May 17, 2019 18:56
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
ถ้าฉีดยาตามนัดตลอด ก็ไม่จำเป็นต้องฝังยาคุมอีกครับ (เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง)
1.ยาฉีด
การฉีดยาคุม
หลักๆจะมียาฉีดสองเเบบคือ เเบบสามเดือน(ฮอร์โมนเดี่ยว) กับแบบหนึ่งเดือน(ฮอร์โมนรวมครับ)
กรณีเป็นฮอร์โมนเดี่ยว(โปรเจสเตอโรน)ส่วนใหญ่ฉีดทุกสามเดือนครับ อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอย ประจำเดือนไม่มา น้ำหนักขึ้นได้ หากหยุดฉีดกว่าจะกลับมาตกไข่ มีลูกได้ใช้เวลาประมาณ10-12เดือนครับ
ส่วนฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจน+โปรเจสเตอโรน) จะฉีดทุก1เดือน หลังฉีด วันที่21เป็นต้นไป จะมีเลือดประจำเดือนตามรอบได้ครับ (คล้ายกินยาคุมแบบเเผง)
เเบบฮอร์โมนรวมถ้าหยุดฉีด เดือนถัดไป ไข่ตก มีลูกได้ตามรอบครับ
การเริ่มฉีด
-เริ่มใช้เข็มแรกภายใน 7 วันแรกของการมีประจำเดือน จะมีผลคุมกำเนิดได้เลย มีเพศสัมพันธ์แบบหลั่งในได้ไม่ต้องใช้ถุงยางครับ
- เริ่มใช้เข็มแรกหลังจากช่วง7วันเเรกของประจำเดือน ต้องมั่นใจว่าไม่มีการตั้งครรภ์ (เช่น หลังจากมีประจำเดือนล่าสุดจนถึงวันที่จะฉีดยา ไม่ได้มีเพศสัมพันธ์) หลังฉีดจะยังไม่มีผลคุมกำเนิด ต้องงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อนหรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วยไปอีก 7 วันหลังฉีดยาครับ
........
การฉีดยาคุมรายสามเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน มีผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยคือ เลือดประจำเดือนออกกระปริบกระปรอยครับ บางคนฉีดไปนานๆ ประจำเดือนจะหายไปได้ ครับ หลังหยุดฉีดยา กว่าไข่จะตกมีประจำเดือนปกติได้ จะประมาณ9-12เดือนครับ(ดังนั้นหลังหยุดฉีด จะกลับมาท้องได้ช้ากว่าชนิดฉีดทุก1เดือน
หรือ ถ้าเป็นยาคุมกำเนิดชนิดฉีดทุกหนึ่งเดือน ซึ่งเป็นฮอร์โมนรวม ก็จะมีผลข้างเคียงเหมือนยาคุมเเบบเเผงรายเดือนครับ เช่น คลื่นไส้อาเจียน คัดเต้านม เวียนหัว เเต่จะมีประจำเดือนตามรอบ หยุดฉีดเเล้วกลับมาตกไข่ มีประจำเดือนได้เร็วครับ
2.ยาฝัง
ฝังหนึ่งครั้งได้3-5ปี คุมกำเนิดได้ดีมาก เเต่อาจมีเลือดออกกระปริบกระปรอยได้ ราคาค่อนข้างสูง เเต่สาธารณสุขจะมีโครงการฝังฟรีครับถ้าอายุน้อยกว่า20ปี เวลาฝังอาจเจ็บได้ ต้องมาเอาออกเวลาครบกำหนด
...........
ถ้าอายุน้อยกว่า20ปี บริบูรณ์ ฝังยาคุมกำเนิดฟรีครับ(ปกติประมาณ2,500บาท ) สามารถติดต่อเเผนกสูตินรี ของรพ.ที่จะไปได้ครับ ว่ามีเปิดวันไหนบ้างครับ
...........
ฝังยาภายใน 5 วันแรกของประจำเดือน และแนะนำให้คุมกำเนิดด้วยวิธีอื่นร่วมด้วยก่อนใน 7 วันแรกหลังการฝังยา
โดยจะทำการฝังยาเข้าใต้ผิวหนัง บริเวณท้องแขนของแขนข้างที่ไม่ถนัดครับ ฉีดยาชา เเล้วใส่เเท่งยาเข้าไป ไม่ได้เจ็บมากครับ ห้านาทีก็เสร็จ
...........
ข้อสำคัญหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-ในช่วงแรกของห้ามยกของหนัก
-แผลห้ามโดนน้ำประมาณ 3-4 วัน
-พยายามคลำยาที่ฝังเป็นประจำ เผื่อยามีการเคลื่อนจากตำแหน่งเดิม
-สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้หลังจาก7 วันหลังการฝังยาคุมกำเนิด
-การฝังยาคุมกำเนิด ไม่ได้ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ผู้ใช้ยาคุมชนิดฉีด มีโอกาสตั้งครรภ์ 0.2 - 6% แต่ถ้าไปฉีดตรงตามนัดสม่ำเสมอ ความเสี่ยงจะค่อนไปทางต่ำ คือ 0.2% นะคะ ส่วนผู้ที่ฝังยาคุมกำเนิด จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยกว่า คือ 0.05% ค่ะ
อย่างไรก็ตาม การใช้วิธีคุมกำเนิด 2 วิธีดังกล่าวร่วมกัน ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดให้มากกว่าการใช้ยาฝังคุมกำเนิดเพียงอย่างเดียว แต่จะเพิ่มผลข้างเคียงจากยาให้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นนะคะ
ดังนั้น หากผู้ถามใช้ยาคุมชนิดที่ฉีดทุก 3 เดือนอยู่ และต้องการเปลี่ยนไปใช้ยาฝังคุมกำเนิด สามารถฝังยาคุมในวันครบกำหนดฉีดยาคุมครั้งต่อไปได้เลย และจะถือว่ามีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องกัน จึงมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ตามปกติค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ถ้าเราคุมกำเนิดแบบฉีดยาคุม3เดือนอยู่สามารถฝังยาคุมกำเนิดได้ไหมค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)