คือเเฟนผมมีประจำเดือนเมื่อวันที่1 เเละได้หมดไปเมื่อ4-5วันที่เเเล้ว เเละวันที่8เรรได้มีเพศสัพันธ์กัน เเละได้เกิดถุงยางขาดเเต่ผมยังไม่ได้หลั่งนะครับ พอได้ยินเสียงขาดเลยเอาออกทันทีเเละเลิกทำเลยครับ เเละเช้ามาเลยไปกินยาคุมฉุกเฉินเเบบ1เม็ด เเบบนี้มีโอกาสท้องมากน้อยแค่ไหนครับ

สวัสดีค่ะ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินภายใน 24 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 10-15%
ภายใน 72 ชม มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15-20% ค่ะ

การกินยาคุมฉุกเฉิน มีผลทำให้เลือดออกกระปิดกระปอยได้เล็กน้อยค่ะ
แนะนำตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะ ซึ่งจะตรวจได้เองหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย 14 วัน จึงจะแปลผลน่าเชื่อถือค่ะ

การใช้ถุงยางป้องกันถือเป็นทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ เพราะถ้าใช้ถูกต้องและไม่มีปัญหารั่วซึมหรือฉีกขาด ก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลนะคะ

อย่างไรก็ตาม เมื่อถุงยางฉีกขาด ความเสี่ยงก็จะสูงขึ้นค่ะ ซึ่งการรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วเพื่อเป็นวิธีป้องกันสำรอง ถือเป็นการแก้ไขที่เหมาะสมแล้วนะคะ โดยการรับประทานเร็วและครบขนาดอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาเป็น 15% แทนได้ค่ะ

แนะนำให้รอดูว่าแฟนผู้ถามจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ ซึ่งหากไม่ตั้งครรภ์ก็ควรจะมีประจำเดือนมาตรงตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันค่ะ โดยประจำเดือนปกติก็ควรจะมีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันนะคะ

ส่วนเลือดที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ เป็นหยดเลือดซึมหรือเลือดกะปริบกะปรอย ไม่ได้มามากจนชุ่มผ้าอนามัย ซึ่งผลข้างเคียงนี้ไม่ได้สำคัญอะไรนะคะ อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ค่ะ

ถ้าไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจการตั้งครรภ์ด้วยชุดทดสอบทางปัสสาวะ ในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันได้นะคะ

กรณียังไม่ได้หลั่งในออกมา ทำให้มีโอกาสผิดพลาดได้น้อยลงค่ะและการรับประทานยาคุมฉุกเฉินเร็วนั้น จะช่วยลดโอกาสได้ค่ะ
หากประจำเดือนมาปกติ ก็แสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ หรือสามารถตรวจครรภ์ได้ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ดังที่กล่าวไว้ได้ค่ะ

ผลข้างเคียงที่มีได้จากการรับประทานยาคุมฉุกเฉินนั้นมได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน มีเลือดของกะปริบกะปรอยค่ะ
โดยเลือดออกกะปริบกระปอยนั้น จะมีได้เพียง3-5 วัน เท่านั้นค่ะ
สำหรับอารการคลื่นไส้อาเจียน สามมรถรับประทานยาบรรเทาอาการไปก่อนได้ โดยหาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปค่ะ
ทั้งนี้ แนะนำทำจิตใจให้สบายก่อน หากฝ่ายหญิงมีความเครียด อาจส่งผลให้ประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ค่ะ

หากในการมีเพศสัมพันธ์นั้นใช้ถุงยางอนามัยแล้วมีปัญหา ขาด รั่ว หรือ ปริแตก แม้จะได้ทันได้หลั่งด้านใน ก็สามารถทำให้ตั้งครรภ์ได้นะค่ะ ซึ่งการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินก็ถือว่าเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว ซึ่งการทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินก็พอจะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ได้ค่ะ ซึ่งหากอยู่ในช่วง 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ก็ควรทานยานี้นะค่ะ และ หากทานถูกต้อง โดยการทานนั้น อาจทานพร้อมกันสองเม็ดเลย หรือ อาจทานครั้งละ 1 เม็ด ห่างกัน 12 ชั่วโมง ก็ได้ค่ะ ซึ่งยาคุมกำเนิดฉุกเฉินจะมีประสิทธิภาพประมาณ 89 - 92 % หรือหากจะเข้าใจง่ายๆ คือ ทานยานี้ 10 คน จะสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 9 คน ซึ่งในยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉินนั้น จะมีตัวยาที่เป็นฮฮร์โมน ซึ่งมีกลไกการป้องกันการตั้งครรภ์ต่างๆ ทำให้ยับยั้งการตกไข่ ผลทำให้ไม่มีการตกไข่ หรือ ตกช้าออกไป ทำให้ประจำเดือนรอบนั้น อาจเลื่อนออกไป หรือ กะปริดกะปรอยได้ และมีผลทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมในการฝังตัว อาจส่งผลให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอดได้หลังทาน 3-7 วันค่ะ แต่เลือดที่อาจออกมานี้อาจมีหรือไม่มีก็ได้นะค่ะ และ การที่มีหรือไม่ก็ไม่ได้แสดงถึงประสิทธิภาพว่าจะป้องกันได้หรือไม่ หรือ เป็นอาการแสดงการตั้งครรภ์แต่อย่างใดค่ะ แต่วันที่ไข่ตกจะประมาณวันที่ 14 นะค่ะ ซึ่งวันที่ 8 เป็นวันหลังมีประจำเดือนที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้น้อยมากค่ะ

ใช่ค่ะ อาการของผลข้างเคียงนั้น ไม่ได้พบได้ทุกคนค่ะ การทานยาแล้วไม่พบผลข้างเคียง ถือเป็นเรื่องปกติที่ดีแล้วค่ะ

กรณียังไม่พร้อมตั้งครรภ์นั้น
แนะนำการคุมกำเนิดโดยวิธีการทานยาคุมรายเดือน การใส่ห่วง การฉีดยาคุมกำเนิด และการฝังยาคุมกำเนิด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่า ควรศึกษาถึงข้อดีข้อเสีย วิธีการใช้อย่างถูกต้อง และความเหมาะสมของตนเอง เพื่อการคุมกำเนิดอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ

ไม่ต้องเครียดมากค่ะ โอกาสน้อยมากที่จะตั้งครรภ์ ยิ่งถ้าไม่มีการหลั่งอสุจิด้วย แต่ที่พวกคุณหมอตอบคำถามทุกอย่างคือมีโอกาส ที่จะท้องและไม่ท้องค่ะ ยาคุมฉุกเฉินไม่อันตรายค่ะถ้าไม่ได้ใช้บ่อย ถ้าตั้งครรภ์จริงๆก็มีศูนย์ช่วยเหลือเรื่องท้องไม่พร้อมค่ะ โทรปรึกษาได้ 1663 แต่ตอนนี้ทำใจให้สบายก่อนนะค่ะ

ต้องรอวันที่รอบเดือนจะมาแล้วประจำเดือนเลื่อนประมาณ 1-2 สัปดาห์ค่ะ ต้องรอว่ามีการผสมระหว่างไข่กับอสุจิหรือไม่ค่ะ

ใช่ค่ะ และเลือดต้องมาปริมาณปกติ ตามวันที่เคยเป็น เช่นเคยเป็นประจำเดือน 3 วัน เลือดออกปริมาณเท่าเดิมค่ะ

ประจำเดือนที่มาปกติ คือ จำนวน 3-7 วัน ปริมาณปกติคือใช้ผ้าอนามัย 1-3 แผ่นต่อวัน รอบเดือนปกติของสตรีวัยเจริญพันธุ์นั้น อยู่ที่ 28-35 วัน ก็จะแสดงว่าไม่ตั้งครรภ์ค่ะ

แต่หากประจำเดือนไม่มา การตรวจการตั้งครรภ์ด้วยปัสสาวะเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย ทำเองได้ ราคาถูก และให้ผลเชื่อถือได้สูง หลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายมากกว่า 14 วันค่ะ

สำหรับตรวจการตั้งครรภ์โดยการเจาะเลือด ให้ผลบวก 7-9 วัน หลังมีการปฏิสนธิ ซึ่งเป็นวิธีที่ยุ่งยาก ราคาแพง ไม่คุ้มค่าต่อการตรวจการตั้งครรภ์ธรรมดา เว้นแต่จะใช้ในกรณี การวินิจฉัยการตั้งครรภ์นอกมดลูก การติดตามและประเมินความเสี่ยงของการเจริญตัวอ่อน/ทารกผิดปกติ (เช่นกลุ่มอาการดาวน์) ค่ะ

ไม่ต้องกังวลค่ะ
จากประวัติ โอกาสไม่มาก และมีการป้องกันอย่างถูกวิธีตามหลักการทางการแพทย์แล้ว จึงค่อนข้างสบายใจได้ค่ะ