ผมอายุ 46 ปี ติดเชื้อไวรัสบี เมื่อปี 2535 (อายุ 19)แต่ไม่ได้ทำการรักษา จนถึง พ.ศ. 2555 จึงพบแพทย์ และเจาะเลือด พบว่ายังมีเชื้อไวรัสอยู่ แพทย์จึงนัด F/U ทุก 6 ด. และ 1 ปี (แพทย์ให้ยาบำรุงตับ) ### จนถึง พ.ศ. 2559 (มิ.ย.) ผลเลือด *HBs-Ag(Quantitative) = Negative 0.04 lU/mL *HBV DNA มีค่า118 copies/mL (Reference range 117- 989400000) *HBV Log มีค่า 2.07 copies (Rfr.2.07-9.00) *ค่า AST/SGOT = 19 *ค่า ALT/SGPT = 22 ###พ.ศ.2560 (ก.ค.) ผลเลือด *HBs -Ag (EIA) =Negative *Anti- HBs (EIA)=Positive *ค่า AST/SGOT = 16 *ค่า ALT/SGPT = 17 *HBV DNA มีค่า <117 copies/mL (Reference range 117- 989400000) *HBV Log มีค่า <2.07 copies (Rfr.2.07-9.00) ## พ.ศ.2562 ผลเลือด *Anti HBc - Positive *Anti HBs - Positive *HBs Antigen - Negative *SGPT - 19 U/L(Reference value M< 50 U/L) *ALP - 87 U/L (Reference value 38-126) ทุกครั้งที่นำผลเลือดไปพบแพทย์ ไม่ได้เจอกับแพทย์ที่สั่งตรวจ(นัดพบ 1 ปี)เพราะท่านย้ายสถานที่ทำงาน ครั้งสุดท้ายได้นำผลเลือดไปพบแพทย์(ไม่ใช่แพทย์ที่สั่งตรวจ)ท่านบอกว่าคนที่เป็นพาหะจะไม่มีภูมิและเชื้อจะไม่หาย ท่านจึงนัด F/U ผมอีก 6 เดือน แต่ก่อนที่ผมจะนำผลเลือดมาพบแพทย์ท่านล่าสุด ผมได้นำผลเลือด(ล่าสุด 21 ส.ค. 62) ให้แพทย์ด้านรังสีวิทยา(รู้จักเป็นการส่วนตัว) ท่านบอกว่าผมไม่มีเชื้อไวรัสบีแล้วและมีภูมิแล้ว ผมสงสัยว่าเพราะเหตุใดความเห็นแพทย์จึงแตกต่างกัน จึงไม่ทราบว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไร เพราะผมก็อยากหาย ใจหนึ่งก็ดีใจที่แพทย์รังสีบอกว่าหาย แต่ใจหนึ่งก็กังวลว่าคงจะไม่หาย เพราะแพทย์อีกท่านบอกไว้ว่าไม่หาย จึงขอท่านผู้รู้ช่วยอ่านผลเลือดและตอบข้อสงสัยนี้ด้วยครับ