July 13, 2018 20:41
ตอบโดย
พิศุทธิกาญจญ์ รังคกูลนุวัฒน์ (พญ.)
การหลั่งข้างนอก ( withdrawal ) เป็นวิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพไม่ค่อยดีค่ะ จากสถิติ ถ้าทำได้ถูกต้องเลยโอกาสจะตั้งท้องประมาณ 4% แต่โดยทั่วๆไปหรือตามความจริงแล้ว ขณะที่อวัยวะเพศชายสอดใส่ มักมีสเปิร์มออกมาพร้อมกับร้ำหล่อลื่นบ้างบางส่วนค่ะ ทำให้โอกาสจะตั้งครรภ์ในชีวิตจริงมีสูงถึง 22-27% ค่ะ ดังนั้น หากไม่แน่ใจ และไม่ได้คุมกำเนิดโดยวิธีอื่นๆ ช่วย อาจจะต้องรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน โดยหากรับประทานภายใน 24 ชม แรกหลังมีเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 85% -90% แต่ถ้ากินภายใน 72 ชม ประสิทธิภาพได้ประมาณ 75% ค่ะ และช้าสุดที่ 120 ชม ประสิทธิภาพ ของการป้องกันการตั้งครรภ์ยังพอมีอยู่ แต่ลดลงไปมากค่ะ
หรือจะเปลี่ยนไปคุมกำเนิดโดยใช้ ห่วงอนามัย ประสิทธิภาพจะสูงกว่ายาคุมกำเนิดในช่วง 72-120 ชมค่ะ (สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 99%) ค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
- การหลั่งนอก มีโอกาสผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22%
- ส่วนการใช้ยาคุมฉุกเฉิน แม้จะใช้เร็วแค่ไหน ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้อย่างน้อย 15% ค่ะ
เนื่องจากวิธีที่ใช้ เป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไม่มีประสิทธิภาพสูงทั้งคู่ ดังนั้น จึงมีโอกาสตั้งครรภ์ได้มากกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีปกติหลายเท่าค่ะ เช่น
- ถ้าใช้ถุงยาง หากใช้ถูกต้องและไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2%
- ถ้าใช้ยาคุมรายเดือน หากใช้ถูกต้องและตรงเวลาสม่ำเสมอ จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 0.3%
ดังนั้น เมื่อเลือกวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ ก็ต้องยอมรับว่าจะมีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์มากกว่านะคะ
และหากยอมรับความเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้ ต้องไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อใส่ห่วงอนามัยชนิดหุ้มทองแดง ภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ค่ะ เนื่องจากใช้คุมกำเนิดฉุกเฉินได้หากใช้ทันเวลา และมีโอกาสตั้งครรภ์ได้เพียง 0.6 - 0.8% รวมถึงยังสามารถคุมกำเนิดต่อไปได้อีก 3 - 10 ปี ขึ้นกับรุ่นของห่วงอนามัยที่ใช้ค่ะ
***ห่วงอนามัยจะมีชนิดหุ้มทองแดงและชนิดเคลือบฮอร์โมนนะคะ หากต้องการใช้เพื่อคุมกำเนิดฉุกเฉิน ให้ระบุด้วยว่าต้องการใช้แบบหุ้มทองแดงด้วยค่ะ***
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75-85% ครับ
หลังจากนี้แนะนำให้รอสังเกตประจำเดือนดู ถ้าหากประจำเดือนไม่มาในเวลาที่ควรจะเป็น ก็แนะนำให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วัน และใช้ปัสสาวะหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจครับ
หลังจากนี้ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์ให้ปลอดภัยก็ควรมีการคุมกำเนิดร่วมด้วยทุกครั้ง เช่น .ใช้ถุงยางอนามัย รับประทานยาคุมกำเนิดรายเดือน ฉีดยาคุม
แต่ในช่วงหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉินแนะนำให้ใช้เฉพาะถุงยางอนามัยไปก่อน เมื่อประจำเดือนมาแล้วซึ่งแปลว่าไม่มีการตั้งครรภ์ จึงสามารถเริ่มใช้ยาคุมกำเนิดประเภทอื่นๆได้ โดยให้เริ่มภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
มีอะไรกับแฟนไม่ใส่ถุง หลั่งนอก กินยาคุมฉุกเฉินทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์ แต่กลัวท้อง
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)