May 07, 2019 10:01
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางถูกต้องและตรวจสอบแล้วว่าไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด ก็มีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ จึงไม่มีความจำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก เพราะไม่ได้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของถุงยาง แต่จะทำให้ได้รับผลข้างเคียงจากยาโดยไม่จำเป็นค่ะ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน โดยเฉพาะในช่วงใกล้วันที่จะมีประจำเดือน อาจทำให้ประจำเดือนเลื่อนช้าออกไปเล็กน้อยค่ะ หรืออาจเป็นความแปรปรวนของฮอร์โมนจากความเครียด, การเจ็บป่วย หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยก็ได้ที่ทำให้ประจำเดือนรอบนี้ของผู้ถามคลาดเคลื่อนไปบ้าง
ดังนั้น แนะนำให้รอดูไปก่อนนะคะ ยังไม่ต้องกังวล
อย่างไรก็ตาม หากรอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน ด้วยการใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การมีเพศสัมพันธ์โดยใช้ถุงยางอนามัยนั้นเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงอยู่แล้ว ถ้าหากใช้ได้อย่างถูกต้องโอกาสตั้งครรภ์ก็มีเพียง 2% เท่านั้น ในความเป็นจริงจึงไม่จำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินในกรณีนี้ครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆในรอบเดือนเดียวกันจะทำให้ระดับฮอร์โมนในร่างกายมีความแปรปรวนไปและอาจส่วผลต่อการคลาดเคลื่อนของประจำเดือนได้ครับ
ในกรณีที่ประจำเดือนขาดหายไปนานก็อาจลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูก่อน โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจไม่พบการตั้งครรภ์ก็ให้ใจเย็นๆและรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กอบศักดิ์ ชัยชะแตง (นพ.)
หากมีการป้องกันทุกครั้งด้วยถุงยางอนามัยและมั่นใจว่าไม่มีกทรฉีดขาดหรือหลุดหรือน้ำอสุจิปนเปื้อนออกนอกถุงยางอนามัย ไม่มีความจำเป็นต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินครับ ผลข้างเคียงภายหลังการทานยาคุมฉุกเฉิน ทำให้เกิดเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ภายได้1-5วัน ภายหลังทานยาครับ
และ โดยปกติประจำเดือนสามารถมาก่อนหรือหลังรอบปกติได้ประมาณ1อาทิตย์ หากมีความเครียด กังวล พักผ่อนน้อย อาจทำให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ครับ
หากไม่มั่นใจว่าอาจมีการตั้งครรภ์เช่น อสุจิเปื้ออนช่องคลอด มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยาง แล้ว ภายหลังมีเพศสัมพันธ์ประมาณ2อาทิตย์ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วลีรักษ์ จันทร (พว.)
การใช้ถุงยางอนามัยถ้าไม่มีการแตกหรือรั่วซึมสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 98% ค่ะ การใช้ยาคุมฉุกเฉิน มีผลทำให้รอบประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ค่ะเป็นผลจากฮอร์โมนโปรเจนตินขนาดสูง ซึ่งก่อนหน้านี้มีผลทำให้มีเลือดออกกระปริบกระปรอยหลังทานยาซึมไม่ใช่เลือดประจำเดือนค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
คุณหมอคะคือเดือนเมย.ที่ผ่านมาประจำเดือนหนูมาปกติค่ะคือวันที่6-9เมษ.หลังจานั้นมีพสพ.กับแฟนและใส่ถุงยางทุกครั้งเดือนเมษ.มีพสพ.4ครั้งและ2ครั้งแรกคือวันที่12และ15ใส่ถุงยางและหนูก้กินยาคุมฉุกเฉินด้วยเพราะกลัว..หลังจากวันที่15ที่กินยาคุมฉุกเฉินมีเลือดออกคล้ายผจด.แต่น้อยกว่ามีประมาน3-4วันค่ะแระมามี พสพ.อีก2ครั้งวันที่21แระ28ไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินแต่ใส่ถุงยางทุกครั้งจนมาวันที่1ได้มีพสพ.กันอีกปละใส่ถุงยางแล้วหนูก้กินยาคุมฉุกเฉินด้วยเพราะกลัวมาจนถึงวันนี้ปจด.หนูยังไม่มาเลยค่ะหนูควรทำอย่างไรคะหนูจะท้องไหมคะ(เพราเดือนพ.ค.นี้ในปฏิทินคำนวนปจด.จะมาตั้งแต่วันที่4พค.แต่นี้ก้เลยมา3วันแล้ว)จะเปนอะไรไหมคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)