต้องกินใหม่นะครับ เพราะยายังไม่ได้ดูดซึม
.............
ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดตึงเต้านม ได้ครับ
และ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
อย่างที่บอกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานเกิน2แผงต่อเดือนครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เเนะนำเป็นคุมกำเนิดรายเดือน หรือใช้ถุงยางอนามัยดีกว่าครับ
เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนขนาดสูง
ในระยะยาวมีผลต่อรังไข่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้มีการป้องกันนั้นจะถือว่ามีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ได้เสมอครับ เพราะในบางรอบเดือนก็อาจมีการตกไข่ที่ผิดปกติไม่ตรงตามรอบเกิดขึ้นได้
และถ้าหากเป็นการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่กำลังมีประจำเดือนอยู่ด้วยแล้วก็จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้ง่ายกว่าปกติครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อนโดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ส่วนเรื่องการติดเชื้อนั้นหมอแนะนำให้คอยสังเกตอาการว่าถ้าหลังจากนี้มีอาการเลือดออกหรือมีตกขาวผิดปกติทางช่องคลอดก็ให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจประเมินอาการและให้การรักษาเพิ่มเติมครับ
นอกจากนี้หมอก็แนะนำให้รอสังเกตดูว่าประจำเดือนในรอบต่อไปจะมาตามปกติหรือไม่ ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานก็ให้ลองตรวจการตั้งได้ครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ได้ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุนหมอ. อยากถามว่า มีเพศสัมพันธ์ตอนใกล้หมดประจำเดือนแร้วผู้ชายหลั่งในทุกครั้งจนหมดประจำเดือน เสี่ยงท้องมั้ยค่ะ แระเสี่ยงเกิดโรคมั้ยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)