ผมมีใบหูผิดรูปตั้งแต่เกิด(ใหญ่กว่าปกติ)จากโรคประจำตัว Cystic hygroma ซึ่งโรคประจำตัวดังกล่าวมีผลต่อขนาดและรูปใบหูทำให้มีขนาดใหญ่กว่าปกติ ซึ่งมีการผ่าตัดศัลยกรรมพลาสติกมาล่าสุดตอนปี6-7ปีก่อนที่ รพ.จุฬา จากการผ่าตัดครั้งนั้น ก็ไม่ได้รับการรักษาอีกเลย ซึ่งการดำเนินชีวิต ใน 1 ปีหูข้างที่ผ่าตัดจะมีการอักเสบ 2-3ครั้ง/ปี ซึ่งที่ผ่านมาอาการอักเสบเกิดและหายได้เอง และไม่ปวดมาก(ปวดระดับ 2ใน10) ซึ่งโดยวิธีการรักษาปกติคือการ ทานยา Cliprofloxacin 500mg+Tarivid otic ควบคู่กับยาหยอดและจะหายเองภายใน10-14วัน แต่เมื่อเดือน SEP ที่ผ่านมาได้มีการอักเสบชนิดรุนแรงเกิดขึ้น หลังจากไปดื่มแอลกอฮอลและนอนหลับซึ่งน่าจะนอนทับใบหูข้างที่ผิดรูปซึ่งช่วงนั้นพักผ่อนไม่เพียงพอน่าจะมีอาการอักเสบเบาๆอยู่แล้ว พอนอนทับเลยทำให้เกิดอาการอักเสบรุนแรงขึ้น โดยระหว่างนั้นได้ไปพบแพทและรับยาอย่างที่เคย Cliprofloxacin 500mg+Tarivid otic แต่อาการปวดรุนแรงมาก จึงต้องกิน Thymol บรรเทาอาการปวดรุนแรง(รู้สึกปวด8ใน10) ฉีดยาลดอาการปวดก็ไม่บรรเทา จนเริ่มที่จะปรับการเวลานอน การพักผ่อนและวิตตามิน ควบคู่กับยา ซึ่งอาการปวดบรรเทาลงแต่ยังปวดอยู่ในทุกๆเช้าจะปวดหนัก และเบาลงในระหว่างวัน ซึ่งอาการอักเสบดูทีท่าจะเปนๆหายๆ ไม่หายขาด แพทย์จึงให้ยา Celebrex400mg/1day มาเพื่อบรรเทาอาการปวดและอักเสบซึ่งหลังจากรับยาตัวนี้ค่อนข้างมีแนวโน้มที่ดี อาการปวดบรรเทาลงเหลือ(ปวดระดับ2ใน10) เพียงแต่ว่า อาการเริ่มกลับมากำเริบอีกครั้งเช้าวานนี้เพราะยาหมดไปสีกพักแล้วบวกกับอาการปวดอักเสบยังไม่หาย100% ตอนนี้จึงไปซื้อมาอีกแผง กินแล้วก็ดีขึ้น12ชม.จะไม่รุสึกปวดแต่อาการบวมตึงยังคงมีอยู่ อาการที่คาดเดาด้วยตัวเองคิดว่าตำแหน่ง Tympanic Cavity มีอาการอักเสบ ซึ่งตอนนี้ในหูไม่มีอาการอักเสบใดๆไม่มีของเหลว ไม่แดง แต่ว่าบริเวณกกหู(ตามภาพ)บวมตรึงและปวด ซึ่งไม่สามารถส่องกล้องเข้าไปดูได้ แพทย์ที่พบมักละเลยและเลือกที่จะไม่เสียเวลาตรวจสอบและจ่ายยาตามเดิม ซึ่งระยะเวลาที่ปวดและเป็นมาชัดเจนว่ามันไม่ใช่เพียงแค่หูชั้นกลางอักเสบ แต่คาดว่าจะมีการอักเสบระหว่างข้อต่อของกระดูกหูและปาก ซึ่งอยากทราบว่าควรพบหมอทางด้านใด หู คอ จมูก หรือ กระดูก และควรอธิบายอาการอย่างไร เพราะแพทย์ส่วนใหญ่ไม่มีเวลามานั่งฟังอาการทั้งหมดและวินิจฉัยตามอาการเพียงเบื้องต้นเท่านั้น เนื่องจากอาการปวดนี้เป็นก่อกวนการดำเนินชีวิตอย่างมาก ผมต้องการทราบว่า 1. แผนกที่มีความรู้เรื่องนี้ คือแผนกใด 2.วิธีการดูแลรักษาอาการอักเสบบริเวณข้อต่อหูและกรามต้องเอกเรย์หรือไม่ และต้องดูแลอย่างไร อย่างไรก็ตามผมไม่ใช่แพทย์และไม่ได้เรียนแพทย์มาการสันนิษฐานของผมอาจจะผิดพลาดได้เพียงแต่ผมยังไม่เจอแพทย์ท่านใดรับฟังและวินิจฉัยอาการของผมได้ตรงจุดจึงอธิบายโดยละเอียดตามจริง โรงพยาบาลที่ไปมาได้แก่ 1.โรงพยาบาล หู ตา คอ จมูก, 2.โรงพยาบาลจุฬา