June 01, 2019 00:51
ตอบโดย
วชิรวิทย์ สุทธิศักดิ์ (แพทย์ทั่วไป) (นพ.)
1.หลังหยุดฉีดยาคุม ถ้าเป็นยาคุมชนิดฉีดทุกสามเดือน กว่าประจำเดือนจะมาปกติ ใช้เวลา9-12เดือนครับ เเละหลังจากหยุดฉีดยา ยาก็ไม่มีฤทธิ์คุมกำเนิดต่อเเล้ว หมายความว่า ไข่จะตกช่วงไหนก็บอกไม่ได้ครับ จนกว่าประจำเดือนจะมาตามรอบปกติ
ดังนั้นถ้าวันที่มีเพศสัมพันธ์ มีไข่ตกพอดี ก็มีโอกาสท้องครับ
เเนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ถ้าสงสัยท้อง เเละหลังจากนี้ให้หาวิธีคุมกำเนิดด้วยครับ เช่น ใช้ถุงยางอนามัย กินยาคุม ฝังยาคุม
2.เลือดออกกระปริบกระปรอยเจอได้ เป็นผลข้างเคียงของการฉีดยาคุมครับ หลังหยุดฉีดก็ยังเจอได้ครับ
3.เรื่องตกขาว
อาจเป็นอาการของการติดเชื้อราในช่องคลอดครับ
จะมีตกขาว ขาวข้นเป็นก้อนคล้ายๆนม ติดอยู่กับผนังช่องคลอดได้ ร่วมกับช่องคลอดเเดง คันช่องคลอด มีปวดเเสบได้
...........
เกิดจากการที่เราสวนล้างช่องคลอด ใส่กางเกงในเเน่นมีอับชื้น หรือ กินยาฆ่าเชื้อเเบคทีเรีย ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้สมดุลเเบคทีเรียในช่องคลอดเสียครับ เชื้อก่อโรคในช่องคลอดจึงเเบ่งตัวเเละเกิดการติดเชื้อได้
............
เบื้องต้น ควรไปพบเเพทย์ พิจารณายาเหน็บฆ่าเชื้อ เช่น Clotrimazole ครับ หรือถ้าไม่มีเวลา ปรึกษาคุณเภสัชเบื้องต้นเรื่องยาได้ครับ
งดสวนล้างช่องคลอด งดใส่กางเกงอับชื้นครับ
โดยทั่วไปหลังสอดยา 2-3 วัน อาการจะดีขึ้นครับ
การรักษา เรื่องเชื้อราคือ
1.Clotrimazole มีประสิทธิภาพ 85-90 %
- ขนาด 100 mg สอดทางช่องคลอดวันละครั้ง นาน 7 วัน หรือสอดครั้งละ 2 เม็ด นาน 3 วัน
- ขนาด 500 mg สอดทางช่องคลอดครั้งเดียวครับ
หรือ
2.ยารับประทาน
- Ketoconazole รับประทานครั้งละ 200 gm วันละ 2 ครั้ง นาน 5 วัน
- Itraconazole รับประทานครั้งละ 200 mg วันละครั้งนาน 3 วัน หรือ 400 mg ครั้งเดียว
- Fluconazole รับประทาน 150 mg ครั้งเดียว
3.ยาทา : อาจใช้ทางช่องคลอดหรือใช้ทาภายนอกร่วมกับยาสอดในรายที่มีการอักเสบของปากช่องคลอดร่วมด้วย
Clotrimazole 1 % cream ใช้ทางช่องคลอด 5 gm นาน 7-14 วัน
Miconazole 2 % cream ใช้ทางช่องคลอด 5 gm นาน 7 วัน
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
นิชดา พงษ์ธัญญกรณ์ (แพทย์ทั่วไป) (พญ.)
สวัสดีค่ะ หลังฉีดยาคุมยาจะไม่มีประสิทธิภาพในการคุมแล้วค่ะ ดังนั้นถ้าไม่ได้ป้องกันอาจมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ จากประวัติมีเลือดออกสีน้ำตาลร่วมกับมีตกขาวอาจคิดถึงได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น
-ช่องคลอดหรือปากมดลูกอักเสบจากการติดเชื้อ จะมีอาการตกขาวมีกลิ่นเหม็นและมีสีน้ำตาลจากเลือดเก่า มีคันระคายเคืองในช่องคลอด
-เลือดออกจากการตกไข่ ซึ่งถ้ารอบประจำเดือนมาทุก 28 วัน มักจะเกิดประมาณวันที่ 14 หลังจากที่มีประจำเดือนวันแรก บางรายอาจมีปวดท้องน้อยร่วมด้วย
-เลือดออกจากประจำเดือนที่มาช้าหรือมาไม่ตรงรอบ
-เลือดล้างหน้าเด็ก หรือเลือดออกที่เกิดจากการฝังตัวของตัวอ่อน ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 หลังจากที่มีประจำเดือนวันแรก หรือ 1 สัปดาห์หลังการปฏิสนธิ แต่จะไม่มีอาการปวดท้อง เลือดสีน้ำตาลมักออกกะปริบกะปรอย
-เลือดออกจากการตั้งครรภ์นอกมดลูก มีอาการเลือดออกกะปริบกะปรอยและมีอาการปวดท้องน้อยร่วมด้วย
ดังนั้นถ้าสงสัยการตั้งครรภ์แนะนำให้ตรวจการตั้งครรภ์ดูค่ะ โดยตรวจได้ 14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ และตรวจในตอนเช้าจะได้ผลที่น่าเชื่อถือมากที่สุดค่ะ อย่างไรก็ตามแนะนำให้คุมการตั้งครรภ์ถ้าต้องการจะมีเพศสัมพันธ์ค่ะ เช่น ถุงยางอนามัย ยาคุมแบบรายเดือน แบบฉีด หรือแบบฝัง เป็นต้นค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
สอบถามหน่อยคะพอดีหยุดฉีดยาคุมมาประมาน3-4เดือนละคะ ตั่งแต่เลือกฉีดมา มีอะไรกับเเฟนหลังในตลอด พอวันที่29/05/62ที่ผ่านมา ตอนบ่ายมีอะไรกับเเฟน ตกเย็นมา มาเลือดออกเลือดสีน้ำตาลๆแดงๆคะ มานิดๆหน่อยคะ2วันก็หาย มีโอกาสท้องไหมคะ เลือดที่ออกมาเพราะเลิกฉีดยารึป่าวคะ ตอนนี้ปวดเต้านมมาก เวียนหัวบ่อย มีตกขาวร่วมด้วยคะ ตกขาวขุ่นๆเเป้งเปียกออกมาเยอะบ้าง น้อยบ้างบางวันคะ ตั่งเเต่เริ่มหยุดยาคุมมา
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)