July 15, 2019 13:55
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
หากใช้ถุงยางถูกต้องและไม่รั่วซึมหรือฉีกขาดก็จะมีโอกาสตั้งครรภ์เพียงแค่ 2% ซึ่งถือว่าน้อยมากจนไม่น่าจะกังวลค่ะ
และในกรณีที่ไม่ตั้งครรภ์ก็ควรจะมีประจำเดือนมานะคะ แต่จะมาเมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับรอบประจำเดือนตามธรรมชาติของผู้ถามเองค่ะว่าโดยปกติจะมาห่างกันทุก ๆ กี่วัน และมาตรงเวลาสม่ำสมอหรือไม่ (ซึ่งต่างจากประจำเดือนในช่วงที่รับประทานยาคุมชนิดฮอร์โมนรวมที่ประจำเดือนจะถูกบังคับให้มาในช่วงปลอดฮอร์โมนของแผง)
ถ้าไม่มีประจำเดือนมาตามรอบปกติ หรือถ้ากังวลว่าจะตั้งครรภ์ ผู้ถามสามารถตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนได้ โดยใช้ชุดทดสอบการตั้งครรภ์ทางปัสสาวะ ตรวจในตอนเช้าหลังตื่นนอน ห่างจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุดอย่างน้อย 14 วันนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
หลังจากที่หยุดรับประทานยาคุมแบบรายเดือนแล้ว ถ้าหากยังมีการใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์อยู่และใช้ได้อย่างถูกต้องก็จะมีโอกาสผิดพลาดตั้งครรภ์ได้เพียง 2% เท่านั้นครับ
อย่างไรก็ตามถ้าหากประจำเดือนขาดหายไป หมอก็แนะนำว่าควรลองตรวจการตั้งครรภ์ก่อนเพื่อความมั่นใจ โดยให้ตรวจห่างจากการมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายอย่างน้อย 14 วันและใช้ปัสสาวะแรกหลังตื่นนอนตอนเช้าในการตรวจ ก็จะให้ผลตรวจที่เชื่อถือได้ 97-99% ครับ
ถ้าหากตรวจแล้วไม่พบการตั้งครรภ์ประจำเดือนที่มาช้าก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น เช่น
- ไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนที่ผ่านมา
- ระดับฮอร์โมนในเลือดที่ผิดปกติ
- ภาวะมีถุงน้ำหลายใบในรังไข่ (PCOS)
- ต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ
- การออกกำลังกายอย่างหักโหม
- น้ำหนักตัวที่มากหรือน้อยเกินไป
- ความเครียด
- ผลข้างเคียงของยาบางชนิด
ซึ่งในกรณีนี้ก็อาจรอประจำเดือนต่อไปก่อนได้ แต่ถ้าหากประจำเดือนขาดหายไปนานกว่า 3 เดือนหรือมีปัญหาประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมออยู่บ่อยๆก็ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หยุดกินยาคุมแบบ 21 เม็ดวันที่ กินยาเม็ดสุดท้ายคือวันที่ 10 มิถุนายน ประจำเดือนมาวันที่ 14-18 มิถุนายน หลังจากนั้นมีเพศสัมพันธ์แบบป้องกันโดยใส่ถุงวันที่ 22-23 มิถุนายน และอีกครั้งวันที่ 2-3 กรกฎาคม โดยหลังมีเพศสัมพันธ์เสร็จเช็กถุงยางไม่มีรั่ว/แตก วันนี้วันที่ 15 กรกฎาคม ประจำเดือนยังไม่มาเลยค่ะ บริเวณอวัยวะเพศ 2-3 วันมานี้มีเมือกใสออกมาค่อนข้างเยอะ บางครั้งก็เป็นตกขาวเล็กน้อยออกมา และมีอารมณ์ทางเพศสูง อยากทราบว่าประจำเดือนจะมารึป่าวคะและมีโอกาสท้องหรือไม่ ควรซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจหรือไม่ค่ะ กังวลมากเลยค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)