September 24, 2019 14:59
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ
กรณีที่มีเพศสัมพันธ์ระหว่างที่รอทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินเม็ดสองให้ทานยาเม็ดสองตามปกติค่ะ กล่าวคือห่างจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมงค่ะ สำหรับการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมงหรืออย่างช้าสุด 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพในการคุมได้ 75-85% หรือมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-25%ค่ะ ดังนั้นแนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ได้ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ยังมีความเสี่ยงอยู่ใช่ไหมค่ะ?
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพต่ำกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานนะคะ การนำมาใช้แทนถุงยางอนามัยจึงเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จมากกว่าหลายเท่าค่ะ โดยหากมีการใช้ยาคุมฉุกเฉินเร็วและครบขนาด ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ในขณะที่ถ้าใช้ถุงยางถูกต้อง และตรวจสอบแล้วว่าไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%
และเนื่องจากยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทาน การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันซ้ำอีก จึงเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่าที่ควรจะเป็นนะคะ
อย่างไรก็ตาม หากผู้ถามใช้ยาคุมฉุกเฉินชนิดที่มีแผงละ 2 เม็ด และยังรับประทานไม่ครบขนาด ก็ให้รับประทานเม็ดที่สองต่อให้ครบขนาดก็พอนะคะ เพราะจากเวลาที่ทับซ้อนกัน การรับประทานแผงใหม่เพิ่มอีก ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันให้มากขึ้น แต่จะเพิ่มผลข้างเคียงจากยาให้มากขึ้นค่ะ
จากนั้น ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน แล้วรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่ (ไม่ต้องสนใจว่าจะมีเลือดกะปริบกะปรอยหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ ภายใน 7 วันหลังรับประทานหรือไม่ เพราะไม่ได้สำคัญอะไรค่ะ)
ถ้าไม่ตั้งครรภ์ ควรจะมีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนไม่มาก
แต่ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ครับ
หากรับประทานยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกต้องจะมีประสิทธิภาพป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 80-85% ครับ ซึ่งการรับประทานอย่างถูกต้องคือต้องทานหลังจากการมีเพศสัมพันธ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
"ยังมีความเสี่ยงอยู่ใช่ไหมคะ?"
ถูกต้องค่ะ ยังมีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ทั้งจากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนที่จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรก และจากการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างที่รอรับประทานยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สอง (ในกรณีที่ผู้ถามใช้ยาคุมฉุกเฉินยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด และรับประทานแยกครั้งละ 1 เม็ดห่างกัน 12 ชั่วโมง)
จึงควรรับประทานเม็ดที่สองให้ครบขนาดตรงเวลา เพื่อให้ประสิทธิภาพในการป้องกันดีเท่าที่จะมีได้ (แม้จะไม่สูงเท่ากับวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานก็ตาม) และควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน เพื่อไม่เพิ่มความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ไปมากกว่านี้
ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติเดิม ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจน ตามที่กล่าวไปข้างต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
มีเพศสัมพัธ์กับแฟนไปแล้วกินยาคุมฉุกเฉินเม็ดแรกทันที หลังจากนั้นก็มีเพศสัมพันธ์ซ้ำอีก ทั้งๆที่ยังไม่ได้กินยาคุมฉุกเฉินเม็ดที่สอง มีการหลั่งใน จะถามว่ามีเสี่ยงจะตั้งครรภ์หรือเปล่าค่ะ?
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)