July 14, 2019 13:47
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
จากผลเลือดที่แนบมานั้นมีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่ครับ ซึ่งโรคไวรัสตับอักเสบบีนี้ก็จะมีทั้งคนที่สามารถหายจากโรคเองได้และคนที่จำเป็นต้องได้รับยาในการรักษาครับ
ในเบื้องต้นยั้นหมอแนะนำว่าควรไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการของโรคไวรัสตับอักเสบบีเพิ่มเติมก่อนว่าอยู่ในระดับที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาหรือไม่ โดยการตรวจเลือดเพื่อหา HBeAg, HBeAb และ HBV DNA เพิ่มเติม เพื่อที่จะได้วางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไปครับ
แต่หมอไม่แนะนำให้หาสมุนไพรหรือยาใดๆมารับประทานด้วยตัวเองเพราะนอกจากจะไม่ช่วยในการกำจัดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีแล้วยังอาจมีผลให้เกิดตับอักเสบที่รุนแรงมากขึ้นตามมาได้ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
HBs Ag = ย่อมาจาก hepatitis B surface antigen แปลว่าตัวไวรัสตับอักเสบบี.ซึ่งตรวจจากโมเลกุลที่ผิวของมัน ถ้าตรวจได้ผลบวกก็แปลว่ามีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี.อยู่ในตัวคุณครับ
Anti HBc = ย่อมาจาก antibody to hepatitis B core antigen แปลว่าภูมิต้านทานต่อไวรัสตับอักเสบบี. คุณตรวจได้ผลบวกก็แปลว่าคุณมีภูมิคุ้มกันต่อไวรัสบีในส่วนเเกนของเชื้อ ซึ่งได้มาจากการติดเชื้อตามธรรมชาติ แต่ไม่พอทำลายไวรัสให้หมด
ส่วน Anti HCV ตรวจเเล้วเป็นผลลบ คือ ไม่มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซี
เเสดงว่าตอนนี้คนไข้มีการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เเต่ก็มีภูมิคุ้มกัน เรียกง่ายๆว่าน่าจะเป็น พาหะของไวรัสตับอักเสบบีครับ ส่วนค่าตับ ดูเบื้องต้นก็ปกติครับ ถ้าไม่มีอาการอะไร เเนะนำให้ นำผลเลือด หาเวลาปรึกษา
หมอโรคตับ (hepatologist) หมออายุรกรรม หรือหมออายุรกรรมเฉพาะด้านโรคทางเดินอาหาร (gastroenterologist) ครับ เพื่อตรวจเพิ่มเติม เช่น ภูมิคุ้มกันส่วนอื่นของไวรัส จำนวนไวรัส
อันนี้สันนิษฐานเพิ่มเติมนะครับ
ถ้าตอนนี้ไม่ได้มีอาการอะไรคือคุณติดเชื้อไวรัสมาแล้ว แต่ยังอยู่ในระยะไม่รู้จักกัน (immune tolerance) คุณจึงน่าจะติดมาจากแม่ตั้งแต่สมัยคุณอยู่ในท้อง ทำให้ร่างกายนึกว่าไวรัสนี่ไม่ใช่สิ่งแปลกปลอม นึกว่าเป็นพวกเดียวกัน จึงอยู่กันมาได้ตั้งนานหลายสิบปีโดยไม่ได้กำจัด และปล่อยให้ไวรัสแบ่งตัวในร่างกาย แต่โดยพฤติกรรมของไวรัส วันหนึ่งร่างกายต้องรู้จักว่านี่เป็นสิ่งแปลกปลอม และวันนั้นสงครามต้องเกิดขึ้น ซึ่งสงครามเกิดเมื่อไร ตับก็พังเมื่อนั้น รอแต่ว่าจะเกิดเมื่อไรครับ
ในระยะนี้จะใช้ยาต้านไวรัสก็ไม่ได้ เพราะวิธีออกฤทธิ์ของยาต้านไวรัสไม่เหมือนกระสุนปืนที่ยิงโป้งไปที่ตัวไวรัสโดยตรง แล้วตายเลย แต่ออกฤทธิ์ผ่านเซลเม็ดเลือดขาวไม่ให้ไวรัสมาแบ่งตัวในเซล คือไวรัสบีมีธรรมชาติอย่างหนึ่งคือเมื่อมันถูกเม็ดเลือดขาวจับกินเข้าไปในเซล มันจะแอบเข้าไปหาเครื่องปั๊มกุญแจที่อยู่ในเซล แล้วเอาเครื่องนี้ปั๊มเพิ่มจำนวนไวรัสออกมาเพียบ ยาต้านไวรัสไปบล็อกเครื่องปั๊มนี้ไม่ให้ทำงาน ดังนั้นเมื่อไม่มีสงคราม ไม่มีการจับกิน ยาก็ออกฤทธิ์ไม่ได้ครับ
สิ่งที่หมอทำได้ในระยะนี้ก็คือรอเวลา เฝ้ารอว่าการสู้รบจะเกิดขึ้นเมื่อใด เมื่อเกิดแล้วก็รีบเข้าไปแทรกแซง ด้วยการใช้ยาต้านไวรัสและใช้ยาช่วยลดการอักเสบเสียหายที่ตับ เพื่อไม่ให้ตับพัง
ดังนั้นคำแนะนำก็คือคุณควรไปติดตามการรักษากับหมอโรคตับอย่างต่อเนื่อง ถ้าหาหมอโรคตับ (hepatologist) โดยเฉพาะไม่ได้ก็รักษากับหมอโรคทางเดินอาหาร (gastroenterologist) ก็ยังดี ซึ่งอาจจะต้องต่อเนื่องครับ
ดังนั้นการเลือกหมอเลือกรพ.ก็คำนึงถึงค่าใช้จ่ายในระยะยาวไว้ด้วย โรคไวรัสตับอักเสบบี.เรื้อรังเป็นโรคทันสมัยเพราะมีข้อมูลใหม่มาตลอดเวลา ยาก็ทันสมัย แปลว่ายาแพง
ยังมีอีกสองเรื่องที่คุณต้องทำคือ
(1) เอาลูกเมียมาตรวจดูเชื้อไวรัสบี (HBsAg) และภูมิคุ้มกัน (Anti HBs, Anti HBc) ให้หมด ถ้ายังไม่ติดเชื้อ และยังไม่มีภูมิคุ้มกัน ก็ให้ฉีดวัคซีนครับ
(2) เตรียมพร้อมภูมิต้านทานของร่างกายคุณไว้ให้ดี ด้วยการพักผ่อนให้พอ ออกกำลังกายให้หนักพอและสม่ำเสมอ กินอาหารถูกส่วนซึ่งต้องหนักไปทางผักและผลไม้ และจัดการความเครียดทางใจให้ดี เพราะเมื่อวันทำสงครามมาถึง ภูมิต้านทานของร่างกายตามธรรมชาติ จะมีผลในการรักษาครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตรงนี้สามรถสรุปได้ไหมครับว่าเป็บแบบเฉียบพลันหรือเรื้อรังครับ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สิ่งที่จะใช้ระบุได้ว่าเป็นการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในระยะเฉียบพลันหรือเรื้อรังนั้นจะต้องมีการตรวจหาแอนติบอดีชนิด HBc IgM ครับ ถ้าหากตรวจพบแอนติบอดีชนิดนี้อยู่ก็จะเป็นการบอกว่ามีการติดเชื้อในระยะเฉียบพลัน
แต่จากผลเลือดที่แนบมานั้นไม่ได้มีการระบุอย่างชัดเจนว่า Anti-HBc ที่ตรวจไปใช่ HBc IgM หรือไม่ จึงยังไม่สามารถให้ข้อสรุปเรื่องระยะของการติดเชื้อได้ในขณะนี้ครับ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ไปพบแพทย์อายุรกรรมเพื่อตรวจประเมินอาการเพิ่มเติมก่อนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ต้นปี60 และปลายปี60 ตอนตรวจสุขภาพครับไม่พบเชื้อไวรัสครับ
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
ในกรณีนี้ก็ยังไม่สามารถช่วยในการระบุได้อย่างชัดเจนว่าจะเป็นการติดเชื้อในระยะใดครับ เนื่องจากระยะห่างของการตรวจเลือดนั้นห่างกันมาประมาณ 2 ปีแล้ว
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ไปตรวจไวรัสตับอักเสบมาผลเป็บแบบนี้ รบกวนคุนหมออธิบายเกี่ยวกับโรคและมีโอกาศหายได้ไหมครับ ช่วยผมด้วยครับ ตอนนี้ผมเริ่มหายาสมุนไพรมาดื่มแล้วครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)