วัดความดันครั้งที่ 1 ได้ 132/93 และครั้งที่ 2 ได้ 132/92 เป็นอะไรไหมค่ะ

โดยทั่วไปจะแบ่งระดับความดันโลหิตอย่างง่ายๆ ดังนี้ครับ
- 90/60 - 120/80 mmHg คือ ความดันปกติ
- 121/81 - 140/90 mmHg คือ ความดันระยะก่อนเป็นความดันโลหิตสูง หรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
- 140/90 mmHg ขึ้นไป คือ เป็นโรคความดันโลหิตสูง

ความดันที่คุณวัดได้นั้นจัดอยู่ในช่วงที่มีความเสี่ยงว่าจะเป็นความดันโลหิตสูงได้ครับ ซึ่งยังไม่มีความจำเป็นต้องให้การรักษาด้วยยา แต่ต้องเริ่มระวังควบคุมความดันตนเองด้วยการคุมอาหารโดยการรับประทานอาหารเค็มให้น้อยลง ออกกำลังกายให้มากขึ้น และทำจิตใจให้ผ่อนคลาย ไม่เครียด

นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาด้วยว่าความดันที่วัดได้นั้นวัดได้อย่างถูกต้องหรือไม่ การวัดความดันที่ถูกต้องนั้นจะต้องเป็นการวัดหลังจากได้นั่งพักอย่างสงบอย่างน้อย 15 นาที สายรัดวัดความดันจะต้องไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป ถ้าวัดได้ตามนี้ก็จะเป็นค่าความดันที่เชื่อถือได้ครับ

และก็ยังมีปัจจัยอีกหลายๆอย่างที่เกี่ยวข้องกับความดัน เช่น อารมณ์ การนอนหลับ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน สถานที่/บรรยากาศขณะวัดความดัน
บางคนวัดความดันที่โรงพยาบาลได้สูงตลอด แต่พอกลับมาวัดความดันเองที่บ้านได้ค่าปกติตลอดก็มีครับ
การวัดความดันที่ดีจึงควรวัดในช่วงเวลาที่ต่างกัน วัดในสถานที่ที่ต่างกันหลายๆครั้ง แล้วนำค่าความดันทีได้มาแปลผลร่วมกันจึงจะได้ค่าความดันที่แม่นยำที่สุดครับ

ความดันที่มากกว่า 120/80 แต่ยังไม่ถึง 140/90 เป็นความดันที่อาจปกติ หรืออาจค่อนข้างสูงได้ครับ ขึ้นกับหลายปัจจัย ที่มีผลต่อค่าความดัน เช่น คุณอาจเดินขึ้นบันได ออกกำลังกาย ทำงาน ก่อนวัดความดันครับ หรือ สถานที่ที่ไม่คุ้นชินเช่นโรงพยาบาล ไม่คุ้นเคยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ทำให้มีความดันโลหิตที่อาจสูงกว่าวัดที่บ้านได้ครับ ฉะนั้น อาจนั่งพักให้ผ่อนคลายไม่ตื่นเต้น ตกใจ แล้ววัดอีกครั้งครับ นอกจากนี้การนอนดึก ความเครียด โรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา ล้วนมีผลต่อความดันได้ครับ

จากตัวเลขข้างต้นนั้น
ค่าความดันโลหิตของคุณ คือ 132/77 มิลลิเมตรปรอท และมีอัตราการเต้นของชีพจรอยู่ที่ 89 ครั้งต่อนาที

ซึ่งค่าความดันนี้ถือเป็นค่าความดันที่สูงกว่าปกติ ถือเป็นความดันระยะก่อนเป็นความดันโลหิตสูง หรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงในอนาคตได้ ส่วนค่าอัตราการเต้นของหัวใจยังอยู่ในระดับที่ปกติอยู่ครับ

ในกรณีนี้สิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นอันดับแรกคือได้มีการวัดความดันโลหิตอย่างถูกต้องหรือไม่ มีการใช้ขนาดของสายรัดวัดความดันที่เหมาหรือไม่ ได้นั่งพักอย่างสงบก่อนวัดความดันนาน 10-15 นาทีหรือไม่ ถ้าหากวัดความดันได้ถูกต้องตามนี้ ก็จะเป็นค่าความดันที่เชื่อถือได้ครับ

นอกจากนี้ความดันของคนเราก็ยังสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้จากปัจจัยหลายๆอย่างตามช่วงเวลาและวันที่ต่างกัน ดังนั้นค่าความดันโลหิตที่วัดเพียงครั้งเดียวจึงยังอาจไม่ใช่ค่าความดันที่แม้จริง การวัดความดันที่จะให้ผลที่น่าเชื่อถือมากขึ้นจำเป็นต้องมีการวัดหลายๆครั้งในช่วงเวลาที่ต่างกัน และประเมินจากค่าเฉลี่ยของค่าความดันที่วัดได้ครับ

นอกจากนี้ก็แนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรครวามดันโลหิตสูงในอนาคต โดยการลดการรับประทานอาหารเค็ม และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอครับ

ค่าความดันโลหิตจะแบ่งออกเป็นช่วงๆได้ดังนี้ครับ
- 90/60 - 120/80 mmHg คือ ความดันปกติ
- 121/81 - 140/90 mmHg คือ ความดันระยะก่อนเป็นความดันโลหิตสูง หรือเสี่ยงที่จะเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้
- 140/90 mmHg ขึ้นไป คือ เป็นโรคความดันโลหิตสูง

การวัดความดันโลหิตได้ 132/92 mmHg นั้นจะถือเป็นความดันโลหิตที่อยู่ในช่วงที่เป็นระยะก่อนความดันโลหิตสูงครับ เนื่องจากค่าความดันหลักที่ใช่ประเมินการเป็นความดันโลหิตสูงจะใช้ค่าความดันตัวบนก่อนเป็นหลัก ซึ่งในกรณีนี้ถึงแม้ความดันตัวล่างจะเข้าได้กับเกณฑ์ความดันโลหิตสูงแล้ว แต่ความดันตัวบนยังไม่ถึงเกณฑ์ความดันโลหิตสูงครับ

อย่างไรก็ตามการที่จะบอกได้ว่าความดันของตนเองอยู่ในเกณฑ์ใดนั้นจะต้องเป็นการวัดความดันหลายๆครั้งในช่วงเวลาที่ต่างกันและพิจารณาจากค่าความดันเฉลี่ยที่วัดได้ครับ เนื่องจากความดันโลหิตของคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา

ค่าความดันที่สูงกว่าปกติและถือว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงนั้น จะต้องมีค่ามากกว่า 140/90 มิลลิลิตรปรอท และจะต้องเป็นการวัดหลังจากที่นั่งพักมาแล้วอย่างน้อย 15 นาทีครับ

ในกรณีนี้ค่าความดันที่ได้จึงยังไม่สามารถนำไปแปลผลได้ว่าจะมีความดันโลหิตสูงหรือไม่เนื่องจากเป็นการวัดในขณะที่ยังไม่ได้นั่งพักอย่างเต็มที่ครับ

ถ้าหากความดันไม่เกิน 135 ก็ยังไม่จำเป็นต้องรับประทานยาความดันครับ แต่ควรคุมอาหารโดยการหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารเค็มและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันไม่ให้ความดันมากขึ้นครับ