สวัสดีค้า คือว่า หนูพึ่งมีเพศสัมพันธ์กับเเฟนครั้งแรก ไม่ใส่ถุงยาง แตกนอกนะคะ ครั้งแรกของหนูเลย แล้วก็ ก่อนประจำเดือนจะมา 2-3 วัน จะท้องมั้ยคะ พึ่งเสร็จไม่กี่นาทีเองค่ะ ต้องทำอย่างไรบ้างคะ ซื้อยา หรืออะไรยังไงคะ ไม่อยากกิน ฉุกเฉินอ่ะ

สวัสดีค่ะ การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใส่ถุงยางสามารถตั้งครรภ์ได้ค่ะ ถึงแม้จะไม่ได้แตกในก็ตาม สำหรับการมีเพศสัมพันธ์ก่อนมีประจำเดือน7วันถือว่าเป็นการคุมแบบนับวัน แต่เป็นการคุมที่มีโอกาสตั้งครรภ์ได้สูงมาก เนื่องจากแต่ละรอบเดือนประจำเดือนอาจไม่ได้มาตรงวันทุกเดือน ดังนั้นหลังมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันไปแล้วนั้นควรทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินค่ะ โดยให้ทานให้เร็วที่สุดหลังมีเพศสัมพันธ์ หรืออย่างช้าสุดคือไม่เกิน 120 ชั่วโมงค่ะ ยิ่งทานเร็วประสิทธิภาพในการคุมกำเนิดก็จะมีมากค่ะ

สวัสดีค่ะ การหลั่งนอกถือเป็นการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำค่ะ เนื่องจากน้ำอสุจิเพียงเล็กน้อยก็มีอสุจิเป็นล้านตัวค่ะ หากไม่ได้ใช้ร่วมกับการคุมกำเนิดวิธีอื่น ๆ เช่น การใส่ถุงยางอนามัย หรือการใช้ฮอร์โมนคุมกำเนิดค่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการมีเพศสัมพันธ์ในวันที่ฝ่ายหญิงมีการตกไข่ค่ะ

หากกลัวว่าจะตั้งครรภ์ การรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉินภายใน 72 ชั่วโมงแรกหลังมีเพศสัมพันธ์ มีประสิทธิภาพการคุมกำเนิดได้ประมาณ 70-80%

ทั้งนี้หากกังวลว่าจะตั้งครรภ์สามารถตรวจการตั้งครรภ์ได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 3-4 สัปดาห์ค่ะ

มีโอกาสเกิดความผิดพลาดและตั้งครรภ์ได้ 22% ค่ะ (ถือว่าสูง เมื่อเทียบกับการใช้ถุงยางที่ถูกต้องและไม่รั่วซึม ที่มีโอกาสตั้งครรภ์เพียง 2%)

หากไม่อยากใช้ยาคุมฉุกเฉิน และพร้อมจะรับความเสี่ยงดังกล่าว ก็รอลุ้นว่าจะมีประจำเดือนมาหรือไม่นะคะ ถ้ามีประจำเดือนมา ก็คือไม่ตั้งครรภ์ค่ะ แต่ถ้าไม่มี ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ จึงต้องตรวจการตั้งครรภ์ให้ชัดเจนนะคะ

แต่ถ้าไม่พร้อมจะรับความเสี่ยง แนะนำให้รีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินโดยเร็วค่ะ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ หากใช้เร็วและครบขนาด อาจช่วยลดความเสี่ยงให้ลงมาเป็น 15% แทนได้ค่ะ

การหลั่งนอกไม่ใช่การคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพ เพราะอาจมีอสุจิบางส่วนปนมากับน้ำหล่อลื่น หรือออกมาในขณะที่กำลังนำอวัยวะเพศออกมาจากช่องคลอด จึงทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นหากไม่มั่นใจ การป้องกันการตั้งครรภ์คือการรับประทานยาคุมฉุกเฉินค่ะ ควรรีบทานให้เร็วที่สุดยิ่งทานเร็วยิ่งป้องกันได้มากค่ะ

ถ้าประจำเดือนยังไม่มา แต่กำลังจะมาพอดี นั่นคือ เยื่อบุมดลูกใกล้จะหลุดลอกออกมาแล้ว การรับประทานยาคุมฉุกเฉิน อาจทำให้เยื่อบุมดลูกชะลอการหลุดลอก ประจำเดือนจึงเลื่อนช้าออกไปได้ แต่ก็เพียงเล็กน้อยไม่กี่วันค่ะ

แต่ถ้าเริ่มมีการหลุดลอกของเยื่อบุมดลูกและมีประจำเดือนแล้ว การใช้ยาคุมฉุกเฉินไม่สามารถทำให้เลือดหยุดไหลได้ จึงจะมีประจำเดือนต่อไปตามปกตินะคะ

เมื่อใช้ยาคุมฉุกเฉินแล้ว สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติค่ะ

ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ เจ็บคัดตึงเต้านม และมีเลือดกะปริบกะปรอยได้ในไม่กี่วันหลังใช้ยา แต่อาการมักจะไม่รุนแรงและหายเองได้

ดังนั้น อาการคลื่นไส้ หน้ามืด ตาลาย จะเป็นลม เหงื่อออกมา หูอื้อ ที่ผู้ถามเป็นอยู่นั้น ไม่ใช่ผลข้างเคียงจากยาคุมฉุกเฉินค่ะ หากมีอาการรุนแรงก็ควรไปพบแพทย์โดยเร็วเพื่อตรวจเพิ่มเติมว่าเกิดจากสาเหตุใด เพื่อจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมนะคะ

โดยปกติไข่จะตกในช่วงกึ่งกลางของรอบเดือนค่ะ (นับจากวันที่มีประจำเดือนมาวันแรกของครั้งหนึ่งไปหาอีกครั้งหนึ่ง)

แต่วันที่มีไข่ตกจริงก็อาจคลาดเคลื่อนไปจากที่คาดการณ์ไว้ได้ หากมีความแปรปรวนของฮอร์โมนจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น ความเครียด การเจ็บป่วย การใช้ยาคุม/ฮอร์โมน หรือแม้แต่ความแปรปรวนของฮอร์โมนตามวัย

ดังนั้นผู้ถามไม่ต้องไปสนใจว่าไข่จะตกวันไหนหรอกนะคะ สิ่งที่ควรทำก็คือรีบรับประทานยาคุมฉุกเฉินให้เร็วที่สุดที่ทำได้เพื่อเป็นการป้องกันสำรองไว้ก่อนค่ะ

ถ้ามั่นใจว่าใช้ถุงยางถูกต้อง และไม่มีการรั่วซึมหรือฉีกขาด จะมีโอกาสตั้งครรภ์ 2% ซึ่งก็ถือว่ามีความเสี่ยงน้อย ดังนั้น จะไม่รับประทานยาคุมรายเดือนก็ได้ค่ะ

แต่ถ้ากังวลว่าการใช้ถุงยางอาจมีความผิดพลาด เช่น ใช้ไม่ถูกต้อง หรือถุงยางรั่วซึมหรือฉีกขาด ก็สามารถเปลี่ยนไปใช้ยาคุมรายเดือนแทนได้นะคะ เพราะถ้าใช้ยาคุมรายเดือนถูกต้อง จะมีโอกาสตั้งครรภ์น้อยมาก เพียงแค่ 0.3%

หรือจะใช้ถุงยางร่วมกับยาคุมรายเดือนก็ได้เช่นกัน เพราะหากมีทางใดทางหนึ่งพลาด ก็ยังมีอีกทางที่มีประสิทธิภาพดีเช่นกันช่วยป้องกันสำรองไว้ อีกทั้งยังได้ประโยชน์จากถุงยางในการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย

แต่ถ้าเลือกใช้ถุงยาง หรือยาคุมรายเดือน วิธีใดวิธีหนึ่ง หากใช้ถูกต้องก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง หรือมีปัญหา เช่น ใช้ถุงยางแล้วถุงยางฉีกขาด หรือใช้ยาคุมรายเดือนแต่ลืมรับประทานยา ก็จะต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีป้องกันสำรองนะคะ แต่ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่สูงมาก ดังนั้น แม้จะใช้ครบขนาดและทันเวลา ก็ยังมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ 15 - 25% ค่ะ

การใช้ยาคุมรายเดือน จะต้องใช้ให้ถูกต้อง "และมีผลคุมกำเนิดจากยาเกิดขึ้นก่อน" จึงจะมีเพศสัมพันธ์หลั่งในได้ค่ะ

แนะนำให้ใช้ถุงยางไปก่อนนะคะ แล้วรอให้ประจำเดือนมารอบถัดไป จึงค่อยเริ่มรับประทานยาคุมรายเดือนแผงแรกภายใน 5 วันแรกของการมีประจำเดือนค่ะ หากใช้ทันช่วงเวลานั้น จึงจะมีผลคุมกำเนิดได้ตั้งแต่เม็ดแรกที่รับประทาน