วันที่29 พ.ย.เผื่อว่าประจำเดือนจะมาเลยใส่ผ้าอนามัยไว้ตอนเช้าไม่มีเลือด ตอนเย็นมามีเลอะเป็นสีน้ำตาลนิดเดียว เช้าวันต่อมาประจำเดือนมาเป็นเลือดสีเเดง จนถึงวันที่3ธ.ค.ประจำเดือนหายเเล้ว อยากทราบว่าเลือดที่เลอะวันเเรกใช่ประจำเดือนไหมคะ กินยาคุมพรุ่งนนี้(วันที่4)ทันไหมคะ1-5ของการมีประจำเดือน*ก่อนหน้านี้หยุดกินยาคุมหยุดได้3วัน ปจด.จึงมาค่ะ

ประจำเดือนปกติควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ

แต่จากข้อมูลที่ว่า "ก่อนหน้านี้หยุดกินยาคุม 3 วัน ประจำเดือนถึงมา" ถ้าหมายถึง ผู้ถามมีการรับประทานยาคุมแบบ 21 เม็ด เมื่อหมดแผงแล้วจะต้องเว้นว่าง 7 วันก่อนต่อยาคุมแผงใหม่นะคะ ซึ่งหากไม่ตั้งครรภ์ ก็ควรจะมีประจำเดือนมาในช่วงที่เว้นว่าง โดยมักจะมาหลังใช้ยาหมดไปแล้ว 2 - 3 วัน หรือคลาดเคลื่อนเล็กน้อย

ดังนั้น ถ้ายาคุมที่ผู้ถามใช้คือยาคุมแบบ 21 เม็ด ไม่สำคัญว่าเลือดที่ออกมาวันแรกจะเป็นประจำเดือนหรือไม่ เพราะถ้ามีประจำเดือนมาแล้วในช่วงที่เว้นว่าง ก็ถือว่าไม่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ และเมื่อเว้นว่างครบ 7 วันแล้วก็สามารถต่อยาคุมแผงใหม่ได้เลยค่ะ ไม่ต้องสนใจว่าประจำเดือนจะหมดวันใด

หากต่อยาคุมตรงตามกำหนด จะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกันทุกวัน และมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกตินะคะ โอกาสตั้งครรภ์คือ 0.3 - 9% ตามผลป้องกันปกติของยาคุมรายเดือน หรือค่อนไปทางต่ำ คือ 0.3% ถ้ารับประทานถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอค่ะ

สวัสดีครับ
เนื่องจากไม่ทราบว่าที่แจ้งว่าก่อนหน้านี้รับประทานยาคุมยี่ห้อใดอยู่และหยุดรับประทานยาไปเมื่อไหร่ จึงอาจจะยังไม่สามารถให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้มากรักนะครับ ถ้าหากต้องการทราบข้อมูลที่แน่ชัดมากขึ้นหมอก็ต้องขอทราบข้อมูลเพิ่มเติมก่อนว่า
- ก่อนหน้านี้รับประทานยาคุมยี่ห้อใด
- หยุดรับประทานยาคุมวันที่เท่าไหร่
- รับประทานยาคุมจนหมดแผงก่อนหยุดยาคุมหรือไม่ หรือมีการหยุดไปก่อนในลำดับที่เท่าไหร่

ส่วนจากลักษณะของประจำเดือนที่เล่ามานั้นหมอคิดว่ายังค่อนข้างก้ำกึ่งว่าการเริ่มรับประทานยาคุมในวันพรุ่งนี้จะทันกับช่วง 5 วันแรกของการมีประจำเดือนหรือไม่นะครับ ในกรณีนี้ถ้าหากต้องการความมั่นใจจริงๆ หมอก็แนะนำว่าควรรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ครบ 7 วันก่อนที่จะเริ่มมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยเพื่อให้มั่นใจได้ว่ายาคุมเริ่มออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างเต็มที่ก่อนครับ

ถ้าหากหยุดรับประทานยาคุมพรีมไปตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน การเริ่มรับประทานยาคุมใหม่อีกครั้งในวันที่ 4 ธันวาคมก็จะไม่มีผลให้ยาคุมออกฤทธิ์ป้องกันการตั้งครรภ์ได้ในทันทีครับ และในกรณีนี้ก็จะต้องรับประทานยาคุมติดต่อกันให้ได้อย่างน้อย 7 วันก่อนยาคุมจึงจะเริ่มมีผลป้องกันการตั้งครรภ์ได้ โดยในช่วง 7 วันแรกที่รับประทานยาคุมครั้งนี้ก็ควรงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปก่อนครับ

ขออนุญาตเสริมนะคะ

เนื่องจากผู้ถามใช้ยาคุมอย่างไม่เหมาะสม จึงไม่มั่นใจว่ามีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ร่วมด้วยหรือไม่ และเลือดที่ออกมาเป็นประจำเดือนจริง ๆ หรือเป็นเพียงผลข้างเคียงจากการรับประทานและหยุดรับประทานยาคุมดังกล่าว หรือเกิดจากสาเหตุอื่นใด

ดังนั้น ในกรณีที่มีความเสี่ยงที่จะตั้งครรภ์ เช่น มีเพศสัมพันธ์มาก่อน และเลือดที่ออกมาไม่ได้ตรงกับลักษณะของประจำเดือนตามที่แนะนำไปข้างต้น ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันด้วยนะคะ