December 16, 2019 20:08
ตอบโดย
คัคนานต์
เทียนไชย
(พญ.)
อายุรกรรม
สวัสดีค่ะ
โดยปกติ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ85% ค่ะ
ภาวะเลือดที่ออกทางช่องคลอดเกิดได้หลายสาเหตุค่ะ
-ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉิน
-เบือดประจำเดือน
-การติดเชื้อในโพรงมดลูก
-การแท้งบุตร
-เนื้องอกเยื่อบุโพรงมดลูก
เวื้องต้นแนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย14วัน
และถ้าเลือดออกมากผิดปกติ มีอาการปวดท้อง แนะนำไปพบแพทย์นรีเวชหาสาเหตุที่แน่ชัดค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
อ้อ ค่ะ
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
1. ยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาเร่งประจำเดือนค่ะ จึงไม่จำเป็นว่าจะต้องมีประจำเดือนมาภายใน 7 วันหลังรับประทานนะคะ
หากไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติ หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วัน ซึ่งประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ
ส่วนเลือดที่เป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน เป็นเพียงหยดเลือดซึม หรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร
ดังนั้น หากผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ทั้งที่ห่างจากรอบเดือนครั้งล่าสุดไม่ถึง 2 สัปดาห์ ถือว่าผิดปกตินะคะ และเสี่ยงที่จะเสียเลือดมากจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น แนะนำให้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมหาสาเหตุที่แท้จริงของความผิดปกติดังกล่าว และพิจารณาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสมตามจำเป็นค่ะ
2. การที่ผู้ถามรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองเมื่อถุงยางรั่วซึม เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่เหมาะสมแล้วนะคะ และอาจช่วยลดความเสี่ยงที่มีให้เหลือน้อยลงได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม หากไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม และกังวลว่าอาจตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
พอดีว่าที่เป็นอยู่มันเหมือนประจำเดือนมากเลยอ่ะค่ะ เลยสงสัย
แสดงว่านี่ไม่ใช่เลือดประจำเดือนแน่ๆใช่มั้ยคะ
เพราะว่าประจำเดือนที่แล้วมันมาเป็นเดือนนี้อ่ะค่ะ
ก็เลยสงสัยอ่ะค่ะว่า จะเกี่ยวกันมั้ยที่หากทานยาคุมฉุกเฉินจะทำให้มีประจำเดือนมาเร็ว1-3สัปดาห์อะไรแบบนี้อ่ะค่ะ
แล้วหากเป็นแบบนี้จะใช่อาการท้องไหมคะ
พอจะประมาณให้ได้มั้ยคะว่า เดือนหน้าประจำเดือนจะมาประมาณวันที่เท่าไหร่
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
โดยปกติ รอบประจำเดือน หรือระยะห่างจากวันแรกที่มีประจำเดือนของรอบหนึ่งไปหาอีกรอบหนึ่ง จะอยู่ในช่วง 24 - 35 วันค่ะ
สำหรับผู้ที่มีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติทุก 28 วัน ใน 1 ปีก็จะมีประจำเดือน 365/28 = 13 รอบใน 1 ปีนะคะ จะเห็นได้ว่า การที่ประจำเดือนมามากกว่า 1 รอบใน 1 เดือน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติค่ะ
และข้อมูลที่ว่าผู้ถามมี "ประจำเดือนมาทุกเดือน แต่มาไม่ตรงกัน" ยังระบุแน่ชัดไม่ได้ว่ามีประจำเดือนมาตรงเวลาหรือไม่ เพราะเดือนตามปฏิทินส่วนใหญ่จะมีเดือนละ 30 - 31 วัน สำหรับผู้ที่มีรอบประจำเดือน 28 วัน วันที่มีประจำเดือนในแต่ละรอบก็จะไม่ตรงกับวันเดิมตามปฏิทินนั่นเองค่ะ
ส่วนผลจากการใช้ยาคุมฉุกเฉิน อาจทำให้มีฮอร์โมนแปรปรวน และมีเลือดออกกะปริบกะปรอยได้ ซึ่งเกิดจากการฉีกขาดเล็กน้อยของหลอดเลือดฝอยบริเวณเยื่อบุโพรงมดลูก แต่ไม่ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย เนื่องจากไม่ได้มีการหลุดลอกของเยื่อบุโพรงมดลูกเหมือนเวลาที่มีประจำเดือน
ซึ่งผลจากการศึกษาชี้ว่า ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินมากกว่า 90% จะมีประจำเดือนในรอบที่รับประทานยามาตรงตามรอบปกติเดิม หรืออาจคลาดเคลื่อน (เร็วหรือช้าก็ได้) ไม่เกิน 4 วันค่ะ
แต่ถ้าผู้ใช้มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว ก็เป็นไปได้ที่จะมีประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้มากตามที่เคยเป็นนั่นเองนะคะ ไม่ว่าจะมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินหรือไม่ได้ใช้เลยก็ตาม
ดังนั้น หากผู้ถามมีเลือดออกมามากจนชุ่มผ้าอนามัย ไม่น่าจะเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉิน แต่ต่อให้เลือดนั้นเป็นประจำเดือน ก็ถือว่ามาเร็วผิดปกติ เพราะมาห่างจากวันแรกที่ประจำเดือนมารอบล่าสุดเพียง 11 วันเท่านั้น
และถ้าผู้ถามมีปัญหาประจำเดือนมาไม่ปกติ หากยังไม่ได้รับการแก้ไขที่เหมาะสม ก็คงคาดการณ์ได้ยากว่าประจำเดือนในรอบถัดไปจะมาเมื่อไหร่ เพราะอาจคลาดเคลื่อนได้ตามที่เคยเป็นค่ะ
จึงแนะนำให้ผู้ถามไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมว่าการมีเลือดผิดปกติดังกล่าวน่าจะเกิดขึ้นจากสาเหตุใด และหากมีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเดิมซ้ำ ๆ ซึ่งจะทำให้ผู้ถามเสียเลือดมากจนส่งผลเสียต่อสุขภาพ หรือเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายอื่น ๆ คุณหมอก็จะได้พิจารณาการรักษาที่เหมาะสมค่ะ
..
..
และเนื่องจากยังไม่ทราบว่าเลือดที่ออกมาผิดปกตินั้นเกิดจากสาเหตุใด จึงไม่อาจสรุปได้ว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ซึ่งหากต้องการความชัดเจน แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ในเวลาที่เหมาะสมตามที่แนะนำไปข้างต้นนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สวัสดีค่ะคุณหมอ พอดีประจำเดือนมาวันที่ 3 ธ.ค. ( อาจเป็นของเดือนที่แล้วเพราะประจำเดือนมาไม่ตรงกันแต่มาทุกเดือน ) วันที่ 10 มีอะไรกับแฟนแต่ถุงยางรั่ว จึงทานยาคุมฉุกเฉิน 2เม็ดพร้อมกัน ( ไม่มีอาการข้างเคียงตอนนั้น ) วันที่ 14 มีเลือดคล้ายประจำเดือนมาไม่มาก วันที่ 15 มีประจำเดือนค่ะ มาปริมาณเหมือนประจำเดือนเลยค่ะ สีแดงเข้มไปทางเลือดหมูเลยค่ะ ( ไม่มีอาการว่าจะเป็นแต่มีปวดทองจี๊ดๆเล็กน้อยเท่านั้น ) วันที่ 16 ก็เป็นประจำเดือนอ่ะค่ะ เพราะปริมาณแบบประจำเดือนเลยค่ะ เท่ากับว่าเดือนนี้เป็นประจำเดือน 2 ครั้ง จึงอยากทราบว่าที่คือผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินใช่มั้ยคะ และอาการนี้จะเท่ากับว่าท้องรึเปล่า
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)