August 17, 2019 17:50
ตอบโดย
นิธิวัฒน์ ตั้งชมพู (นพ.)
สวัสดีครับ
ขอแบ่งเป็น 2 กรณีครับ
1) กรณีคนไข้ทานยสคุมกำเนิดชนิด 2 เม็ด และยังไม่ครบ 12 ชม ให้ทานเม็ดที่ 2 ในเวลาครบ 12 ชม ไม่ค้องเริ่มแผงใหม่ครับ
2) หากทานชนิดเม็ดเดียว แนะนำใหทานซ้ำครับ เนื่องจากยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน มีฤทธิ์คุมกำเนิดครั้งเดียวหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งนั้นๆเท่านั้นครับ
ดังนั้น แนะนำว่า หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันอีกครั้ง ก็ต้องทานใหม่อีกครั้งครับ
อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรทานยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ อาจทำให้ผลข้างเคียงของยาเพิ่ทขึ้นได้ครับ
ผลข้างเคียงหลังจากรับประทานยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ได้แก่อาการคลื่นไส้อาเจียน เวียนหัว และหลังจากรับประทานในช่วงสัปดาห์แรก อาจมีเลือดออกกะปริดกะปรอยได้ แต่ไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินครับ ประจำเดือนของคนไข้ ควรมาตรวรอบตามปกติครับ หากพบว่าประจำเดือนไม่มาตามรอบปกติเกิน 1-3 สัปดาห์ (หรือหลังมีเพศสัมพันธ์ 14 วัน) ให้ทดสอบการตั้งครรภ์ หรือพบแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องครับ
หากคนไข้มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันบ่อยๆ ควรป้องกันโดยวิธีอื่นๆ เช่น การใส่ห่วงอนามัย การทานยาคุมกำเนิด 21 หรือ 28 เม็ด หรือ การฝังยาจะดีกว่าครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ปรึกษาเภสัช สั่งยา ฟรีค่าส่งทั่วประเทศ*
แชทกับเภสัชกรฟรี! 9 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน พร้อมรับส่วนลดค่ายา 5% HDmall ออกค่าส่งให้สูงสุด 40 บาท
ตอบโดย
จินตนา แสงโพธิ์ (เภสัชกร)
ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้มีผลคุมกำเนิดต่อเนื่องหลังรับประทานค่ะ ผู้ถามจึงต้องรับประทานยาคุมฉุกเฉินเพิ่มอีก 1 แผงโดยเร็วที่สุดที่ทำได้ ยิ่งเร็วยิ่งดี อย่างช้าไม่เกิน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์นะคะ
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของยาคุมฉุกเฉินไม่ได้สูงมาก การนำมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดปกติ เช่น ใช้เพราะไม่อยากใส่ถุงยาง มีความเสี่ยงที่จะป้องกันไม่สำเร็จได้มากกว่าหลายเท่า
ดังนั้น ครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์ หากยังไม่พร้อมจะมีบุตร และไม่ได้คุมกำเนิดด้วยวิธีใด ๆ อยู่ ควรใช้ถุงยางทุกครั้งนะคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
พิมพกา ชวนะเวสน์ (สูตินรีแพทย์)
ต้องทานซ้ำค่ะ
ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยิ่งกินเร็วเท่าไหร่ หลังมีเพศสัมพันธ์ ยิ่งดีค่ะ โดยตามหลักการ ให้กินยาภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ ปัจจุบันยืดหยุ่นให้ถึง 120 ชั่วโมงแล้วค่ะ
อย่างไรก็ตาม ยาคุมฉุกเฉิน ประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ดีไม่เท่า การคุมกำเนิดวิธีอื่นๆ เช่น การกินยาคุมปกติค่ะ (ยาคุมปกติ ถ้ากินถูกวิธี ประสิทธิภาพคุมกำเนิด มากกว่า 90 % แต่คุมฉุกเฉิน อาจจะแค่ประมาณ 80% - 85%
เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นไปได้ แนะนำใช้การคุมกำเนิดวิธีอื่นค่ะ ใช้ยาคุมฉุกเฉิน เมื่อจำเป็นเท่านั้น
ยาคุมฉุกเฉิน คือ ฮอร์โมนเพศหญิงขนาดสูงค่ะ สูงกว่าระดับธรรมชาติในร่างกาย หลังได้รับไปแล้วจะทำให้รอบเดือนแปรปรวนได้ค่ะ อาจจะบอกยากว่า เมนส์จะมาเมื่อไหร่
และด้วยความที่ฮอร์โมนสูง ก็ทำให้มีอาการข้างเคียงอื่นๆได้ เช่น คัดตึงเต้านม คลื่นไส้อาเจียน เวียนศีรษะ
อย่างไรก็ตาม ถ้าถึงรอบเมนส์มาปกติ แล้วเมนส์ยังไม่มา ให้ลองตรวจปัสสาวะดูการตั้งครรภ์ดูค่ะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 25,500 บาท ลดสูงสุด 35%!!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
ตอบโดย
สุวพัชญ์ พิศาลมงคล (นพ.)
เพิ่มเติมครับ ขอแนะนำให้คุมกำเนิดวิธีอื่นหลังจากนี้ครับ เนื่องจากการคุมกำเนิดด้วยยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไม่ใช่วิธีที่มีประสิทธิภาพสูงครับ
การคุมกำเนิดมีหลายวิธีครับ ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป เช่น
- ยาฝังคุมกำเนิด โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.05
- ห่วงคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมน โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.1
- การทำหมันถาวรชาย-หญิง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.1-0.5
- ห่วงคุมกำเนิดชนิดทองแดง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.5
- ยาฉีดคุมกำเนิด 0.3-3
- ยาเม็ดคุมกำเนิด โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.3-8
- แผ่นฮอร์โมนปิดผิวหนัง โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 0.3-8
- ถุงยางอนามัย โอกาสการตั้งครรภ์ร้อยละ 2-15 เป็นวิธีเดียวที่ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้เมื่อใช้อย่างถูกวิธี
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
ตอบโดย
กันตณัฏฐ์
อยู่ตรีรักษ์ (แพทย์ทั่วไป)
(นพ.)
General physician
สวัสดีครับ
การรับประทานยาคุมฉุกเฉินจะมีผลป้องกันการตั้งครรภ์จากการมีเพศสัมพันธ์ก่อนรับประทานยา 120 ชั่วโมงเท่านั้นครับ แต่ถ้าหากได้มีเพศสัมพันธ์อีกหลังจากรับประทานยาคุมฉุกเฉินไปแล้วก็จะไม่ได้รับการป้องกันการตั้งครรภ์จากยาคุมฉุกเฉิน
ในกรณีนี้หมอแนะนำว่าควรหายาคุมฉุกเฉินมารับประทานอีกครั้งให้เร็วที่สุดก่อน โดยให้รับประทานภายใน 72 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดโอกาสตั้งครรภ์ลงได้ 75-85% แต่ถ้าหากเลยช่วงเวลาดังกล่าวไปแล้วก็ยังอนุโลมให้รับประทานภายใน 120 ชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ได้ แต่ประสิทธิภาพของยาก็จะลดลงไปเรื่อยๆตามเวลาที่ผ่านไปครับ
และในครั้งต่อไปที่จะมีเพศสัมพันธ์อีกก็ควรมีการป้องกันทุกครั้งเพื่อความปลอดภัยครับ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต คำตอบของแพทย์เป็นการให้ความรู้และคำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรค หรือการรักษา คุณควรพบแพทย์ที่สถานพยาบาลเพื่อให้แพทย์ตรวจทุกครั้ง หากคุณมีเหตุฉุกเฉินกรุณาโทรแจ้ง 1669
หมดปัญหาเหงื่อออกมากที่มืออย่างถาวร รักษาแล้วมือแห้ง ชีวิตง่ายขึ้น!
จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / เบิกประกันได้ / ผ่อน 0% ได้ / ปรึกษาหมอก่อนผ่าตัดได้ไม่จำกัดครั้ง
กินยาคุมฉุกเฉินที่มี1เม็ด เมื่อวานเวลาเที่ยง แล้ววันนี้มีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ต้องกินยาคุมฉุกเฉินซ้ำอีกมั้ยคะ
ตอบโดยแพทย์ที่มีใบอนุญาต (คำตอบนี้เป็นการให้คำแนะนำเบื้องต้น ไม่สามารถแทนการวินิจฉัยโรคหรือการรักษา คุณควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจหากมีอาการน่ากังวล)