August 03, 2019 18:47
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าใส่ถุงยางอนามัย ก็ไม่น่าท้องนะครับ
หลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีเลือดออกทางช่องคลอดได้ ประมาณ ภายใน1 สัปดาห์หลังกินยา ซึ่งไม่ใช่เลือดประจำเดือน (อาจจะมากระปริบกระปรอย หรือ ไม่มีก็ได้ครับ)
ส่วนประจำเดือนจะมาไกล้เคียงกับรอบประจำเดือนปกติ เเต่อาจมาเร็วหรือช้ากว่ารอบเดือนปกติได้ 1-3สัปดาห์
ดังนั้น หากเกิน3สัปดาห์ไปเเล้วจากวันที่ประจำเดือนควรจะมา
ให้ตรวจการตั้งครรภ์ครับ
........
การจะให้ชัวร์ว่าไม่ท้องก็ต้องรอประจำเดือนจริงๆมาครับ ซึ่งก็อาจจะเลื่อนได้จากผลของยา
หากต้องการตรวจการตั้งครรภ์ ตรวจได้เร็วที่สุด2สัปดาห์หลังมีเพศสัมพันธ์ครับ ระหว่างนี้ถ้ามีเพศสัมพันธ์ใช้ถุงยางไปก่อนครับ
เเละการคุมกำเนิดโดยการคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ควรใช้เกินสองแผงต่อเดือนครับ
...........
หลังจากนี้ถ้าชัวร์ว่าไม่ท้องเเละประจำเดือนมาเเล้ว เเนะนำเลือกวิธีคุมกำเนิด เช่น ยาคุมรายเดือน ฝังยาคุม ฉีดยาคุม หรือใช้ถุงยางอนามัยครับ
.........
ส่วนโอกาสตั้งครรภ์
หากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 12-24 ชม.แรกของการมีเพศสัมพันธ์ จะคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% รับประทานภายใน 72 ชม. ประมาณ 75%
ส่วนถ้าเกิน 72 ชม.แต่ยังไม่เกิน 120 ชม. จะประมาณ 60% ครับ
สรุปคือยิ่งรับประทานช้า จะยิ่งมีโอกาสท้องครับ
อย่างที่บอกยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ไม่ควรรับประทานเกิน2แผงต่อเดือนครับ ถ้ามีเพศสัมพันธ์บ่อยๆ เเนะนำเป็นคุมกำเนิดรายเดือน หรือใช้ถุงยางอนามัยดีกว่าครับ
เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเป็นฮอร์โมนขนาดสูง
ในระยะยาวมีผลต่อรังไข่ได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ถ้าใช้ถุงยางที่มีขนาดไม่เหมาะสม อาจทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ตามที่ควรจะเป็นค่ะ อย่างไรก็ตาม หากถุงยางหลวม ก็น่าจะเกิดการเลื่อนหลุดในระหว่างที่สอดใส่ไปแล้วนะคะ
แต่ถ้าผู้ถามไม่มั่นใจ การรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพื่อเป็นวิธีป้องกันสำรองก็สามารถทำได้ และเมื่อผู้ถามใช้ภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็น่าจะมีประสิทธิภาพดีกว่าการใช้ในช่วง 72 - 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงนัก ดังนั้น ถ้าไม่มีผลป้องกันจากถุงยางอนามัยเลย ผู้ถามก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ตามผลป้องกันของยาคุมฉุกเฉินนะคะ
หากไม่มีการตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วัน
ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน จะเป็นเพียงหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ แต่ไม่ได้สำคัญอะไร
จึงต้องรอดูไปก่อนว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ ซึ่งหากไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้าผู้ถามกังวลว่าจะตั้งครรภ์ ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
เเต่คือหนูไม่มีอาการเลือดออกเลยน่ะค่ะล่ะไม่มีอาการใดๆทั้งสิ้นเลยค่ะ
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
การที่มีหรือไม่มีผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน ไม่ได้บ่งชี้ว่ายาคุมจะมีประสิทธิภาพหรือไม่ และไม่สามารถจะสรุปได้ว่าจะมีการตั้งครรภ์หรือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ
ดังนั้น แนะนำให้รอดูว่าจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิมของผู้ถามหรือไม่นะคะ หรือหากกังวล ก็สามารถตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความชัดเจนตามที่กล่าวไปข้างต้นได้ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คือหนูมีอะไรกับเเฟนเเล้วผ่านไป1วันเเล้วล่ะมากินยาคุมฉุกเฉินตอนเยนเเต่ยังไม่เกิน48ชม.ประจำเดือนหนูจะมาไหมค่ะล่ะจะท้องป่าวค่ะเเต่ถุงยางมันหลวม
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)