สวัสดีครับคุณหมอ ผมมีเรื่องจะสอบถามคุณหมอครับ เกี่ยวกับหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศชาย คือเนื่องจากมีช่วงนึงที่ผมต้องทำกิจกรรมกลางแจ้งเหงื่อออกบ่อยๆ บวกกับเวลาอาบน้ำทำความสะอาดจะไม่ค่อยได้เช็ดให้แห้งเลยทำให้เกิดอาการคันๆขึ้นมาตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไรพอผ่านไป4-5วันอาการคันบริเวรหนังหุ้มปลายไม่หายเลยดูปรากฎว่าเมื่อผมถลกหนังหุ้มลงบริเวรรอบๆคอมันจะมีอาการคล้ายๆแผลปริแตกแยกออกจากกัน แล้วเป็นแผลเลือดซิบๆไม่ได้ออกมากแรกๆก็ซับให้แห้งล้างเช็ดแผล แล้วก็หาย แต่ก็เริ่มเป็นอีกครั้งเมื่อเวลาช่วยตัวเองแรงๆทีนี้ผมเลยไปซื้อยาร้านเภสัช ได้เป็นเจ้าตัวยาGentrexมา ก็ทาๆหายๆ ถ้าเกิดว่ามีการถลกหนังลงแรงหรือช่วยตัวเองแรงๆมันก็จะเป็นอีก ไม่ทราบว่าผมเป็นอะไรหรือครับแล้ววิธีการหายขาดควรทำไงเอ๋ย? ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ (ปล.มีภาพ18+แนบ)

สวัสดีครับ แต่ถ้าคันมาก อาจจะเกิดจากโรค 
1.กลาก ซึ่งเป็นเชื้อรา กลุ่ม dermatophyte ครับ จะมีอาการคัน มีผื่นวงแดง มีขุ่ยๆลอก การรักษาคือ การทายาฆ่าเชื้อราอย่างน้อย 2 อาทิตย์ครับ 
2.เชื้อราพวก candida ซึ่งจะคันมาก มีตุ่มแดงๆขึ้นตามที่ต่างๆ ไม่มีขุ่ย การรักษาคือการทายาแก้เชื้อราอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เช่นกันครับ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นแนะนำให้ลองตรวจกับแพทย์ที่โรงพยาบาลดูครับ

จากภาพจะพบว่ามีอาการแดงเล็กน้อย และเป็นขุ่ยๆ นะครับ ซึ่งสามาถเกิดได้จากเชื้อราดังที่กล่าวไปข้างต้นครับ และ สามารถเกิดได้จาก ผิวหนังอักเสบครับ จะมีอาการคัน และเจ็บได้ครับ

สำหรับรูปดังกล่าวที่แนบมา คือจะพบว่ามีผิวหนังเป็นสีแดงๆ ขุ่ยเห็นไม่ชัดเจนนะครับ ซึ่ง จะมีอาการเจ็บเวลารูดหนังหุ้มอวัยวะเพศลง ซึ่งลักษณะดังกล่าว จะเรียกว่า หนังหุ้มอวัยวะเพศ อักเสบครับ สามาาถเกิดได้จาก

1.การติดเชื้อแบคทีเรีย
2.การติดเชื้อรา
3.ผิวหนังอักเสบจากการแพ้
4.การบาดเจ็บจากการใช้งาน เช่น การมีเพศสัมพันธ์ แล้วช่องคลอดไม่ลื่น

การรักษาเบื้องต้นนะครับ คือการดูแลความสะอาด และงดดารมีเพศสัมพันธ์หรือ ช่วยตนเองอย่างน้อย 1 สัปดาห์ เป็นต้นครับ