September 20, 2019 10:06
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ประจำเดือนที่เป็นปกตินั้นควรจะมาติดต่อกันนาน 3-7 วันครับ ทำให้การที่เลือดที่ออกมานั้นหายไปเร็วเกินไปจึงยังไม่สามารถใช้สรุปได้ว่าเป็นประจำเดือนจริงหรือไม่ และการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยนั้นก็จะเป็นความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้สูงครับ
ดังนั้นในตอนนี้หมอจึงแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% หรืออย่างช้าที่สุดก็ไม่ควรเกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
ส่วนประจำเดือนนั้นก็ควรจะยังต้องมาเป็นปกติอยู่แม้จะรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแลเว ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปหมอก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูเพื่อความแน่ใจด้วย โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอนไม่ใส่ถุง ไม่ได้หลั่งคับ แต่ตอนที่ถอดถุงออกแล้วทำต่อมีโอกาศไหมคับ
คือแฟน ปกติแฟนประจำเดือนมา16 แต่นี่ ประจำเดือนมาวันที่18 กย คับแล้ว 19ก.ย. ก้มีอะไรกับแฟนแต่ใส่ถุงและหลั่งนอก แต่เช้ดออกแต่ไม่แน่ใจว่าออกหมดไหม แต่ยังมีติดอยู่หน่อยๆและและมีเพศสัมพันกันต่อแบบไม่มีถุง วันต่อมาประจำเดือนไม่มาเลย แต่วันที่มีอะไรกับแฟน วันนั้นมาเยอะมาก ระหว่างมีเพศสัมพันธ์ก้ไหลออกมา แต่พอวันต่อมาก้ไม่มีประจำเดือนมาเลย จะท้องไหมครับ ถ้ากินยาคุมฉุกเฉินจะทันไหม ถ้ากินไปแล้วประจำเดือนยังจะมาอยู่ไหม คือวันที่20 ประจำเดือนก้ไม่มาเลย และคืนวันที่19หลังจากมีอะไรกัน ก้ไม่มีไหลมาเลยคับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)