คือหนูพึ่งคลอดได้3เดือนค่ะแลัวเดือนมาแลัวเมือวันที่23เดือนมิถุนายนคะแต่ก็มาแบบขาดบ้างแต่เดือนนี้กรกฎาคมประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะแต่ก่อนหน้านี้ก็มีเพศสัมพันธ์กับแฟนเดียวเห็นว่าหลั่งนอกมีโอกาสท้องไหมคะ

โดยปกติภายหลังคลอดและอยู่ในช่วงให้นมบุตรจะเป็นการคุมกำเนิดโดยธรรมชาติในช่วงระยะเวลาตั้งแต่หลังคลอดประมาณ6เดือนครับ

ถ้าภายหลังการคลอดไม่ได้ให้นมบุตรและมีไข่ตกช่วงที่มีเพศสัมพันธ์พอดี การคุมกำเนิดโดยการหลั่งภายนอก โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 4-27 ครับ ถ้ากังวลว่าตั้งครรภ์สามารถซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบได้ครับ

สวัสดีครับ
การที่มีประจำเดือนมาแล้วหลังจากคลอดบุตรก็จะเป็นการบ่งบอกว่าร่างกายกลับมาพร้อมที่จะตั้งครรภ์ได้อีกครั้งแล้วครับ

การมีเพศสัมพันธ์โดยการหลั่งนอกนั้นมีโอกาสที่จะมีอสุจิที่ปนอยู่ในน้ำหล่อลื่นของผู้ชายหลุดลอดเข้าไปปฏิสนธิกับไข่ได้ทำให้มีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ 4-27%

ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ

และถ้าหากหลังจากนี้ประจำเดือนยังไม่มาหมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดูด้วย โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ

หากไม่ได้มีการให้นมบุตรนั้นมีโอกาสตั้งครรภ์มากกว่าแม่ที่ให้นมบุตรครับ ฉะนั้นภายหลังตั้งคลอดประมาณ1-2เดือน แม้ยังไม่มีประจำเดือนก้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้อีกครับ ฉะนั้นจึงควรคุมกำเนิดครับ

ถ้าไม่ได้ให้นมบุตรอยู่ก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้ง่ายตามที่หมอได้ให้ข้อมูลไปครับ ในตอนนี้หมอแนะนำให้หายาคุมฉุกเฉินมารับประทานให้เร็วที่สุดก่อนครับ

สวัสดีคนับ ถ้าหลังคลอดไม่ได้ให้นมบุตรแล้วมีเพศสัมพันธ์กัน ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ครับ และถ้า ประจำเดือนไม่มาจามกำหนด แนะนำให้ลองตรวจการตัเงครรภ์ดูก่อนครับ

เมื่อมีประจำเดือนมาแล้วหลังคลอดบุตร ก็แสดงว่าการยับยั้งไข่ตกจากการให้นมบุตรไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอแล้วค่ะ ซึ่งอาจเกิดจากการที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หรือมีการกระตุ้นเต้านมด้วยการให้ลูกดูดนมหรือปั๊มนมไม่บ่อย, ไม่นาน และไม่สม่ำเสมอเพียงพอ

และเมื่อมีไข่ตกก็พร้อมทีจะตั้งครรภ์ได้แล้วนะคะ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกัน หรือป้องกันด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำ ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงกว่าที่ควรจะเป็น

โดยการหลั่งนอก มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 4 - 22% ค่ะ แต่โดยทั่วไปถือว่าความเสี่ยงจะค่อนไปทางสูง คือ 22% นะคะ

หากเทียบกับการใช้ถุงยางที่ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดที่จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ก็จะเห็นได้ว่าการหลั่งนอกมีความเสี่ยงสูงกว่ามาก จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ

ถ้ายังไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ แนะนำให้ป้องกันฉุกเฉินโดยเร็วนะคะ โดยมี 2 ทางเลือก คือ รับประทานยาคุมฉุกเฉิน (โอกาสตั้งครรภ์ 15 - 25%) หรือไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง (โอกาสตั้งครรภ์ 0.6 - 0.8%)

และหากไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ ก็ควรตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนนะคะ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ

การตรวจการตั้งครรภ์นั้นแนะนำให้ตรวจเมื่อห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจครับ

ควรตรวจอย่างน้อยเมื่อ มีเพศสัมพันพ์ ไปแล้ว 14 วันครับ โดยใช้ปัสสาวะในตอนเช้าครับ ผลจะแม่นยำที่สุดครับ

1. ควรป้องกันฉุกเฉินโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ หรืออย่างช้าภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ โดยมีทางเลือก ดังนี้

- รับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็ว โดยสามารถรับประทานแบบครบขนาดในครั้งเดียวได้ค่ะ นั่นคือ ถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 2 เม็ด ก็รับประทาน 2 เม็ดพร้อมกันในครั้งเดียว หรือถ้าใช้ยี่ห้อที่มีแผงละ 1 เม็ด ก็รับประทานเม็ดเดียวครั้งเดียว แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก แม้จะใช้ยาคุมฉุกเฉินครบขนาดและทันเวลาก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ

- หรือ ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ซึ่งจะมีประสิทธิภาพสูงมาก ผู้ใช้มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 0.6 - 0.8% เท่านั้น และมีผลคุมกำเนิดต่อได้นาน 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้

และ 2. ควรงดมีเพศสัมพันธ์ไปก่อน และถ้ารอนานแล้วยังไม่มีประจำเดือนมา ควรตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอนของวันที่ 8 สิงหาคมนะคะ

แนะนำให้ตรวจด้วยปัสสาวะแรกในตอนเช้า และงดการปัสสาวะหรือดื่มน้ำอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนทำการตรวจนะคะ