สวัสดีครับผมอายุ15ปีนะครับคือว่าปกติแล้วผมเป็นคนที่แอนตี้พวกเกย์กับเพศ3ครับตอน ม.2ผมมีเพื่อนที่เป็นผู้ชายแต่นิสัยคล้ายๆเกย์ครับผมกับกลุ่มเพื่อนผมที่แอนตี้พวกนี้ก็ไปล่อเขาครับว่าไอเกย์ไรแบบนั้นพอเขาจะยุ่งหรือคุยไรกับผมผมก็จะด่าเขาไปด้วยความกลัวและเดินหนีไปครับแต่พอมาตอนนี้สิครับผมกลับรู้สึกเครียดและกังวลมากๆครับว่าตัวเองจะเป็นเกย์ครับเพราะมันมีแต่พวกเกย์มาจีบผมครับจนผมกลัวมากๆครับมือเท้าสั่นไปหมดใจเต้นเร็วและเอาแต่คิดเรื่องนี้ทั้งวันตอนไปเรียนก็เหม่อและเอาแต่คิดเรื่องนี้ครับเครียดมากๆเครียดที่สุดในชีวิตแล้วครับจนผมเริ่มมีความคิดที่อยากจะตายขึ้นมาครับและเมื่อ1ปีก่อนผมมีอาการคิดไปว่าจะเป็นมะเร็งครับเครียดพอๆกับอันนี้เลยครับกินข้าวไม่ลงนอนำม่หลับวันๆเอาแต่คิดเรื่องนี้เป็นอาการที่กลัวว่าตัวเองจะเป็นมะเร็งประมาณ6เดือนได้ครับแต่กลัวตัวเองเป็นเกย์นี้เป็นได้1เดือนแล้วครับเครียดมากๆๆ

ในกรณีที่มีอาการกลัวโดยที่ไม่สมเหตุสมผล เมื่อเผชิญกับสิ่งที่กลัวจะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกกังวลกลัวอย่างทันทีและพยายามที่จะหลีกหนีจากสิ่งนั้น หรือต้องอดทนเผชิญกับสิ่งที่กลัวนั้นอย่างมาก จนทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ใจ ส่งผลกระทบต่อการเรียน การดำเนินชีวิตประจำวัน อาการลักษณะนี้อาจบ่งถึงอาการในกลุ่มโรควิตกกังวลกลัว กลัวการเป็นเกย์ (Specific Phobia)

Specific Phobia แบ่งเป็น 5 ชนิดย่อย ได้แก่
1.กลัวสัตว์
2.กลัวสิ่งแวดล้อม
3.กลัวเลือด
4.กลัวสถานการณ์บางอย่าง
5.กลัวชนิดอื่นๆที่ไม่เข้ากับ4ชนิดข้างต้น

การรักษามักใช้วิธีการทำจิตบำบัดเป็นหลัก ซึ่งเทคนิคที่นิยมใช้คือการฝึกให้ค่อยๆ เผชิญกับสิ่งที่กลัวนั้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนสามารถเผชิญกับสิ่งนั้นได้เป็นปกติเหมือนคนทั่วไป นอกจากนั้นอาจใช้วิธีการฝึกผ่อนคลายด้วยการกำหนดลมหายใจเข้าออก ช้าๆ เพื่อทำให้อาการทางกายสงบลง และอาจใช้ยาร่วมในรายที่มีอาการรุนแรง เพื่อช่วยลดความวิตกกังวล

ดังนั้นในกรณีนี้ หากมีอาการรุนแรงจนทำให้นอนไม่หลับ หรือรู้สึกเป็นทุกขืใจอย่างมากกับอาการที่เกิดขึ้น หรือมีอาการวิตกกังวลกลัวจนมีภาวะซึมเศร้าร่วม(เบื่อ ท้อแท้ เศร้า นอนไม่หลับ เบื่ออาหาร ขาดสมาธิ รู้สึกไร้ค่า อยากตาย) แบบนี้แนะนำให้พบจิตแพทย์นะคะ ประเมินอาการเพิ่มเติม วินิจฉัยโรคให้แน่ชัด แล้วรับการรักษาด้วยวิธีที่เหมาะสม จะช่วยให้อาการดีขึ้น นะคะ หากปล่อยให้อาการเรื้อรังจะรักษายาก และส่งผลกระทบต่อชีวิตในด้านอื่นๆตามมาได้ค่ะ

การฝึกปรับความคิด การทำสมาธิ สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลได้ค่ะ แต่อาการของโรคเหล่านี้มักจะกลับเป็นซ้ำได้

อาการเรื้อรังที่บอก คือ อาการเป็นๆ หายๆ จนมีอาการอื่นแทรก เช่น ภาวะซึมเศร้า เป็นต้น ซึ่งกระบวนการรักษาอาจซับซ้อนและต้องใช้ระยะเวลาในการรักษานานขึ้น ค่ะ

การลดความวิตกกังวล มี 2 วิธี คือ
1.การใช้ยารักษา ยาจะช่วยปรับสารเคมีในสมองให้สมดุล ทำให้ควบคุมความคิด อารมณ์ และการแสดงออกทางพฤติกรรมได้ง่ายขึ้น
2.ปรับความคิด คือการเบี่ยงเบนความคิด โดยการพยายามหากิจกรรมอื่นมาทำให้เพลิดเพลิน การระบายแรงขับที่อยู่ภายในออกมาด้วยการออกกำลังกาย การพูดคุยกับคนที่ไว้วางใจ เป็นต้น

ในกรณีที่มีความวิตกกังวลนานเกิน 6 เดือน และอาการส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต หรือทำให้เกิดความรู้สึกทุกข์ทรมานใจอย่างมาก แนะนำพบจิตแพทย์ นะคะ ให้คุณหมอพิจารณาใช้ยาในการรักษาร่วมด้วย อาการจะค่อยๆดีขึ้นนะคะ

อันนี้จิตแพทย์ต้องประเมินอาการก่อนที่จะให้การรักษานะคะ การรักษาด้วยยาควรอยู่ภายใต้การดูแลของจิตแพทย์ ไม่แนะนำให้ซื้อยามาทานเองนะคะ