August 24, 2019 06:46
ตอบโดย
พิชญาพร กูลนุวัฒน์ (พญ.)
สวัสดีค่ะ
1. อาการปวดปัสสาวะบ่อยๆ ปวดแสบขัด มักเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะค่ะ ในบางคนอาจมีไข้ ปวดหลัง ปวดเอว หรือ ปัสสาวะมีเลือดปนได้ สาเหตุมักเกิดจากการกลั้นปัสสาวะนานๆ ดื่มน้ำน้อย หรือที่พบได้บ่อยคือหลังจากมีเพศสัมพันธ์
การรักษาเบื้องต้นคือ
ดื่มน้ำปริมาณมากๆ และไม่กลั้นปัสสาวะเมื่อปวด อาการปัสสาวะแสบขัดจะดีขึ้นเองได้ค่ะ แต่หากอาการไม่หายไป ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติม และรับยาฆ่าเชื้อค่ะ
ทั้งนี้ การติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หากเกิดขึ้นครั้งแรกแล้ว โอกาสเกิดครั้ง
ต่อๆไป มีได้มากกว่าคนทั่วไป ดังนั้น จึงควรดื่มน้ำปริมาณมาก เป็นประจำ และไม่กลั้นปัสสาวะค่ะ
2. แนะนำให้ไปพบแพทย์ก่อนค่ะ เพื่อดูว่าเป็นฝีจริงหรือไม่ เพื่อกาารักษาที่ถูกต้องค่ะ หากเป็นฝี แพทย์จะพิจารณาจากขนาด ว่าสามารถรักษาด้วยการรับประทานยาฆ่าเชื้อเพียงอย่างเดียวได้หรือไม่ หากมีขนาดใหญ่ ก็ควรกรีดระบายหนองออกค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
สวัสดีคะ คุณหมอ มีคำถาม 2 เรื่องคะ เรื่องที่ 1 3 วันที่แล้ว มีปัสสาวะแสบขัด และพอมาวันนี้ พอตื่นมา ไปปัสสาวะ พบว่ามีลัษณะคล้ายน้ำเลือด ตกตะกอน และมีลิ่มเลือดวงรี ยาว 0.5 cmโดยประมาณ อยู่ 1 ชิ้น คะ จึงกินน้ำเยอะขึ้น ประมาน 1800 ml หลังจากนั้นพอปัสสาวะสีก็ปกติแล้วคะ อากาศแบบนี้ ยังต้องไปหาหมอไหมคะ หรือแค่กินน้ำเยอะๆ ก็จะหายเอง เรื่องที่ 2 คือเป็นตุ่มแดงที่สะโพกใกล้เอว ด้านซ้ายคะ เจ็บมาก นอนหงายไม่ได้เลย คิดว่าเป็นฝี แต่ไม่สะดวกไปผ่าคะ เพราะกระทบกับการทำงานแน่ๆ เลยอยากทราบว่า มีวิธีการรักษาฝี แบบไม่ต้องผ่าไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)