September 02, 2019 11:37
ตอบโดย
Shintai Thavonlun (นพ.)
แนะนำให้คนใกล้ชิด ให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผล สารคัดหลั่ง เช่น น้ำลาย ของผู้ป่วย, ควรงดการทีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหายสนิทครับ
และแนะนำพาเพื่อนไปพบแพทย์จะดีที่สุด เพื่อซักประวัติ และตรวจร่างกายอย่างละเอียด
บางครั้งถ้าเริ่มเป็นแล้วรีบไปพบแพทย์ หรือมีโรคเริมเป็นซ้ำบ่อยๆ อาจมีข้อบ่งชี้ในการกินยาลดจำนวนไวรัส เพื่อลดระยะเวลาการเป็นโรค/การเจ็บปวด ลดระยะเวลาการแพร่เชื้อ และลดโอกาสการเป็นซ้ำครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ติดต่อทางการสัมผัสเป็นหลักครับ
แนะนำให้ดื่มน้ำมากๆ หลีกเลี่ยงความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการแกะเกา แนะนำให้คนใกล้ตัวหลีกเลี่ยงการสัมผัสผื่นแผล ในขณะที่มีตุ่มพองครับ
และหาเวลาไปพบเเพทย์ครับ ถ้าให้ดี ภายใน48ชั่วโมงครับ เพราะหลังจากนั้นยาต้านไวรัสAcyclovir จะได้ประโยชน์น้อยครับ (ถ้าดูแลร่างกาย นอนพักผ่อนเพียงพอ ในคนที่ภูมิคุ้มกันปกติ จะหายเองได้ครับ)
โรคเริมถ้าติดแล้วจะไม่หายขาด สามารถกลับมาเป็นซ้ำได้ใหม่ เพราะเชื้อไวรัส Herpes Simplex จะไปซ่อนอยู่ที่ปมประสาท เมื่อใดที่ร่างกายอ่อนแอ เครียด ภูมิคุ้มกันต่ำก็จะกลับมาเป็นเริมได้ใหม่ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
>อาการของผู้ที่เป็นโรคเริมที่ปาก มักจะค้นพบตุ่มแดง ๆ ใส ๆ เกิดขึ้นบริเวณปากบนและปากล่าง อีกทั้งยังคงรู้สึกคัน และมีอาการปวดแสบปวดร้อนตลอดเวลา
>โรคเริมที่ริมฝีปาก เกิดขึ้นได้เนื่องจากการติดเชื้อไวรัส Herpes โดยทางสัมผัสกับตุ่มของคนที่เป็นมาก่อนโดยตรง เช่น การจูบ การดื่มน้ำแก้วเดียวกัน เป็นต้น
>เมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อไวรัส เชื้อไวรัสจะแพร่กระจายและทำการฟักตัวภายใน 2 – 10 วัน และหลังจากนั้นก็จะเกิดเป็นตุ่นน้ำใส ๆ ขึ้นเป็นกลุ่มบริเวณริมฝีปากอย่างรวดเร็ว ซึ่งตุ่มน้ำใส ๆ นี้จะทำให้เกิดอาการคัน ปวดแสบปวดร้อน แต่จะแห้งและหายไปภายใน 7-10 วัน
>คนที่เคยเป็นแล้ว จะไม่หายขาด แต่จะมีช่วงที่อาการสงบครับ ความเครียด การพักผ่อนน้อยเป็นอีกสองสาเหตุ ที่ทำให้เกิดโรคเริมซ้ำได้เช่นเดียวกัน
>>การรักษา โรคเริมที่เกิดขึ้นบริเวณปาก ถือได้ว่าไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่อย่างใด หลังจากที่เป็นประมาณ 2 สัปดาห์ โรคเริมจะค่อย ๆ แห้งและหายไปเอง แต่ถ้าหากต้องการหายจากโรคเริมอย่างรวดเร็ว สามารถเลือกซื้อยาต้านเชื้อไวรัสเฉพาะที่ มาทาบริเวณที่เกิดโรคเริมได้เช่นเดียวกัน อีกทั้งผู้ป่วยยังคงสามารถรับประทานยาอะไซโคลเวียร์ร่วมด้วยได้ (ทานยาประมาณ 5 วัน) และถ้าหากมีอาการปวดมาก ยังคงสามารถประคบด้วยน้ำเกลือหรือน้ำเย็นที่บริเวณแผล วันละประมาณ 4-5 ครั้ง เพื่อช่วยลดอาการปวดให้ลดลงได้นั่นเอง
**แนะนำให้ไปพบแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้อง และให้การรักษาที่เหมาะสมครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
ขอบคุณมากๆค่ะ
พอดีเพื่อนเป็นโรคเริมค่ะ หนูกลัวว่าเพื่อนจะมาแพร่เชื้อให้เพื่อนๆ อยากจะรู้ว่าโรคเริมสามารถติดต่อกันทางไหนได้บ้างค่ะ ขอวิธีป้องกันด้วยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)