May 31, 2019 11:54
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
ถ้าหากได้มีการป้องกันการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องแล้วไม่ว่าจะเป็นด้วยการใช้ยาคุมกำเนิดหรือถุงยางอนามัยก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาคุมฉุกเฉินเพิ่มครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยไม่จำเป็นนั้นจะทำให้ร่างกายได้รับฮอร์โมนจากยาที่มากเกินไปและอาจทำให้มีประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปจากปกติได้ โดยเฉพาะถ้าหากรับประทานยาคุมฉุกเฉินในวันที่ใกล้ประจำเดือนมามากๆ
ในกรณีนี้หมอแนะนำให้ใจเย็นๆและรอสังเกตประจำเดือนต่อไปอีกระยะหนึ่งก่อน ถ้าหากประจำเดือนยังไม่มาอยู่ก็ให้ลองตรวจการตั้งครรภ์ยืนยันดู โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ไม่มั่นใจว่า "มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกัน" ของผู้ถาม หมายถึงป้องกันด้วยวิธีใด เพราะถ้าเป็นวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน เช่น การใช้ถุงยางอนามัย ถ้าใช้ถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวล และไม่จำเป็นจะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินร่วมด้วยค่ะ
แต่ถ้าการป้องกันนั้นหมายถึง การหลั่งนอก โดยทั่วไปจะถือว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 22% นะคะ จึงมีความเสี่ยงสูงกว่าวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานหลายเท่า และไม่ใช่ทางเลือกที่ดีในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่ะ
ในกรณีที่ใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำ หรือเกิดความผิดพลาดจากวิธีคุมกำเนิดมาตรฐานที่ใช้อยู่ การใช้ยาคุมฉุกเฉินอาจช่วยลดความเสี่ยงลงมาได้บ้างนะคะ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินเองก็ไม่ได้สูงนัก แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา แต่ผู้ใช้ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ
ซึ่งหากไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนของผู้ใช้ยาคุมฉุกเฉินก็มักจะมาตามรอบปกติเดิม หรือคลาดเคลื่อนเพียงไม่กี่วันนะคะ โดยประจำเดือนปกติก็ควรจะ มีปริมาณมากจนชุ่มผ้าอนามัย 2 - 3 แผ่น/วัน และมาต่อเนื่องกัน 3 - 7 วันค่ะ
ส่วนเลือดกะปริบกะปรอยที่อาจพบภายใน 7 วันหลังรับประทาน เป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ อาจพบ หรืออาจไม่พบเลยก็ได้ ไม่ได้สำคัญอะไร และไม่ได้บ่งชี้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่นะคะ
ดังนั้น เลือดที่ออกมาในวันที่ 10 พฤษภาคม ก็น่าจะเป็นเพียงผลข้างเคียงจากยาค่ะ ไม่ใช่ประจำเดือน จึงยังบอกไม่ได้ว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ ต้องรอดูว่าจะมีประจำเดือนมาหรือเปล่านะคะ
แต่ในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ ประจำเดือนอาจคลาดเคลื่อนจากความเครียด, การเจ็บป่วย, การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัยก็ได้ค่ะ
ดังนั้น หากการป้องกันของผู้ถามเป็นวิธีคุมกำเนิดมาตรฐาน เมื่อใช้ถูกต้องและเหมาะสม ก็จะมีประสิทธิภาพสูงมากในการป้องกันนะคะ การที่ประจำเดือนยังไม่มา อาจเป็นผลจากยาคุมฉุกเฉินก็ได้ค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากรอนานแล้วไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้นะคะ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ใช้ถุงยางอนามัยค่ะ
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ และการที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนไปบ้างก็อาจเป็นผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินก็ได้
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดที่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% ดังนั้น หากรอนานแล้วไม่มีประจำเดือนมา หรือกังวลว่าจะตั้งครรภ์ สามารถตรวจให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบทางปัสสาวะตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน (ปัสสาวะแรกของวัน) ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
(มีเพศสัมพันธ์แบบป้องกัน)กินยาคุมฉุกเฉินวันที่ 5 พ.ค ประเดือนมาวันที่10 พ.ค หลังจากนั้นมีอะไรกันกับแฟนวันที่ 24 พ.ค แบบป้องกัน แล้วแฟนให้กินยาคุมฉุกเฉินอีก ใช้แอปปฎิทินประจำเดือน แอปบอกว่าประจำเดือนจะมาวันที 26 พ.ค มาช้ามาหกวันแล้วค่ะ มีแต่ตกขาว แบบนี้เป็นเพราะอะไรคะ (แต่ปกติเป็นคนประจำเดือนมาไม่ตรงกันทุกเดือนค่ะ)
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)